“ธนาคารเกียรตินาคิน” เผยผลงานปี 52 ประสบความสำเร็จในทุกด้าน โดดเด่นสุดนับตั้งแต่ ยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์ สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นถึง 7.8% ระบุปี 53 ตั้งเป้าสินเชื่อรวมเติบโตในระดับ 10% เปิดสาขาเพิ่ม 7-10 แห่ง พร้อมเร่งระดมเงินฝากผ่านสาขาในภูมิภาคและปริมณฑลเพิ่มขึ้น
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ปี 2552 ที่ผ่านมา นับเป็นปีที่ธนาคารประสบความสำเร็จมาก ผลประกอบการเติบโตได้ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในทุกๆ ด้าน สำหรับภาพรวมธุรกิจ ธนาคารมีสินเชื่อรวมเติบโตเพิ่มขึ้น 7.8% และในปี 2553 นี้ คาดว่าจะเติบโตได้ราว 8-12% ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจโลกด้วยว่าจะฟื้นตัวมากน้อยเพียงใด รวมถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศเป็นปัจจัยหลัก ขณะเดียวกัน ธนาคารจะมีการลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และเปิดสาขาเพิ่มอีก 7-10 สาขา เพื่อรองรับการเติบโตในธุรกิจสินเชื่อและเงินฝากของธนาคาร โดยธนาคารยังคงการดำเนินนโยบายที่เน้นการควบคุมและรักษาคุณภาพสินทรัพย์ และรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 6% จากปัจจุบันมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ก่อนหักสำรองตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ที่ 5.6% และมุ่งเน้นทำธุรกิจธนาคารและบริษัทย่อยใน 5 กลุ่ม คือ สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย สินเชื่อทั่วไปซึ่งประกอบด้วยสินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อบุคคล บริการทรัพย์สินรอการขาย และธุรกิจหลักทรัพย์ ในส่วนของเงินฝากจะยังคงกระจายการระดมเงินผ่านสาขาต่างๆ มากยิ่งขึ้น”
นายธวัชไชย สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของธนาคารนั้น จะยังคงรักษาระดับการเติบโตที่ 5-10% ล่าสุด ธนาคารได้เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักในงานมหกรรมรถดี รถเด่น 2010 ด้วยโปรโมชั่นเสนอยอดจัดสินเชื่อเต็ม 100% (สำหรับรถปี 2006 ขึ้นไป) ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมรับคูปองเติมน้ำมันฟรี มูลค่า 1,500 บาท และฟรีประกันอุบัติเหตุ เฉพาะผู้ที่จองซื้อรถภายในงาน 100 ท่านแรก โดยงานจะมีขึ้นในวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ 2553 ที่อาคารจอดรถไฟฟ้ามหานคร ถนนรัชดาภิเษก นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถรับข้อเสนอพิเศษเดียวกันกับในงานตั้งแต่วันที่ 1 – 15 กุมภาพันธ์ ที่เต้นท์รถมือสองคู่ค้าของธนาคารเกียรตินาคินในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีกด้วย
ส่วนงาน Good Living Created by Kiatnakin ที่ธนาคารได้นำลูกค้าสินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของธนาคาร 17 โครงการมานำเสนอที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ให้กับผู้สนใจในราคาพิเศษ เพื่อกระตุ้นยอดขายให้กับลูกค้าก่อนสิ้นมาตรการลดหย่อนภาษีอสังหาริมทรัพย์ และเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 31 มกราคม ซึ่งงาน Good Living นี้ ถือเป็น กิจกรรมนำร่องที่ธนาคารจะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนลูกค้าในการเพิ่มช่องทางด้านการตลาด
ด้านบริหารทรัพย์สินรอขาย (เอ็นพีเอ) นั้น ในปี 2553 นี้ ธนาคารตั้งเป้าจำหน่ายเอ็นพีเอราว 4,000 ล้านบาท และจากการที่ธนาคารได้นำเอ็นพีเอมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท จากทั่วประเทศ มาลดราคาครั้งแรกในรอบปี ด้วยส่วนลดพิเศษ 20-60% โดยแคมเปญดังกล่าวมีผู้สนใจติดต่อขอดูทรัพย์เป็นจำนวนมาก และคาดว่าเมื่อเสร็จสิ้นแคมเปญในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ จะสามารถจำหน่ายทรัพย์ได้ราว 1 ใน 3 ของมูลค่าทรัพย์ครั้งนี้ ซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลกิจกรรมพร้อมทรัพย์ต่างๆ ได้ที่ www.kkasset.com
