กรุงเทพฯ – จีเอ็ม ประเทศไทย ตอบรับนโยบายการส่งเสริมพลังงานทางเลือกของรัฐบาล ประกาศความพร้อมในการพัฒนาและผลิตยานยนต์ E85 ชี้ต้องวางแผนระยะยาวเพื่อความพร้อมสูงสุดทุกด้านก่อนผลิตออกมาจำหน่ายจริง
จากซ้าย: คุณเมตตา บันเทิงสุข รองปลัดกระทรวงพลังงาน คุณพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน คุณจักรกฤช จารุจินดา ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ตลาดขายปลีก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และคุณวันชนะ อูนากูล ระหว่างงานสัมนา “E85 เชื้อเพลิงไทย เพื่อคนไทย”
นายวันชนะ อูนากูล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ประจำประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จีเอ็ม มีความพร้อมอย่างเต็มที่ทั้งในด้านเทคโนโลยี วิศวกรรม และการดำเนินการในการพัฒนาและผลิตยานยนต์ เชื้อเพลิงเอธานอล E85 เนื่องจากที่ผ่านมา จีเอ็ม มีการวิจัยและพัฒนาพลังงานทางเลือกอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นมาโดยตลอด โดยเฉพาะเชื้อเพลิงเอธานอลที่ให้ความยืดหยุ่นในการใช้งาน และให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันมีรถเชฟโรเลต E85 วิ่งอยู่บนท้องถนนทั่วโลกมากกว่า 2.5 ล้านคัน ซึ่งตัวเลขดังกล่าว ถือว่าเชฟโรเลต เป็นผู้นำอยู่ในขณะนี้
“สำหรับจีเอ็มแล้ว เราเชื่อว่า เชื้อเพลิงเอธานอลจะเป็นหนึ่งในปัจจัยหลัก ที่จะช่วยลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงได้มาก ซึ่งจีเอ็ม ประเทศไทย มีความพร้อมอยู่แล้ว แต่ก็ต้องวางแผนระยะยาวในการพัฒนาและผลิตออกมาจำหน่ายในประเทศไทย ขณะเดียวกัน ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลด้วยว่ามีความชัดเจนในการส่งเสริมรถพลังงานทางเลือกมากเพียงใด” นายวันชนะ กล่าวระหว่างการเสวนาหัวข้อ “E85 เชื้อเพลิงไทย เพื่อคนไทย” ซึ่งจัดโดยกระทรวงพลังงาน และหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ในช่วงทศวรรษหลังสุด จีเอ็ม ได้พัฒนายานยนต์พลังงานทางเลือกอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากพลังงานไฟฟ้าปลั๊กอิน ไฮบริด และไฮโดรเจน ฟิวเซลแล้ว เอธานอล ยังเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของจีเอ็ม โดยเชื้อเพลิงเอธานอล E85 ซึ่งมีส่วนผสมของเอธานอล 85% และ น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป 15% นั้นมีคุณสมบัติเด่นคือความหลากหลายในการเลือกใช้เชื้อเพลิง ขึ้นกับราคาของแต่ละเชื้อเพลิงให้ผู้บริโภคสามารถมีทางเลือกได้มากขึ้นและสามารถลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงได้มาก แต่ขณะเดียวกัน ยังช่วยเสริมสมรรถนะทั้งในแรงม้า และแรงบิดอีกด้วย จากการที่มีค่าออคเทนสูงกว่าน้ำมันเบนซินธรรมดา
ปัจจุบัน จีเอ็ม ในสหรัฐอเมริกา มีเชฟโรเลต หลากหลายรุ่นที่รองรับเชื้อเพลิง E85 ทั้ง อวาแลนช์ อิมพาลา
เอชเอชอาร์ ซิลเวอราโด เซอร์เบอร์แบน ทาโฮ และเอ็กซ์เพรส ซึ่งรถที่รองรับเชื้อเพลิง E85 เหล่านี้ ยังสามารถใช้น้ำมันที่มีค่าเอธานอลต่ำกว่านั้นได้อีกด้วย ทั้ง E20 และ E10 รวมถึงน้ำมันเบนซิน ซึ่งให้ความสะดวกสบายในการเลือกใช้งาน
“การผลิตรถ E85 ตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยี ไปจนถึงการผลิตออกมาจำหน่ายให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต้องขึ้นอยู่กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐบาลที่จะกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในระยะยาว ผู้ผลิตเชื้อเพลิงที่จะต้องมีเครือข่ายครอบคลุม บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่จะต้องผลิตรถ E85 ให้ได้คุณภาพ ไปจนถึง ประชาชนผู้ใช้รถที่จะต้องตระหนักถึงความสำคัญของการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย” นายวันชนะ กล่าว
ขบวนรถ E85 ของเชฟโรเลต นำโดย อิมพาลา E85 ทาโฮ E85 และซิลเวอราโด E85 ระหว่างการออก
โปรโมทยานยนต์พลังงานทางเลือก ในเมืองฮุสตัน รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา