กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดงาน Middle East 2009 เพื่อเปิดตลาดการค้าตะวันออกกลาง ขยายช่องทางการตลาดลู่ทางใหม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจ ประสบความสำเร็จสวยงาม นักลงทุน ให้ ความสนใจนิทรรศการ ปรึกษาด้านการลงทุน การสัมมนา กฎ ระเบียบ และการเตรียมตัว พร้อมเปิดโต๊ะเจรจาการค้าคึกคัก โดยเฉพาะธุรกิจสปาและร้านอาหาร ด้วยตะวันออกกลางเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงมาก
นายคณิสสร นาวานุเคราะห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าสืบเนื่องจากนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งหาตลาดการค้าใหม่ๆให้กับนักลงทุนไทย ทางกรมฯจึงได้สนองรับนโยบายดังกล่าว โดยได้มีการจัดงาน MIDDLE EAST 2009 ขึ้นในวันที่ 12 พฤษภาคม 2552 ที่ห้องบางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ชั้น 5 เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว โดยนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ทั้งนี้เพื่อเป็นการขยายช่องทางและลู่ทางการลงทุนใหม่ๆที่มีโอกาสสูง
โดยในงาน Middle East 2009 มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในตะวันออกกลาง ทั้งการจัดนิทรรศการ พร้อมทั้งคลินิกให้คำปรึกษาการทำธุรกิจในตะวันออกกลาง การสัมมนาเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเปิดตลาดตะวันออกกลาง หัวข้อการบรรยาย ประกอบด้วย “กฎ ระเบียบ การค้า และการลงทุนในตะวันออกกลาง” โดยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ตลาดตะวันออกกลาง จาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อิสราเอล, ซาอุดิอาระเบีย, ตุรกี, และสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน
จากนั้นมีการบรรยาย หัวข้อ “เปิดประตูสู่ตะวันออกกลาง” โดย
• H.E. Mr. Majid Bizmark Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary of the Islamic Republic of Iran
• H.E. Mr. Abdalla Ibrahim Abdulrahman Al-Hamar Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary of the State of Qatar
• Mr. Selcuk UN Commercial Counsellor of the Republic of Turkey
จากนั้นมีนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจากการไปลงทุนในภูมิภาคตะวันออกกลาง มาร่วมเล่าประสบ-
การณ์ ในการเสวนาหัวข้อ “ลงทุนในตลาดตะวันออกกลางอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ” ประกอบด้วย คุณสุนันทา วุฐิสกุล เจ้าของร้านอาหารไทยออคิดในประเทศอิหร่าน, คุณวิบูลย์ ศรีประเสริฐ ประธานสมาพันธ์ให้บริการด้านการออกแบบและก่อสร้างแห่งประเทศไทย และ Mr. Abbas Zohrevand นักธุรกิจสปาจากสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน เป็นต้น
การติดต่อค้าขายระหว่างไทย กับประเทศโซนตะวันออกกลางมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น โดยในส่วนของสินค้านำเข้า ส่วนใหญ่ คือ น้ำมัน ปุ๋ยและเคมีภัณฑ์กำจัดศัตรูพืชและสัตว์ ในขณะที่สินค้าส่งออก คือรถยนต์ อุปกรณ์และชิ้นส่วนรถยนต์ ข้าว เหล็ก อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น สำหรับโอกาสพิเศษนี้นอกจากได้รับความรู้ความเข้าใจจากผู้เชี่ยวชาญการค้าในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางมาให้ข้อมูลโดยตรงแล้ว ในงานนี้ยังมีการเปิดโต๊ะเจรจาการค้าสำหรับนักลงทุนไทยที่สนใจลงทุนในตลาดนี้อีกด้วย
การเปิดตลาดสู่ตะวันออกกลาง เป็นแนวทางหนึ่งในปี 2552 ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กำหนดนโยบายพัฒนาธุรกิจเชิงรุกแบบครบวงจรมากขึ้น โดยสานต่อนโยบายและปรับเปลี่ยนมาตรการที่เป็นจุดอ่อน เน้นการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้นจนประสบความสำเร็จ ภายใต้เป้าหมายหลัก คือ การยกระดับธุรกิจไทยสู่สากล เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจมีมาตรฐานและมีความสามารถในการแข่งขันทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