ทีเอ็นทีขยายเครือข่ายการขนส่งสินค้าทางบกสายเอเชียสู่ประเทศกัมพูชา

ประเทศไทย – 11 พฤษภาคม 2552 – ทีเอ็นที ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าด่วนชั้นนำระดับโลก ประกาศถึงความสำเร็จในการขยายเครือข่ายการขนส่งสินค้าทางบกสายเอเชียไปยังประเทศกัมพูชา ด้วยการขยายเส้นทางกว่า 1,500 กิโลเมตร รวมกับระยะทางเดิมที่ยาวกว่า 6,000 กิโลเมตร ครอบคลุมเส้นทางจากประเทศสิงคโปร์ ไทย และจีน การขยายส่วนต่อของเครือข่ายการขนส่ง ในครั้งนี้ ทำให้ทีเอ็นทีเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าด่วนทางบกรายเดียวที่มีบริการขนส่งสินค้าพร้อมกำหนดเวลา และมีบริการรับสินค้าจากมือผู้ส่งถึงยังมือผู้รับปลายทางเต็มรูปแบบทั้งการนำเข้าและส่งออกไปยังกรุงพนมเปญ เส้นทางการขนส่งสินค้าทางบกสายเอเชียนี้จะเชื่อมต่อกับศูนย์กระจายสินค้าทางบกภายในประเทศกัมพูชาที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการเชื่อมต่อมายังกรุงเทพมหานคร และเมืองโฮจิมิน ซิตี้

การขนส่งสินค้าทางอากาศในประเทศกัมพูชามีข้อจำกัดในเรื่องของจำนวนสายการบินที่จะได้รับอนุญาติให้ทำการบินเข้าและออกจากประเทศ รวมถึงมีพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้าที่จำกัด นอกจากนั้น ท่าเรือขนส่งระหว่างประเทศของกัมพูชายังมีข้อจำกัดในการจอดเทียบเรือด้วยเช่นกัน

ออนโน บู้ทส์ กรรมการผู้จัดการ ทีเอ็นที ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า “เครือข่ายการขนส่งสินค้าทางบกสายเอเชียของทีเอ็นที จะช่วยส่งเสริมการเชื่อมต่อของประเทศกัมพูชาเข้ากับประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศจีน และยุโรปผ่านทางศูนย์กระจายสินค้าทางอากาศและทางบกประจำภูมิภาคของเราซึ่งตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ นอกจากนั้น ลูกค้าของเราก็สามารถที่จะเลือกส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ไปหรือกลับจากกัมพูชาด้วยราคาที่ประหยัดได้มากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน”

บริการขนส่งสินค้าในเครือข่ายการขนส่งสินค้าทางบกสายเอเชียนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้มากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งทางอากาศไปยังกัมพูชา รวมถึงยังรวดเร็วกว่าการขนส่งสินค้าทางเรือกว่า 3 เท่า

“การขยายเส้นทางของเครือข่ายขนส่งสินค้าทางบกไปยังประเทศกัมพูชาจะช่วยเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจให้กับลูกค้าของทีเอ็นที ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยส่งเสริมและเพิ่มการค้าระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังเป็นการสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่งให้กับทีเอ็นทีในฐานะที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมการให้บริการขนส่งสินค้าทางบกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” อลัน มิว กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็นที เอ็กซเพรส ประเทศไทย กล่าว

ในปีที่ผ่านมา ไทยและกัมพูชามีมูลค่าการค้ารวม 70,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2550 ร้อยละ 44.69 ในขณะที่ยอดการส่งออกจากไทยไปยังกัมพูชามีมูลค่าสูงถึง 67,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 43.5 และสินค้าส่งออกที่สำคัญเป็นสินค้าประเภทน้ำมันสำเร็จรูป น้ำตาลทราย เครื่องดื่ม ปูนซีเมนต์ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว อาหารสัตว์เลี้ยง และสินค้าปศุสัตว์อื่นๆ เป็นต้น

ในทางกลับกัน มูลค่าการนำเข้าสินค้าจากกัมพูชาในปีที่ผ่านมามีมูลค่า 2,999 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี พ.ศ. 2550 ร้อยละ 77.6 และสินค้านำเข้าที่สำคัญจะเป็นสินค้าประเภทผัก ผลไม้ และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์เหล็ก เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เนื้อสัตว์สำหรับบริโภค เสื้อผ้าสำเร็จรูป แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่ ผ้าผืน กล้อง เลนส์และอุปกรณ์การถ่ายรูป สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์

เครือข่ายการขนส่งทางบกสายเอเชียของทีเอ็นที เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2548 และในปัจจุบันมีเส้นทางการขนส่งที่ครอบคลุมในกว่า 127 เมือง ตั้งแต่ประเทศสิงโปร์ มาเลเซีย ไทย เวียดนาม และจีน โดยทีเอ็นทีมีบริการรับสินค้าจากผู้ส่งถึงยังมือผู้รับปลายทาง และด้วยมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยจากระบบการติดตามตำแหน่งการขนส่งสินค้าแบบรีลไทม์ทั่วโลกที่ติดตั้งอยู่ในรถขนส่งสินค้า จึงทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการใช้บริการ และเป็นผลให้ทีเอ็นทีมีจำนวนสินค้าที่ขนส่งผ่านเครือข่ายนี้มากขึ้นเป็นตัวเลขสองหลักเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการที่ต้องการขนส่งสินค้าที่มีมูลค่าสูง และสินค้าประเภทที่ต้องรักษาเวลาในการนำส่ง จากในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ไฮเทค ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ

บริการใหม่ล่าสุดจากทีเอ็นทีจะมีการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2552 เป็นต้นไปในประเทศมาเลเซีย ไทย กัมพูชา และเวียดนาม