กรมส่งออกฯ เดินหน้าโครงการเพิ่มศักยภาพธุรกิจไทย ผ่านตลาดออนไลน์ สนองรับนโยบาย ฯพณฯ พรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประเดิมลงนาม MOU อีเบย์ เพื่ออบรมผู้ส่งออกไทย ขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ เปิดกว้างให้ ผู้ส่งออกที่เป็นสมาชิกกรมฯ กลุ่มสมาชิก Trade Mart และผู้ประกอบการหน้าใหม่ เข้าอบรม เผยสิทธิพิเศษ ฟรีค่าธรรมเนียมวางขายสินค้าสำหรับ 100 รายการแรก พร้อมมอบส่วนลดค่าธรรมเนียมสูงสุด 25% ให้แก่ 100 รายการแรกที่รับชำระเงินผ่านเพย์พาล ด้าน อีเบย์ เผยอัญมณี-เครื่องประดับ-นาฬิกา มีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 77,000 ล้านบาท บนตลาดออนไลน์อีเบย์
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ อีเบย์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ซื้อขาย ประมูลสินค้าบนอินเทอร์เน็ตอันดับหนึ่งของโลก ภายใต้โครงการ “กรมส่งเสริมการส่งออก เพิ่มศักยภาพธุรกิจไทย ด้านการตลาดออนไลน์ กับอีเบย์” ทั้งนี้เป็นไปตาม นโยบายของ ฯพณฯ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มุ่งให้มีการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจ ผู้ส่งออกไทยในการขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ ทางเลือกใหม่ในการส่งออก โดยจะเปิดกว้างให้กับผู้ประกอบการและผู้ส่งออกที่เป็นสมาชิกของกรมส่งเสริมการส่งออก (Export List) ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 10,000 ราย สมาชิกด้านการค้าเพื่อการส่งออก (Trade Mart) และนักธุรกิจ หรือผู้ประกอบการใหม่ที่สนใจเกี่ยวกับการส่งออก เข้าร่วมฝึกอบรมและสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มพูนทักษะการดำเนินธุรกิจบนตลาดออนไลน์อีเบย์ พร้อมให้คำปรึกษาเชิงลึกแก่ผู้ส่งออกไทยทั่วประเทศ
ทางด้าน มร. โอลิเวอร์ ฮัว ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ อีเบย์ ประเทศจีนและภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า “อีเบย์รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากกรมส่งเสริมการส่งออก ภายใต้ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว ทั้งสององค์กรจะเติมเต็มจุดแข็งของกันและกัน โดยผสานความรู้ ความชำนาญ และทรัพยากรต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโตด้านอีคอมเมิร์ซให้กับธุรกิจส่งออกในประเทศไทย”
มร. ฮัว ได้กล่าวถึงศักยภาพการเติบโตของสินค้าจากประเทศไทยว่าจากสถิติการส่งออก ซึ่งประมวลโดยกรมส่งเสริมการส่งออก พบว่า อัญมณีและเครื่องประดับเพชรพลอย นับเป็นหนึ่งในไม่กี่อุตสาหกรรมที่ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งในไตรมาสแรกของปี 2552 นี้ สินค้าประเภทอัญมณีและเครื่องประดับเพชรพลอย นำรายได้เข้าประเทศไทยสูงถึงราว 140,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 106.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
“สินค้าประเภทอัญมณีและเครื่องประดับเพชรพลอยโดยช่างฝีมือชาวไทย กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้รับความนิยมสูงบนตลาดออนไลน์ของอีเบย์ ซึ่งในปี 2551 สินค้าประเภทอัญมณี เครื่องประดับ และนาฬิกา มีมูลค่าการซื้อขายสินค้าสูงถึง 77,000 ล้านบาท บนตลาดออนไลน์อีเบย์” มร. ฮัว กล่าว
และเพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจส่งออกไทยเข้ามาใช้อีเบย์เป็นช่องทางในการขายสินค้ามากขึ้น อีเบย์จึงได้ประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมวางขายสินค้าสำหรับ 100 รายการแรกของสมาชิกใหม่ที่เข้าร่วมโครงการ และมอบส่วนลดค่าธรรมเนียมสูงสุด 25% ให้แก่ 100 รายการแรกที่รับชำระเงินผ่านเพย์พาล ในเครือของอีเบย์
“ด้วยการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของอีเบย์ใน 39 ประเทศ ทั่วโลก ผมเชื่อมั่นว่าอีเบย์จะสามารถช่วยเสริมสร้างการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในไทย โดยเปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกสามารถเจาะตลาดใหม่ด้วยแพลท์ฟอร์มของอีเบย์ ขยายฐานลูกค้าให้เข้าถึงผู้ซื้อในนานาประเทศ เพื่อผลักดันยอดขาย” มร. ฮัว กล่าวทิ้งท้าย