เอ.อาร์.เผยคอมมาร์ต เอ็กซ์เจน”ยอดขายทะลุเป้ากว่า 2.5 พันล้าน

เอ.อาร์. เผยแนวโน้มตลาดค้าปลีกไอทีครึ่งปีหลังมีทิศทางที่ดีขึ้น ผู้บริโภคระดับคอนซูเมอร์ยังมีกำลังซื้อ วัดจากยอดขาย ‘คอมมาร์ต เอ็กซ์เจน’ ทะลุเป้าเงินสะพัดกว่า 2,500 พันล้าน ผู้ชมงานตามเป้ากว่า 9 แสนคน สวนกระแสภาวะเงินฝืดเศรษฐกิจทรงตัว พร้อมเดินหน้า ‘คอมมาร์ต คอมเทค’ ปลายปี เตรียมงัดโปรโมชั่นเด็ดโดนใจ สร้างโอกาสคนไทยเข้าถึงไอที

6 กรกฎาคม 2552: นายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ.อาร์.อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด ผู้จัดงานคอมมาร์ต เปิดเผยว่า เอ.อาร์.ประสบความสำเร็จจากการจัดงาน ‘คอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ไทยแลนด์ 2009’ ที่ผ่านมา ด้วยยอดขายทะลุเป้า สวนกระแสเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว ไข้หวัด 2009 และสภาวะเงินฝืดที่ประชาชนขาดสภาพคล่อง แต่คนไทยยังให้ความสำคัญกับการจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าไอทีภายในงานกันอย่างคึกคัก โดยสร้างเม็ดเงินสะพัดตลอดทั้ง 4 วัน มูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท จากผู้เข้าชมงานกว่า 900,000 คน ส่งผลให้กระแสตลาดไอทีครึ่งปีหลังมีสัญญาณที่ดีขึ้น

“คอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ครั้งนี้สินค้าขายดี 4 อันดับแรกยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง และสะท้อนให้เห็นพฤติกรรมผู้บริโภคว่ายังมี Demand ในตลาดสินค้าไอทีและ Consumer Electronic อยู่เช่นเดิม ส่วนภาวะเงินฝืดจึงยังไม่กระทบมายังตลาดสินค้าไอทีตามที่เคยวิตกกันก่อนหน้านี้ และ 10 อันดับสินค้าขายดีปีนี้มีสินค้า Software ติดชาร์ตในงานคอมมาร์ตปีนี้ หลังจากพยายามกระตุ้นตลาดกันมาตลอด 4 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณแนวโน้มของการทำตลาดซอฟต์แวร์ในบ้านเราที่มีอนาคตดี เพราะผู้บริโภคใส่ใจเรื่องทรัพย์สินทางปัญญามากขึ้น” นายปฐมกล่าว

สำหรับสินค้าขายดีที่สุดภายในงานยังเป็นโน้ตบุ๊กและเน็ตบุ๊กมูลค่ารวมกันเกือบ 2,000 ล้านบาท (1,994 พันล้าน) และโน้ตบุ๊กที่ขายดีอยู่ในราคาระดับ 20,000-25,000 บาท รองลงมาเป็นจอ LCD TV มูลค่าประมาณ 172 ล้านบาท อันดับสามจอ LCD Monitor มูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท และอันดับ 4 เป็นกล้อง Digital มูลค่าประมาณ 118 ล้านบาท อันดับ 5 พรินต์เตอร์มูลค่าประมาณ 70 ล้านบาท ส่วนเดสก์ท็อปกระเตื้องขึ้นมาอันดับ 6 มูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าองค์กร และโรงเรียนมาซื้อภายในงาน และสินค้า Peripheral (Memory, Air card, GPS) มูลค่าประมาณ 32.68 ล้านบาท สินค้า Media Player (MP3) มูลค่าประมาณ 30.4 ล้านบาท สินค้า PDA Phone มูลค่าประมาณ 25.3 ล้านบาท และซอฟต์แวร์พร้อมบริการหลังการขาย (Service) มูลค่าประมาณ 22.4 ล้านบาท

นายปฐมกล่าวว่า แม้ว่าคอมมาร์ต ครั้งนี้ จะจัดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันกับการจัดงานไอทีอื่นๆ ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ด้วยโปรโมชั่นที่พิเศษสุดๆ ในงาน Commart ที่ให้คอไอทีได้เลือกสินค้าราคาถูกกว่าใน
สเป็กที่ใกล้เคียงกัน พร้อมของแถมอื่นๆ มากมาย และเงื่อนไขพิเศษจากสถาบันการเงินและบัตรเครดิตให้ผ่อนชำระดอกเบี้ย 0% โปรแกรม Cash Back และ Rabate คืนเงินให้กับการใช้จ่ายสินค้าไอที ตลอดจนบริการรับประกันหลังการขายแบบออนไซด์เซอร์วิสที่สะดวกรวดเร็ว และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมมากขึ้น ส่วนสินค้าที่นำมาโชว์และเปิดประมูลได้ราคาคุ้มค่าที่สุด ได้แก่ Kindle DX รุ่นล่าสุด ที่ต้องเข้าคิวรอซื้อในอเมริกา แต่ผู้ประมูลได้ภายในงานราคา 14,000 บาทเท่านั้น จากราคาประมาณ 19,000 บาท

ทั้งนี้ คอมมาร์ต กลางปีนี้ยืนยันได้ว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่สนใจยังให้ความสนใจเลือกซื้อสินค้าภายในงานแสดงสินค้าไอทีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นตลาดสดไอทีที่สามารถเข้ามาสัมผัส ทดสอบ และเลือกซื้อสเป็กได้ตรงกับการใช้งาน รวมทั้งสามารถเปรียบเทียบโปรโมชั่นได้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ดังนั้น เอ.อาร์.จึงมั่นใจว่ากระแสความต้องการในตลาดไอทีแฟร์ยังมีอยู่ และตลาดไอทีมีกำลังซื้อที่ยังเติบโตต่อไปได้

“เอ.อาร์. จึงเตรียมจัดงาน ‘คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2009’ ปลายปี ที่ยังคงคอนเซ็ปต์โปรโมชั่นดี สินค้าราคาเหมาะสม เพื่อช่วยให้คนไทยเลือกซื้อสินค้าไอทีได้ตรงกับความต้องการใช้งาน และสร้างโอกาสให้คนไทยเข้าถึงสินค้าไอทีมากขึ้น เนื่องจากสินค้าไอทีที่มีจำหน่ายในงานคอมมาร์ตจะมีความหลากหลาย ตั้งแต่ราคาและสเป็ก ที่เหมาะสำหรับการใช้งานระดับเริ่มต้น ไปถึงระดับมืออาชีพ และกลุ่มผู้ใช้ระดับพรีเมียมที่เน้นดีไซน์ และความหรูหราของอุปกรณ์ไอที ตลาดจนองค์กรที่ต้องการซื้อสินค้าไอทีราคาโปรโมชั่นภายในงาน” นายปฐมกล่าว

สำหรับงาน “คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2009” ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.commartthailand.com