กรุงเทพฯ 6 มกราคม 2553 – เจ็ทสตาร์ประกาศผนึกกำลังร่วมกับแอร์เอเชียก่อตั้งพันธมิตรสายการบินต้นทุนต่ำรายแรกของโลก ทั้งนี้ การก่อตั้งพันธมิตรการบินใหม่ดังกล่าวจะช่วยให้ทั้งสองสายการบินมีต้นทุนในการดำเนินงานลดลง ทั้งยังสามารถใช้ความรู้และทักษะการทำงานร่วมกันได้ ส่งผลให้ทั้งสองสายการบินสามารถให้บริการรับส่งผู้โดยสารด้วยค่าโดยสารราคาประหยัดมากยิ่งขึ้น
สำหรับพันธมิตรสายการบินต้นทุนต่ำรายแรกของโลก ประกอบด้วยสองสายการบินราคาประหยัดชั้นนำแห่งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยมุ่งสร้างโอกาสในการลดต้นทุนในการดำเนินงาน และการประหยัดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ต่อลูกค้าทั่วภูมิภาคดังกล่าว ทั้งนี้ ทั้งสองสายการบินจะร่วมมือกันกำหนดคุณสมบัติจำเพาะของเครื่องบินขนาดลำตัวแคบรุ่นใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการเดินทางกับสายการบินค่าโดยสารราคาประหยัดได้อย่างตรงจุด รวมทั้งมองหาช่องทางในการสั่งซื้อเครื่องบินร่วมกัน
มร. อลัน จอยซ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการบินแควนตัส มร. บรูซ บิวคานัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเจ็ทสตาร์ และดาตุ๊ก เสรี โทนี เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินแอร์เอเชียได้ร่วมลงนามเห็นชอบกับการก่อตั้งพันธมิตรดังกล่าว ณ กรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียในวันนี้
มร. อลัน จอยซ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการบินแควนตัส กล่าวถึงการจัดตั้งพันธมิตรการบินใหม่ว่า “จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงต่อการดำเนินงานของสายการบินเจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดการบินที่มีการแข่งขันสูงที่สุดของโลก โดยจะช่วยให้ทั้งสองสายการบินสามารถเจาะเข้าถึงตลาดดังกล่าวได้มากขึ้น ทั้งในรูปของการขยายเส้นทางบินมากกว่าและการบริการด้วย
ค่าโดยสารที่มีราคาประหยัดกว่าสายการบินคู่แข่งรายใหญ่ต่างๆ ตลอดจนใช้ประโยชน์จากขนาดของธุรกิจของตนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ”
“เจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียเป็นผู้บุกเบิกริเริ่มจัดตั้งรูปแบบธุรกิจการบินระยะไกลที่มีค่าโดยสารราคาประหยัด การประกาศจัดตั้งพันธมิตรการบินใหม่ในวันนี้เป็นการพลิกรูปแบบพันธมิตรการบินจากแบบเดิมสู่พันธมิตรการบินแบบใหม่ที่มุ่งเน้นลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน สำหรับตลาดการบินในภูมิภาคเอเชียเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างเด่นชัดและมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วตลอดปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีสภาวะการดำเนินงานที่ยากลำบาก แต่มีการคาดการณ์ว่า จะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ดังนั้น การผนึกกำลังเป็นพันธมิตรครั้งนี้จะมอบโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และสร้างความคุ้มค่าสูงสุดให้กับทั้งสองสายการบินดังกล่าวอย่างแน่นอน” มร. จอยซ์ กล่าว
สำหรับข้อตกลงในการเป็นพันธมิตรดังกล่าว ประกอบด้วย
