ธุรกิจขนาดกลางและย่อยในประเทศไทยสวมหัวใจ “ฮีโร่” เดินหน้าธุรกิจ

PayPal เผยผู้ประกอบการฯเชื่อ “ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการทางธุรกิจ”เป็นทักษะความรู้ที่สำคัญที่สุด สำหรับการเริ่มต้นธุรกิจใหม่

ประเทศไทย: 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552 – PayPalเปิดเผยรายงานผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการธุรกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อยในภูมิภาคครั้งล่าสุด ทั้งนี้พบว่า กว่าหนึ่งในห้า (21%) ของธุรกิจขนาดกลางและย่อยในประเทศไทย ยึดรูปแบบ ฮีโร่ เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ นั่นคือยึดมั่นในการนำพาธุรกิจฝ่าฟันอุปสรรคและความยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบและสถานการณ์ใดๆ

กุญแจแห่งความสำเร็จ
สำหรับในประเทศไทย ผู้ประกอบการฯ กว่าหนึ่งในสาม (32%) มองว่า “ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการทางธุรกิจ” เป็นทักษะความรู้ที่สำคัญที่สุดที่ผู้เริ่มประกอบธุรกิจของตนเองจำเป็นต้องมี ตามมาด้วย “ความเชื่อมั่นในตนเอง” และ “ความเชี่ยวชาญในภาคธุรกิจนั้นๆ” โดยมีสัดส่วนเป็น 30% เท่าๆกัน

อินเตอร์เนต เป็นเครื่องมือที่ผู้ประกอบการฯ เชื่อว่ามีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆต่อความสำเร็จในการประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยผู้ถูกสำรวจระบุว่าหนึ่งในสาม (37%) ของรายได้รวมของผลประกอบการและยอดขายประจำปี มาจากการซื้อขายผ่าน ระบบออนไลน์ทั้งสิ้น ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจเลือกทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ คืือความสามารถในการเชื่อมโยงถึงลูกค้าทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเพิ่มรายได้และยอดขาย ตลอดจนความสามารถ ในการแข่งขันกับเวลาและดำเนินธุรกิจอย่างรวดเร็ว ตามลำดับ นอกจากนี้ พบว่าปัจจุบัน 66% ของธุรกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อยในไทยมีเว็ปไซต์เป็นขององค์กร และ 52% ดำเนินธุรกิจผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ (e-commerce) ไม่ว่าจะเป็นบริการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ (คิดเป็น 89%) บริการรับชำระสินค้าออนไลน์ (คิดเป็น 56%)ตลอดจน บริการจัดส่งสินค้าออนไลน์ (คิดเป็น 9%)

อุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ
ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและย่อยในประเทศไทย กว่า 73% วางแผนในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ภายในระยะเวลาสองถึงสามปีข้างหน้า หากแต่ยังมีความกังวลต่ออุปสรรคที่ต้องฝ่าฟันเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ตามรายละเอียดดังนี้ ผู้ประกอบการถึง 47% มีความกังวลต่อการรับมือสภาวะฝืดเคืองของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ 43% ประสบปัญหาการแข่งขันในภาคธุรกิจที่สูงขึ้น และ 37% ประสบปัญหาในการต่อยอดทางธุรกิจผ่านระบบออนไลน์

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการฯ ลงความเห็นว่า ระบบอีคอมเมิร์ซ (e-commerce) เป็นคำตอบที่จะสามารถนำธุรกิจ ก้าวผ่านอุปสรรคพร้อมทั้งส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ ด้วยเหตุที่ว่า 1) สามารถช่วยเพิ่มช่องทางและพื้นที่จำหน่าย เพื่อยอดขายที่เพิ่มขึ้น (คิดเป็น 71%) 2) สามารถเชื่อมโยงถึงลูกค้าทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ (คิดเป็น 53%) และ 3) ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับเวลาและดำเนินธุรกิจอย่างรวดเร็ว (คิดเป็น 51%)

เชื่อมั่นอนาคตสดใส
จากผลการสำรวจพบว่า ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและย่อยในประเทศไทยส่วนใหญ่ (80%) ยังมีความเชื่อมั่นต่อ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและคาดการณ์ว่าธุรกิจจะยังขยายตัวได้อีก 12 เดือนข้างหน้า โดยกว่า 2 ใน 5 มองว่าธุรกิจจะเติบโตได้สูงถึง 20% ทีเดียว และด้วยจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เนตทั่วโลก1ที่สูงกว่า 1,600 ล้านคน จึงไม่น่าสงสัยว่าอีคอมเมิร์ซจะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลักดันการเติบโตของธุรกิจขนาดกลางและย่อยในไทย

มร. มาริโอ ชิลิอาชกี้ ผู้จัดการทั่วไป PayPal ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศอินเดีย กล่าวว่า “จากการสำรวจความคิดเห็นในครั้งนี้ ทำให้เราทราบว่า ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและย่อยในประเทศไทย ให้ความสำคัญและเล็งเห็นคุณค่าของการประกอบธุรกิจระบบอีคอมเมิร์ซมากที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการในสี่ประเทศที่ทำการสำรวจความคิดเห็นพร้อมกันในครั้งนี้ อันจะเห็นได้ที่ว่ากว่า 50% ของบริษัทในไทยที่ผ่านการสำรวจ ล้วนทำธุึรกิจและให้บริการผ่านระบบอีคอมเมิร์ซอยู่แล้ว”

“เราเชื่ออย่างยิ่งว่าความสะดวกสบาย ความปลอดภัยและต้นทุนในการเริ่มต้นที่น้อยของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จะเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจสามารถก้าวผ่านอุปสรรคทางการค้า อีกทั้งยังจะมีส่วนสำคัญในการตอบโจทย์ความต้องการของ ผู้ประกอบการที่ต้องขยายฐานลูกค้าไปอย่างกว้างขวางทั่วโลกรวมถึงช่วยขับเคลื่อนรายได้และยอดขายรวมอีกด้วย

“ทั้งนี้ ด้วยประสบการณ์ในการให้บริการเชื่อมโยงนักธุรกิจผู้ขายสินค้าและผู้ซื้อจากทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 11 ปี ของPayPal เราจึงเชื่อมั่นว่า บริการที่คุ้มค่า สะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งกว่าของ PayPal จะช่วยให้ผู้ค้าสามารถเริ่มประกอบธุรกิจออนไลน์ และเพิ่มการเติบโตของธุรกิจได้อย่างง่ายดาย อันจะเห็นได้ผลการสำรวจความคิดเห็นซึ่งผู้ประกอบการฯ ระบุชัดเจนว่า การนำเสนอบริการช่องทางชำระเงินผ่าน PayPal ให้กับผู้บริโภคในเว็บไซต์2นั้นมีผลในการเพิ่มยอดขายทางธุรกิจได้สูงถึง 14% โดยเฉลี่ย”