Money Expo เชียงใหม่สุดคึกคัก ธนาคาร/ตลาดหลักทรัพย์ฯ/หน่วยงานรัฐ-เอกชน เล็งเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวแห่จองพื้นที่ล้น ส่งผลให้มีสถาบันเข้าร่วมงานมากกว่าทุกปีที่ผ่านมารวม 24 แห่ง พร้อมนำเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนสู่พี่น้องชาวเหนือ วันที่ 6-8 พ.ย.นี้ ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ บรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร ในฐานะประธานจัดงานมหกรรมการเงิน Money Expo เปิดเผยว่า วารสารการเงินธนาคารจะจัดงาน มหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 4 Money Expo Chiangmai 2009 ขึ้นในวันที่ 6-8 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยประชาชนชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงจะได้เลือกใช้บริการทางการเงินและการลงทุน จากธนาคาร สถาบันการเงิน หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์/บริการภายในงาน มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 24 แห่ง
นายสันติกล่าวว่า งานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ในปีนี้มีหน่วยงานต่างๆ สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้พื้นที่การจัดงานภายในหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เต็มทุกพื้นที่ เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเริ่มฟื้นตัว ทั้งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และแนวโน้มปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของโลกที่เริ่มคลี่คลายลง โดยตัวเลขล่าสุดจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดการณ์ว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ณ สิ้นปี 2552 จะอยู่ที่ -3% ซึ่งเศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นจากที่หดตัวต่ำสุดในไตรมาสแรกของปี
ทางด้านเศรษฐกิจในภาคเหนือก็มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นในภาพรวม ตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยในภาคการส่งออกมีคำสั่งซื้อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นทำให้ไม่มีการเลิกจ้างแรงงานและรับแรงงานกลับเข้ามา ส่งผลให้ตัวเลขการจ้างงาน ณ เดือนพฤษภาคม 2552 เพิ่มขึ้นเป็น 7.1 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 9.1% ส่วนภาคในประเทศมีการใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้ทางด้านสินค้าเกษตรที่อยู่ในเกณฑ์สูง ประกอบกับมีการเร่งเบิกจ่ายและผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ส่งผลให้ประชาชนในภาคเหนือมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น
สำหรับหน่วยงานที่เข้าร่วมงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 4 ประกอบด้วย ธนาคารและสถาบันการเงิน 16 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารนครหลวงไทย, ธนาคารทหารไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารออมสิน, ธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย, บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์), บมจ.อีซี่บาย, บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด, บริษัท ซิตี้คอร์ปลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด และ บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานจากภาครัฐและเอกชนอีก 8 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, กรมสรรพากร, บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย,บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส, บริษัท เอเชีย ฟอร์เรสตรี้ จำกัด และ บริษัท บิวด์สบาย รับสร้างบ้าน จำกัด
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในภาคเหนือ มีประชากรรวม 1.6 ล้านคน มีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี พ.ศ.2551 จีดีพีจังหวัด (Gross Provincial Product : GPP) อยู่ที่ 128,975 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,955 ล้านบาท หรือ 9.28% และมีรายได้ต่อคนต่อปี (GPP Per Capita) 81,105 บาท เพิ่มขึ้น 6,581 บาท หรือ 8.83%
“มั่นใจว่างานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 4 วันที่ 6-8 พฤศจิกายนนี้ จะได้รับความสนใจและมีผู้เข้าชมงานจำนวนมากเช่นเดียวกับการจัดงานครั้งที่ผ่านมา ที่มีผู้เข้าชมงานกว่า 50,000 คน สร้างปริมาณธุรกรรมสูงถึง 10,761.86 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าประชาชนและนักธุรกิจในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงมีกำลังซื้อสูง และยังมีความต้องการทางการเงินและการลงทุนอีกมาก” นายสันติกล่าว