การกำหนดคุณลักษณะของฝูงบินในอนาคตร่วมกัน – ทั้งเจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียจะร่วมกันมองหาลู่ทางในการจัดซื้อเครื่องบินขนาดลำตัวแคบรุ่นใหม่ร่วมกัน เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงานอันเป็นผลเนื่องมาจากการมียอดสั่งซื้อที่สูงจะทำให้ราคาลดลง ตลอดจนร่วมกำหนดแนวทางการออกแบบคุณลักษณะของเครื่องบินให้มีการดำเนินงานที่เปี่ยมประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยต้นทุนที่ลดลง
บริการผู้โดยสาร สัมภาระ และเครื่องบินภายในสนามบิน – พัฒนาความร่วมมือในการยกระดับการให้บริการแก่ผู้โดยสาร การจัดการสัมภาระและเครื่องบินภายในสนามบินในประเทศออสเตรเลียและภูมิภาคเอเชีย
ใช้อุปกรณ์ชิ้นส่วนเครื่องบินและบริการซ่อมบำรุงร่วมกัน – ใช้คลังอุปกรณ์ชิ้นส่วนเครื่องบินร่วมกัน
ใช้บริการซ่อมบำรุงร่วมกัน – ใช้บริการวิศวกรรมและซ่อมบำรุงร่วมกัน โดยเจ็ทสตาร์ยังคงมุ่งใช้ระบบและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในประเทศออสเตรเลีย และ
ระบบบริหารจัดการผู้โดยสาร – กำหนดแนวทางการบริหารจัดการผู้โดยสารบนเครือข่ายเส้นทางบินของเจ็ทสตาร์และแอร์เอเชีย (อาทิ การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในการเปลี่ยนเที่ยวบินของสายการบินอื่น)
ด้านมร. บรูซ บิวคานัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเจ็ทสตาร์ กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้เกิดจากความต้องการลดต้นทุนของทั้งสองสายการบิน เพื่อตอกย้ำปณิธานของเจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียที่มุ่งมอบค่าโดยสารราคาประหยัดให้แก่ผู้โดยสาร” และเสริมว่า “ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เจ็ทสตาร์ได้ลดต้นทุนที่สามารถควบคุมได้สูงถึงปีละ 5% สำหรับการจัดตั้งพันธมิตรการบินใหม่ดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รุดหน้าอีกขั้นทางด้านการจัดการต้นทุนและการมอบค่าโดยสารราคาประหยัดอย่างต่อเนื่อง ในอนาคต เจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียจะร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินพัฒนาฝูงบินใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการในการทำธุรกิจของทั้งสองบริษัทต่อไป”
มร. โทนี เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินแอร์เอเชียมองว่า การจัดตั้งพันธมิตรการบินใหม่ครั้งนี้เป็นก้าวที่รุดหน้าอีกขั้นในการดำเนินกลยุทธ์ของแอร์เอเชียเพื่อครองความเป็นผู้นำในตลาดสายการบินต้นทุนต่ำของโลก
“แอร์เอเชียเชื่อมั่นว่า การผนึกกำลังร่วมกันครั้งนี้จะส่งผลให้แอร์เอเชียสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดสายการบินต้นทุนต่ำระดับโลก แม้ว่าจะต้องเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เรามีนโยบายที่มุ่งควบคุมต้นทุนให้ต่ำที่สุดเพื่อมอบค่าโดยสาราคาประหยัดสุดให้แก่ผู้โดยสารต่อไปอย่างต่อเนื่อง” มร. เฟอร์นานเดส กล่าว
“การผนึกกำลังร่วมกับเจ็ทสตาร์ครั้งนี้จะช่วยให้เรามองหาลู่ทางความร่วมมือในการดำเนินงาน ตอกย้ำปรัชญาในการทำธุรกิจของแอร์เอเชียและเจ็ทสตาร์ที่มุ่งให้บริการที่เปี่ยมประสิทธิภาพด้วยต้นทุนต่ำและมีค่าโดยสารราคาประหยัดแก่ผู้โดยสาร” มร. เฟอร์นานเดส กล่าวปิดท้าย
เจ็ทสตาร์และแอร์เอเชียมีรายได้รวมกันทั้งสิ้น 3,000 ล้านเหรียญออสเตรเลียในปีงบประมาณ 2552