เครือธนาคารกสิกรไทยปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจแฟคเตอริ่ง โอนให้ธนาคารกสิกรไทยบุกตลาดแทน หลังเห็นโอกาสเติบโตสูง หวังใช้ฐานลูกค้าและเครือข่ายศูนย์ธุรกิจต่างประเทศขยายตลาด พร้อมเพิ่มโอกาสในการทำ ธุรกรรมแฟคเตอริ่งเงินสกุลต่างประเทศ ตั้งเป้ายึดอันดับ 1 ต่อเนื่อง เพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 30% ในปี 2554 ด้าน แฟคเตอริ่งกสิกรไทยจะเน้นขยายธุรกิจด้านลีสซิ่งเครื่องจักรและอุปกรณ์แบบครบวงจร
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เครือธนาคารกสิกรไทย เล็งเห็นว่า ธุรกิจแฟคเตอริ่งเป็นที่ธุรกิจที่น่าสนใจ เนื่องจากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 12% โดยปัจจุบันมีมูลค่าตลาดประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัท แฟคเตอริ่งกสิกรไทย เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดแฟคเตอริ่งไทย ณ สิ้นปี 2551 มีส่วนแบ่งตลาดถึง 21% และธุรกิจแฟคเตอริ่งมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจยังมีความต้องการกระแสเงินสดเพื่อใช้หมุนเวียนในธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจระหว่างประเทศที่มีการให้ระยะเวลาเครดิตแก่คู่ค้าในต่างประเทศในการชำระเงิน หรือต้องมีระยะเวลาในการเรียกเก็บเงิน บริการ แฟคเตอริ่งจึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถนำลูกหนี้การค้ามาเป็นหลักประกันเพื่อขอรับเงินสดล่วงหน้าได้ แต่อย่างไรก็ดีในช่วงที่ผ่านมาบริษัท แฟคเตอริ่งกสิกรไทย ยังมีข้อจำกัดในเรื่องการให้บริการแฟคเตอริ่งที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตการทำธุรกรรมสกุลเงินตราต่างประเทศ และไม่มีเครือข่ายในการให้บริการแก่ลูกค้าได้ทั่วถึง
ดังนั้นเครือธนาคารกสิกรไทย จึงได้ปรับยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจแฟคเตอริ่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายตัวและโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น โดยจะโอนการดำเนินธุรกิจจากบริษัท แฟคเตอริ่งกสิกรไทย มาให้ธนาคาร กสิกรไทยเป็นผู้ดำเนินการแทน ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2553 เป็นต้นไป เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการให้สูงขึ้น โดยลูกค้าจะได้รับบริการที่สะดวกผ่านศูนย์บริการธุรกิจต่างประเทศของธนาคารฯ ที่มีกว่า 60 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสามารถให้บริการธุรกิจแฟคเตอริ่งทั้งสกุลเงินบาท และสกุลเงินต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าผู้ใช้บริการแฟคเตอริ่งเพื่อการค้าระหว่างประเทศ จะช่วยให้ได้รับโอกาสทางธุรกิจในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น และเครือธนาคารกสิกรไทยสามารถขยายขอบเขตการให้บริการแฟคเตอริ่งได้อย่างเต็มที่ เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดแฟคเตอริ่งสำหรับธุรกิจต่างประเทศของโลกที่มีการเติบโตเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมาสูงถึง 27% ต่อปี
นอกจากนี้ ลูกค้าที่ใช้บริการแฟคเตอริ่งผ่านธนาคารกสิกรไทย จะมีโอกาสได้รับข้อเสนอด้านราคาที่จะมีความยืดหยุ่นมากกว่าเดิม ในกรณีที่ลูกค้าที่ใช้บริการแฟคเตอริ่งร่วมกับบริการอื่น ๆ ของธนาคาร และลูกค้าสามารถใช้หลักประกันร่วมบริการสินเชื่ออื่นได้ รวมทั้งอาจได้รับประโยชน์ในเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่พิเศษกว่าปกติ ในกรณีที่ลูกค้าเป็นธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มเครือข่าย Financial Supply Chain
นายประสาร กล่าวตอนท้ายว่า เครือธนาคารกสิกรไทยเชื่อมั่นว่าการปรับยุทธศาสตร์การให้บริการแฟคเตอริ่งดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้าผู้ใช้บริการ ในขณะที่เครือธนาคารกสิกรไทยก็จะสามารถขยายตลาดการให้บริการแก่ลูกค้าได้กว้างขวางขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจแฟคเตอริ่งของเครือธนาคารฯ เติบโตเหนือกว่าการขยายตัวของตลาดแฟคเตอริ่งของไทยและตลาดโลก โดยเครือธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจแฟคเตอริ่งจาก 21% ในปี 2552 เป็น 30% ภายในปี 2554 ซึ่งจะทำให้แฟคเตอริ่งของเครือธนาคาร กสิกรไทยครองความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจแฟคเตอริ่งในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับบริษัท แฟคเตอริ่งกสิกรไทย จะมุ่งเน้นและขยายธุรกิจการให้บริการลีสซิ่งเครื่องจักรและอุปกรณ์เป็นหลัก โดยเป็นการให้บริการแบบครบวงจรทั้ง 3 บริการหลัก ได้แก่ บริการสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase) บริการสัญญาเช่าทางการเงิน (Financial Lease) และบริการสัญญาเช่าดำเนินการ (Operating Lease) เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้จำหน่ายเครื่องจักร และกลุ่มลูกค้าที่ต้องการหาแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ในการซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้หากพิจารณายอดขายเครื่องจักรและอุปกรณ์ภายในประเทศที่อาศัยแหล่งเงินทุนต่าง ๆ ในปีที่ผ่านมา พบว่ามีมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท ในขณะที่จำนวนผู้ให้บริการ ลีสซิ่งเครื่องจักรและอุปกรณ์มีจำนวนน้อยราย บริษัทจึงตั้งเป้าเพิ่มปริมาณธุรกิจอีกกว่าเท่าตัวในปีหน้า เพื่อครองความเป็นผู้นำในธุรกิจลีสซิ่งเครื่องจักรและอุปกรณ์ ภายใน 3 ปีข้างหน้า