สำหรับแผนงานด้านเงินฝากและการตลาดนั้น นางสาวฐิตินันท์ วัธนเวคิน ประธานสายธุรกิจเงินฝากและการตลาด ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ขยายฐานเงินฝากลูกค้ารายย่อยด้วยการนำเสนออัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจ รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าผ่านสาขา เครื่องเอทีเอ็ม ซึ่งลูกค้าของธนาคารสามารถใช้บริการเครื่องเอทีเอ็มของทุกธนาคารโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม โดยในปี 2553 ธนาคารจะขยายสัดส่วนเงินฝากไปในสาขา ภูมิภาคและปริมณฑลเพิ่มขึ้น ตลอดจนเพิ่มจำนวนบัญชีลูกค้าใหม่อีก 40% เพื่อรองรับพระราชบัญญัติประกันเงินฝากฉบับใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้เดือนสิงหาคม 2555 ทั้งนี้ ธนาคารจะมีการออก ผลิตภัณฑ์เงินฝากที่หลากหลาย โดยเฉพาะโปรโมชั่นสำหรับสาขาเปิดใหม่ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการ ตลอดจนขยายเวลาการดำเนินงานในวันเสาร์นำร่องในบางสาขา นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ตั้งทีม Financial Planner เพื่อให้บริการลูกค้าของธนาคารในการแนะนำการลงทุนและการออม รวมถึงการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าผลตอบแทนให้กับลูกค้าอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบธนาคารอิเล็กทรอนิกส์หรือ KK e-Banking จากปัจจุบันที่ลูกค้า สามารถเรียก ดูรายการ เดินบัญชีย้อนหลังได้ถึง 6 เดือน รวมถึงการสอบถามข้อมูลบัญชีต่างๆ กับธนาคารได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านเงินฝาก และด้านสินเชื่อ โดยภายในปี 2553 ธนาคาร จะเพิ่มการบริการโอนเงินภายในธนาคาร โอนเงินต่างธนาคาร และเรียกดูข้อมูลกองทุนที่ซื้อผ่านธนาคาร ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมมากยิ่งขึ้น”
นางสาวฐิตินันท์ กล่าวเพิ่มว่า “ลูกค้าที่ฝากเงินกับธนาคาร จะได้รับผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) ที่ดีในทุกๆ บัญชี อาทิ หากลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับ บล.เกียรตินาคิน ก็จะได้รับสิทธิพิเศษเปิดบัญชี KK Investor Savings Plus หรือเงินฝากออมทรัพย์เพื่อนักลงทุน และสมัครใช้บริการหักบัญชีอัตโนมัติ (ATS) โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมการหักบัญชีอัตโนมัติ และจะได้รับอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์สูงกว่าอัตราออมทรัพย์ปรกติ รวมถึงการบริการ KK Fund Mart ซึ่งธนาคารได้รับใบอนุญาตจาก กลต. เป็นตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุนให้กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ชั้นนำ 16 แห่ง ซึ่งจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตามความเหมาะสมของลูกค้าอีกด้วย”
นายชวลิต จินดาวณิค ประธานสายการเงินและงบประมาณ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปี 2552 ว่า “ธนาคาร และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิรวม 2,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.4% จากสิ้นปี 2551 ส่วนสินทรัพย์รวมมีจำนวน 127,354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% ทั้งนี้ ธนาคารประสบความสำเร็จตามเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2552 ในทุกๆ ด้าน มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 5.0% เพิ่มขึ้นจาก 4.2% จากความสำเร็จในการควบคุมและรักษาคุณภาพสินทรัพย์ ปริมาณหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้มีจำนวน 5.64% ของสินเชื่อรวมตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดลงจาก 7.15% และสินเชื่อด้อยคุณภาพหลังหักสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (net NPL) 3.49% ลดลงจาก 4.53% นอกจากนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองทั่วไปจำนวน 784 ล้านบาท เพื่อเพิ่มอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้สงสัยจะสูญเป็น 70% ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยมีหนี้สินรวม (เงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วบีอี และหนี้สินอื่นๆ) อยู่ที่ 109,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.1% ทั้งนี้ สัดส่วนเงินฝากกระแสรายวันและออมทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 7.6% จาก 1.1% ณ สิ้นปี 2551 เป็นไปตามนโยบายที่จะขยายฐานเงินฝากลูกค้ารายย่อย โดยธนาคารได้ออกโปรโมชั่นต่างๆ พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ด้านเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 คำนวณตามเกณฑ์ Basel II อยู่ที่ 16.29%”