ไอที ซิตี้ ร่วมกับเล็กซ์มาร์ก เปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น 4 รุ่นล่าสุด

ไอที ซิตี้ จับมือเล็กซ์มาร์ก เปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น 4 รุ่นล่าสุด เจาะกลุ่มลูกค้า คอร์ปอเรทและเอสเอ็มอี ชูจุดเด่นด้านต้นทุนการพิมพ์ที่ต่ำกว่า พร้อมกลยุทธ์ใหม่ “Manage Print Services” มั่นใจด้วยความพร้อมของช่องทางการจัดจำหน่าย และศูนย์บริการที่พร้อมให้บริการ ทั่วประเทศ จะช่วยผลักดันส่วนแบ่งตลาดในไทยให้เพิ่มขึ้นได้

19 พฤศจิกายน 2552 – นายเฉลิมพล มิ่งเมืองไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เล็กซ์มาร์ก อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) จำกัด กล่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น 4 รุ่นล่าสุดว่า “เล็กซ์มาร์กเป็นบริษัทที่เน้นด้านการผลิตและจำหน่ายเครื่องพิมพ์ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องพิมพ์โดยเฉพาะ ทำให้บริษัทฯ มีเทคโนโลยีในเชิงลึก และรู้ถึงความต้องการใช้งานของลูกค้าแต่ละกลุ่มว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นสินค้าใหม่ทั้ง 4 รุ่นจึงได้ถูกพัฒนาให้ออกมาในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเครื่องพิมพ์ที่เปิดตัวใหม่จะมีจุดเด่น คือค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ที่ประหยัด จึงตอบโจทย์ที่ทุกองค์กรต้องการลดต้นทุนในภาวะเศรษฐกิจที่เพิ่งจะเริ่มพื้นตัว”

โดยรุ่นที่จะเป็นไฮไลท์ คือ เล็กซ์มาร์ก รุ่น PRO708 เป็นเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นคุณภาพสูงพิมพ์เร็วถึง 33 แผ่นต่อนาที ด้วยต้นทุนด้านการพิมพ์งานขาวดำเพียง 33 สตางค์ต่อแผ่น เป็นเครื่องพิมพ์ตระกูลมัลติฟังก์ชั่นที่มีการทำงานที่หลากหลาย สามารถพิมพ์งาน สแกน แฟกซ์ ถ่ายเอกสาร ด้วยหน้าจอ LCD ขนาด 2.4 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อได้หลายรูปแบบ เช่น ผ่านสาย USB 2.0, LAN และเครือข่ายไร้สาย (Wi-Fi) ที่รองรับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด คือ IEEE 802.11n ที่มีความเร็วในการส่งข้อมูลสูง

ส่วนอีก 3 รุ่นที่เปิดตัวพร้อมกันจะเป็นเครื่องพิมพ์เล็กซ์มาร์ก รุ่น PRO208 ,S505, S405 ซึ่งทั้ง 3 รุ่นก็จะมีคุณสมบัติเป็นเครื่องพิมพ์มัลติฟังชั่น ที่มีขนาดและราคาตามความเหมาะสมของลูกค้า เน้นย้ำ ความคุ้มค่าและลดต้นทุนองค์กร

นายทนงค์ โรจนศักดิ์โสธร ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจ บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้แทนจำหน่ายเครื่องพิมพ์เล็กซ์มาร์กในไทย กล่าวถึงแผนการทำตลาดของเล็กซ์มาร์กในไทยว่า “จากการประเมินภาพรวมของตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตปีนี้พบว่ามีอัตราการเติบโตลดลงประมาณ 10 % และในส่วนของเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตเล็กซ์มาร์กนั้นมีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มลูกค้าองค์กรอยู่ที่ประมาณ 10 % ในขณะที่ตลาดเครื่องพิมพ์ในกลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์นั้นจะค่อนข้างถึงจุดอิ่มตัวแต่การแข่งขันด้านราคายังรุนแรง เนื่อง จากการหดตัวของกำลังซื้อจากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ”

ดังนั้นในกลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์เล็กซ์มาร์กยังคงรักษาไว้ ส่วนที่จะโฟกัสการบุกตลาดเครื่องพิมพ์ของเล็กซ์มาร์กในปีหน้าอย่างจริงจังจะเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรและหน่วยงานราชการ ซึ่งมองว่ายังเป็น Blue Ocean โดยจะวางกลยุทธ์เรื่องการช่วยลดค่าใช้จ่ายในองค์กรเป็นไอเดียหลักในการขาย หรือที่เรียกว่า “Manage Print Services” (MPS) ขั้นตอนคือทีมงานเล็กซ์มาร์กจะเข้าไปสำรวจพฤติกรรมการใช้งานเครื่องพิมพ์ในองค์กรเพื่อหาโซลูชั่นที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในองค์กร จากนั้นจะนำเครื่องพิมพ์เล็กซ์มาร์ก ไปให้ใช้งาน โดยจะมีซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเฉพาะสำหรับเครื่องพิมพ์เล็กซ์มาร์กที่ช่วยจัดการเรื่องงานพิมพ์ของแต่ละแผนกในองค์กรเพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนพนักงานและการใช้งานในแต่ละองค์กร ช่วยให้องค์กรลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และไม่ต้องลงทุนด้านฮาร์ดแวร์ และค่าบำรุงรักษา จ่ายเพียงแค่ค่าพิมพ์ตามจำนวนงานที่พิมพ์จริงเท่านั้น และในอนาคตเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตของเล็กซ์มาร์กมีแนวทางที่จะทำตลาดโดยใช้กลยุทธ์นี้ด้วยเช่นกัน

“ปัจจุบันเล็กซ์มาร์กมีกลุ่มลูกค้าที่ครอบคลุม ทั้งกลุ่มธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล โรงงานอุตสาหกรรม และกลุ่มธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้เล็กซ์มาร์กเป็นผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ที่ให้ความสำคัญกับการใช้งานของลูกค้าในราคาที่คุ้มค่าประกอบกับการที่บริษัท ไอที ซิตี้ มุ่งเน้นการทำตลาดในเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางด้านช่องทางการจำหน่าย การเปิดตัวเครื่องพิมพ์แบบครบไลน์ รวมถึงความพร้อมในการให้บริการผ่านไอที ซิตี้ ทั้ง 36 แห่งทั่วประเทศ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เล็กซ์มาร์กสามารถครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องพิมพ์เพิ่มขึ้นได้” นายทนงค์กล่าวทิ้งท้าย