อีเบย์จับมือเดอะ ยูนิฟอร์ม โปรเจ็คท์ เปิดตัวแคมเปญ Re+Purpose

ซาน โฮเซ่ แคลิฟอร์เนีย – 9 ตุลาคม 2552 – เพราะชุดวินเทจอันเก๋ากึ๊กส์ของคุณสามารถสร้างลุคใหม่แสนเก๋ให้แก่ผู้สวมใส่ที่อยู่ไกลในอีกซีกโลก และโซฟามือสองรุ่นลายครามก็ช่วยเติมความสดใสสง่างามให้กับห้องนั่งเล่นได้ดีกว่าการถูกซุกไว้ในห้องเก็บของของใครสักคน ปัจจุบันนี้ ลูกค้าทันสมัยทั่วโลกต่างมีความเห็นว่า การสร้างคุณค่าใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิม นับเป็นวิธีการจับจ่ายใช้สอยอย่างชาญฉลาดเพื่อรักษาโลกสีเขียว ทั้งยังยอมรับว่า เทรนด์แฟชั่นใหม่ไม่ได้มีอยู่แต่ในร้านแฟชั่นเท่านั้น แต่ยังเกิดจากการประยุกต์ใช้สิ่งของที่เรามีอยู่ หรือการนำสิ่งของนั้นออกมาซื้อขายเปลี่ยนมือสู่ผู้อื่น

จากทัศนคติของผู้บริโภคดังกล่าว ทำให้ทูตสิ่งแวดล้อม “อีเบย์ กรีนทีม” ริเริ่มแคมเปญ Re+Purpose ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการ 6 สัปดาห์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนผู้บริโภคให้มีทางเลือกในการช้อปปิ้งอย่างยั่งยืนมากขึ้น ทั้งยังกระตุ้นผู้บริโภคให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องว่า ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม คือสิ่งของที่มีอยู่เดิม ทั้งที่เป็นของเก่า ของมือสอง หรือของที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ด้วยการประยุกต์

แคมเปญ Re+Purpose จัดทำขึ้นโดยอีเบย์ ร่วมกับชีนา มาธิเคน ดีไซเนอร์ของเดอะ ยูนิฟอร์ม โปรเจ็คท์ (The Uniform Project) ภายใต้ปณิธานที่มุ่งส่งเสริมผู้บริโภคให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแฟชั่นอย่างพอเพียงมากขึ้น นอกจากนี้ ชีนายังมีเป้าหมายมุ่งระดมทุนเพื่อนำไปใช้ยกระดับการศึกษาของเยาวชนด้อยโอกาสในประเทศอินเดีย

ทั้งนี้ โครงการ Re+Purpose จะเข้าสู่ระยะที่ 2 ในวันที่ 22 ตุลาคม 2552 โดยร่วมมือกับนิตยสาร PopTech และ Make Magazine นำเสนอวิธีการนำของเก่ามาแปลงโฉมเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สวยงามและมีสมรรถนะการใช้งานอย่างสมบูรณ์แบบ จากนั้นในวันที่ 4 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ อีเบย์ กรีนทีมจะเปิดตัวโครงการ Re+Purpose ระยะที่ 3 และ 4 บนเว็บไซด์ ecofabulous.com พร้อมทั้งจัดประกวดการประดิษฐ์ของตกแต่งบ้านโดยใช้ผลิตภัณฑ์เก่าหรือที่ใช้แล้ว สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Re+Purpose สามารถเข้าไปดูได้ที่ ebay.com/greenteam.

ด้านเอมี่ สโกลาส โคล ผู้อำนวยการ โครงการอีเบย์ กรีนทีม กล่าวว่า “ปัจจุบัน การนำของเก่ามาดัดแปลงเพื่อใช้งานในจุดประสงค์ใหม่เป็นเทรนด์ยอดนิยมของผู้บริโภคจากทั่วทุกมุมโลก ผู้บริโภคส่วนใหญ่ตระหนักถึงปริมาณสิ่งของที่มีอยู่อย่างมหาศาลทั่วโลก ทั้งยังยอมรับว่า การซื้อของใช้แล้วหรือของโบราณเป็นอีกหนึ่งวิธีในการการจับจ่ายใช้สอยอย่างชาญฉลาดเพื่อช่วยรักษาโลกใบน้อยของเรา โดยการยืดอายุการใช้งานของสิ่งที่มีอยู่เดิม เพราะข้าวของที่ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ ไม่ควรถูกทิ้งให้เป็นเศษขยะโดยไร้ประโยชน์”

“ในฐานะที่เป็นตลาดออนไลน์ชั้นนำของโลกที่เชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขายหลายล้านคนทั่วโลก อีเบย์มีนโยบายช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ของเก่า ของโบราณ ของใช้แล้ว และของที่นำมาตกแต่งปรับโฉมใหม่ โดยจัดแคมเปญ Re+Purpose เพื่อส่งเสริมการนำสิ่งของทั้ง 3 ประเภทดังกล่าวมาใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” เอมี่ กล่าวเสริม

ทูตสิ่งแวดล้อม “อีเบย์ กรีนทีม” ประกอบด้วยพนักงานอีเบย์และนักช้อปหัวใจสีเขียวรวมมากกว่า 100,000 คน จาก 25 ประเทศ ซึ่งมีปณิธานมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยอย่างชาญฉลาดพร้อมช่วยรักษาโลกให้น่าอยู่ และด้วยแรงบันดาลใจที่ได้รับจากแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของอีเบย์ ทำให้ “อีเบย์ กรีนทีม” มุ่งรณรงค์การซื้อสินค้าเพื่อโลกสีเขียว ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของอีเบย์ที่ช่วยประหยัดค่าเดินทางและร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

สำหรับผลการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สำคัญๆ ของอีเบย์ มีดังต่อไปนี้
• ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา การซื้อขายกระเป๋าถือสตรีมือสองบนอีเบย์ ช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 2 ล้านต้น

• เฉพาะปี 2551 เพียงปีเดียว การซื้อขายเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คมือสองบนอีเบย์แทนเครื่องใหม่ มีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 96,000 ตัน