บลจ.กสิกรไทย โชว์ผลงานปี 52 โต 36 %

บลจ.กสิกรไทย เผยผลงานปี 52 ใช้กลยุทธ์บริหารจัดการตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ดัน AUM โต 36% มูลค่ากว่า 120,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในปี 53 ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย เชื่อมั่นตอบโจทย์ลูกค้ารอบด้าน

นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากการใช้กลยุทธ์การบริหารแบบ Customer Centric ซึ่งมุ่งเน้นการบริหารกองทุนให้มีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างสม่ำเสมอ การส่งเสริมการขายที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ความสะดวกสบายที่ลูกค้าได้รับจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางการซื้อขาย และการสื่อสารที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนของลูกค้า ทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานในปี 2552 เติบโตถึง 36% มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการทั้งสิ้น 479,773 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ถึง 129,227 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมกองทุนที่มีการเติบโตเพียง 15%

นายรพี กล่าวต่อไปว่า “สำหรับผลการดำเนินงานของธุรกิจกองทุนรวม เติบโตถึง 40% หรือคิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินสุทธิทั้งสิ้น 362,301 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเสนอขายกองทุนใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี รวมถึงการพัฒนาให้มีผลิตภัณฑ์กองทุนรวมครบทุกนโยบายการลงทุน และที่สำคัญคือการปรับปรุงการให้บริการให้เกิดความสะดวกสบายกับผู้ลงทุนมากที่สุด เช่น การเปิดให้ซื้อกองทุน LTF/RMF ด้วยบัตรเครดิต การเปิดบริการสับเปลี่ยนกองทุนภายใต้การจัดการได้โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม รวมไปถึงการปรับช่วงเวลารับคำสั่งซื้อและขายคืนกองทุน K-TREASURY และ K-MONEY ที่รวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น”

ในส่วนผลการดำเนินงานของธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล นายรพีกล่าวว่า ยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้ลงทุนบุคคลและสถาบันขนาดใหญ่ให้บริหารสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิสูงถึง 47,938 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตถึง 20% จากปี 2551 และในส่วนของธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็โตถึง 31 % ทำให้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิทั้งสิ้น 69,533 ล้านบาท โดยมีองค์กรชั้นนำกว่า 130 แห่งที่แต่งตั้งบริษัทให้บริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

ด้านนายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยแผนงานในปี 2553 ว่า บลจ.กสิกรไทย ยังคงนำกลยุทธ์ Customer Centric มาใช้ในการบริหารอย่างต่อเนื่อง โดยจะศึกษาความต้องการของลูกค้าในเชิงลึกยิ่งขึ้น เพื่อนำมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการให้เป็นที่พึงพอใจสูงสุด ทั้งในธุรกิจกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

“บลจ.กสิกรไทยยังคงเน้นการพัฒนาคุณลักษณะที่มีคุณค่าต่อลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นด้านผลการดำเนินงาน ที่จะปรับผังงานและความรับผิดชอบของผู้จัดการกองทุนเพื่อให้สามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่ ส่วนการส่งเสริมการขายก็จะมีอย่างต่อเนื่องทั้งปี และสร้าง Loyalty Program เพื่อตอบแทนลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในการลงทุนกับบลจ.กสิกรไทย มายาวนาน รวมไปถึงการปรับคุณลักษณะของกองทุนให้ดีขึ้นและเร็วขึ้น พร้อมอำนวยความสะดวกด้วยการเพิ่มช่องทางซื้อขายกองทุนที่เข้าถึงง่ายที่สุด และพัฒนาการให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท”

นายพัชร กล่าวทิ้งท้ายว่า ผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่จะนำเสนอในปี 2553 จะครอบคลุมทั้งกลุ่มกองทุนตราสารหนี้ กลุ่มกองทุนหุ้น และกองทุนต่างประเทศ ส่วนในธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล จะเน้นการให้ผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มมากที่สุด สำหรับธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะมุ่งเน้นการให้ความรู้ความเข้าใจด้านการลงทุนและวางแผนการเงินกับสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในแต่ละบริษัท พร้อมทั้งนำเสนอบริการ Employee’s Choice เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า