กรมป่าไม้และราชบุรีโฮลดิ้ง สานต่อ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ปี 2

กรมป่าไม้ ร่วมกับ ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง สานต่อโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ปี 2” มุ่งส่งเสริมชุมชนให้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และเสริมสร้างระบบนิเวศป่าไม้ด้วยการเพิ่มพูนคุณค่าทางชีวภาพให้กับระบบนิเวศ และส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนกับสิ่งแวดล้อมในรูปแบบของการเกื้อกูลอย่างสมดุลและยั่งยืน อีกทั้งสนับสนุนการสร้างเครือข่ายทุกภาคส่วนในการดูแลรักษาพื้นที่ป่าชุมชนของประเทศ

นายภิมุข สิมะโรจน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้กำหนดเป็นนโยบายสำคัญในการดูแลรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนและเน้นการสร้างเครือข่ายของทุกภาคส่วน ได้แก่ การปลูกป่า การดำเนินงานหมู่บ้านป่าไม้แผนใหม่ ซึ่งให้มีการดำเนินงานอย่างครบวงจรและยั่งยืน รวมทั้งโครงการตามแนวพระราชดำริต่างๆ ที่ทุกหน่วยงานของกระทรวงเป็นผู้รับผิดชอบ โดยถือเป็นนโยบายสำคัญที่ต้องดำเนินการ โดยเฉพาะนโยบายเกี่ยวกับ Reshape นั้น กระทรวงฯ มีนโยบายให้กำหนดพื้นที่แนวกันชนในลักษณะทำเป็นป่าชุมชนด้วยการให้ชุมชนร่วมกันรับผิดชอบและดูแลรักษาเป็นสมบัติของชุมชนเอง โดยให้ชุมชนปลูกป่าและสามารถใช้ประโยชน์จากป่าชุมชนได้ รวมทั้งนโยบายการจัดตั้งกองทุนลูกเสืออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อปลุกจิตสำนึกให้เยาวชนรวมทั้งนโยบายการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมในการติดตามสถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน เป็นโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้านป่าชุมชน ได้มีการริเริ่มดำเนินการขึ้นในปี 2551 ที่ผ่านมา โดยกรมป่าไม้และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นการสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและการดูแลรักษาป่าของประเทศ โดยได้จัดประกวดป่าชุมชนตัวอย่าง ซึ่งปัจจุบันมีป่าชุมชนที่ขึ้นทะเบียนอยู่กับกรมป่าไม้ จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,500 แห่งทั่วประเทศ คิดเป็นพื้นที่ป่าที่ชุมชนดูแลรักษากว่า 2.6 ล้านไร่ โดยมีเจตนารมณ์ที่ต้องการสนับสนุนและยกระดับให้เป็นป่าที่เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีมาตรฐานให้กับชุมชนอื่นๆ นำไปเป็นแบบอย่างในการพัฒนาป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ

นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนชั้นนำของประเทศ กล่าวว่า การดำเนินโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยมีชุมชนต่างๆ จากทั่วประเทศให้การตอบรับโครงการมาก ในปีนี้กรมป่าไม้และบริษัทจึงได้ร่วมกันขยายผลและสานต่อโครงการเพื่อขับเคลื่อนกระบวนการฟื้นฟูและพัฒนาป่าชุมชน อีกทั้งสร้างเครือข่ายป่าชุมชนทั่วประเทศในการบริหารจัดการป่าในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อขยายพื้นที่ป่าไม้เพิ่มขึ้นและสังคมเกิดความตระหนักในคุณค่าของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติกว้างขวางมากขึ้น

สำหรับการดำเนินโครงการในปี 2552 ซึ่งเป็นปีที่ 2 นั้น โครงการยังสานต่อตามเจตนารมณ์เดิมในการดำเนินการ โดยป่าชุมชนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นป่าชุมชนระดับประเทศจะได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ป้ายประกาศเกียรติคุณ พร้อมเงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชน รวมมูลค่าสองแสนบาท และในปีนี้ คณะกรรมการยังได้พิจารณาเพิ่มรางวัลพิเศษ คือ ป่าชุมชนดีเยี่ยมด้านแหล่งอาหารสมบูรณ์ เพื่อสนับสนุนป่าชุมชนที่ใช้ประโยชน์ด้านอาหารและสมุนไพรจากป่าชุมชนอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีรางวัลป่าชุมชนระดับภาค ระดับจังหวัด และรางวัลชมเชย รวมเงินรางวัลของโครงการมีมูลค่าทั้งสิ้น 3.6 ล้านบาท โดยมีกำหนดการเปิดรับสมัครป่าชุมชนเข้าร่วมโครงการ ระหว่างวันที่ 1 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2552 และดำเนินการคัดเลือกป่าชุมชนดีเด่นระดับจังหวัดในเดือนมิถุนายน และระดับภาคและระดับประเทศในเดือนกรกฎาคม สำหรับการประกาศรางวัลและพิธีมอบรางวัลกำหนดจะมีขึ้นในเดือนกันยายน 2552 ทั้งนี้ สามารถติดตามความคืบหน้าโครงการได้ทางเว็บไซต์กรมป่าไม้ www.forest.go.th และเว็บไซต์บริษัท www.ratch.co.th

“กรมป่าไม้และ ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมกันในการดำเนินโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง ตามหลักการบริหารจัดการโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตินี้ นับเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายที่กระทรวงฯ ได้วางไว้ ซึ่งกระทรวงฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน จะช่วยสร้างเสริมจิตสำนึกให้ชุมชนร่วมกับทุกฝ่ายช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและมีแนวทางการพัฒนาป่าไม้ร่วมกัน โดยการส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง มีความสามารถจัดการป่าในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามเจตนารมณ์ของโครงการ” นายภิมุข กล่าวในตอนท้าย