ริเวอร์แคว ใช้ SR Mark เพิ่มมูลค่าสินค้าในการทำตลาดต่างประเทศ เหตุเพราะคู่ค้าเน้นมาตรฐานจริยธรรมทางการค้า วางแผนขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นปีละ 10% ล่าสุดเข้าไปพัฒนาพื้นที่เพาะปลูกประเทศลาว กว่า 400 ไร่ สร้างรายได้แล้วกว่า 10 ล้านบาท ตั้งเป้าปีหน้าเติบโตกว่า 20% จากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว
นายสุนทร ศรีทวี ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ริเวอร์แคว อินเตอร์เนชันแนล อุตสาหกรรมอาหาร จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน คู่ค้าในต่างประเทศให้ความสำคัญกับจริยธรรมทางการค้ามากขึ้น บริษัทฯ ซึ่งได้รับ SR Mark (Social Responsibility Mark) จากกระทรวงพาณิชย์ จึงประชาสัมพันธ์รางวัลนี้ให้คู่ค้าในต่างประเทศทราบ ซึ่งทำให้คู่ค้าสนับสนุนสินค้าของบริษัท เพราะเห็นว่าบริษัททำธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ซื้อขายสินค้าจากเกษตรอย่างเป็นธรรม เนื่องจากข้อกำหนดของผู้ที่จะได้รับ SR Mark คือ ต้องทำสัญญาซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า หรือ Contract Farming มากกว่า 50% ของวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งเป็นวิธีที่เป็นธรรมกับเกษตรกร ทำให้เกษตรมีรายได้มั่นคง ไม่ถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ
“เราทำ Contract Farming มาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท รวมกว่า 10 ปี โดยใช้วัตถุดิบจากการทำ Contract Farming กว่า 80% จากเกษตรกรกว่า 1,000 ราย ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร ทำให้คู่ค้ายินดีที่จะทำธุรกิจกับเรา และเมื่อไรที่เขาจะสั่งซื้อสินค้าประเภทอื่นเพิ่ม ก็จะพิจารณาและให้โอกาสกับบริษัทที่ทำธุรกิจอย่างเป็นธรรมแบบเราก่อน เพราะคู่ค้าส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เป็นข้อกำหนดเลยว่าบริษัทที่จะทำธุรกิจกับเขาจะต้องมีจริยธรรม” นายสุนทร กล่าว
นายสุนทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทฯ เป็นผู้ส่งออกข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋อง หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพดฝักอ่อน กระเจี๊ยบเขียว พริก และผลไม้ตามฤดูกาล โดยส่งออกเป็นสัดส่วน 90% ของผลผลิตทั้งหมด ไปยังประเทศต่างๆ กว่า 40 ประเทศ และเป็นที่นิยมในซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังระดับโลกอย่าง Tesco, Whole Foods, COOP, Jusco, Coles, Sainsburys, Waitrose
“บริษัทฯ คาดว่าปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 1,200 ล้านบาท สินค้าที่สร้างรายได้สูงสุดคือ ข้าวโพดกระป๋อง คิดเป็นสัดส่วน 55% และคาดว่าในปีหน้าจะมีรายได้เพิ่ม 20% เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว และจากการที่บริษัทมีสินค้าใหม่เพิ่ม เช่น อาหารพร้อมรับประทาน และผักผลไม้อินทรีย์ โดยบริษัทฯ ได้วางแผนว่าจะขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นปีละ 10% ซึ่งล่าสุดได้เข้าไปพัฒนาพื้นที่เพาะปลูกในประเทศลาว ใกล้เมืองเวียงจันทร์ บนพื้นที่กว่า 400 ไร่ ซึ่งในปีแรกนี้ได้สร้างรายได้ประมาณ 10 ล้านบาท” นายสุนทร กล่าว
