นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด เอไอเอส กล่าวว่า “วิถีการใช้ชีวิตของคนในสังคมเดี๋ยวนี้ ต้องมีส่วนเกี่ยวพันกับการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยคนไทยเกือบทั้งหมดมีบัญชีธนาคารเป็นของตนเองและมีการทำธุรกรรมผ่านทางบัญชีนั้นๆอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นด้วยแนวคิดของเอไอเอสที่ต้องการอยู่เคียงข้างและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการในทุกด้าน ที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 เอไอเอสจึงเป็นรายแรกๆที่นำเทคโนโลยีไร้สายมาพัฒนาเป็นบริการ Mobile Banking ให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารได้อย่างสะดวกสบาย ทุกที่ ทุกเวลา ง่ายๆบนมือถือ ด้วยรูปแบบและมาตรฐานความปลอดภัยเช่นเดียวกับการทำธุรกรรมผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร โดยไม่ต้องเปลี่ยนซิม”
ปัจจุบันเอไอเอสจึงเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพียงรายแรกและรายเดียวที่ร่วมมือกับ 5 ธนาคารใหญ่ ประกอบด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารทหารไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารกสิกรไทย เปิดให้ลูกค้ากว่า 27 ล้านราย สามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบริการ AIS Mobile Banking ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณได้ ดังนี้
– โอนเงินต่างธนาคาร ได้แบบ Real time ตลอด 24 ชม. หรือโอนระหว่างบัญชีก็ได้
– ชำระเงินค่าบริการต่างๆ ทั้งค่าบัตรเครดิต, ค่างวดเงินกู้/เช่าซื้อ, ค่าน้ำ, ค่าไฟฟ้า, ค่าโทรศัพท์มือถือ, เติมเงินมือถือ ฯ
– เรียกดูบิล (e-Bill) และชำระเงินได้
– ซื้อ-ขาย-สับเปลี่ยนกองทุนเปิดได้ด้วยตนเอง
– เช็คยอดเงินในบัญชี และเรียกดูรายละเอียดยอดบัตรเครดิตได้
“เราได้คัดสรรเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับรูปแบบบริการของแต่ละธนาคาร และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างดีที่สุดมาพัฒนา เพื่อให้ลูกค้าใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย และลงตัวมากที่สุด โดยในอนาคตจะพัฒนารูปแบบบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสามารถอยู่เคียงข้างและสนับสนุนการใช้ชีวิตลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ” นายสมชัย กล่าว