‘กรุงเทพประกันชีวิต’ รุกสื่อสารครบวงจร มั่นใจหนุนผลงานโตต่อเนื่อง หลังกำไร 9 เดือนพุ่ง 48%

“กรุงเทพประกันชีวิต” หรือ BLA เดินหน้าสื่อสารครบวงจร หวังทำตลาดเชิงรุก ตอกย้ำความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของธุรกิจ หลังปลื้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในไตรมาสที่ 3 เบี้ยประกันรับเพิ่มขึ้นเฉียด 18% ขณะที่งวด 9 เดือน เบี้ยสะสมอยู่ที่กว่า 1.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 33% ดันกำไรสุทธิขยับกว่า 48% พร้อมจ่ายปันผลหุ้นละ 0.15 บาท มั่นใจภาพรวมเอื้อธุรกิจขยายตัวในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง

นายชาญ วรรธนะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA เปิดเผยว่า ในขณะนี้บริษัทฯ พร้อมที่จะทำตลาดเชิงรุกในรูปแบบของการสื่อสารครบวงจรไปยังลูกค้า ตลอดจนกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงประชาชนทั่วไป ให้มากขึ้น เพื่อสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทฯ ตลอดจนเป็นการสร้างการจดจำในผลิตภัณฑ์ด้านประกันชีวิตของ BLA

“ต้องยอมรับว่า ในช่วงที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นได้จากผลการดำเนินงานงวดล่าสุดสิ้นสุดเดือนกันยายน 2552 โดยงวดไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคม-กันยายน 2552) บริษัทฯ มีเบี้ยประกันรับรวมสุทธิ 4,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.99% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่งวด 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2552) เบี้ยประกันรับรวมสุทธิอยู่ที่ 14,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.61% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน” กรรมการผู้จัดการใหญ่ BLA กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานของ BLA ในไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 214.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.60 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 21.98% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 175.62 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการลงทุนสุทธิอยู่ที่ 799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.65% จากปีก่อน โดยบริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 64,683 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.64% จากปลายปี 2551 โดยมีเงินสำรองประกันชีวิต 50,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปลายปี และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินสำรองประกันชีวิต 13.19% สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 2% ถึง 11%

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,003.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 327.14 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 48.36% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 676.47 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 และ กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2552

กรรมการผู้จัดการ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ มั่นใจว่า จากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ผนวกกับการรุกการสื่อสารด้านการตลาด ทั้งในส่วนการประชาสัมพันธ์ และการใช้สื่อในรูปแบบต่างๆ จะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป โดยเฉพาะจากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น ทำให้ความมั่นใจของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น จะส่งผลดีกับบริษัทฯ อย่างแน่นอน