บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) (“ศรีอยุธยาประกันภัย”) และ ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) (“ซีไอเอ็มบีไทย”) ได้ร่วมกันประกาศว่าทั้งสองบริษัทได้บรรลุข้อตกลงในการที่บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) จะเข้าซื้อหุ้นจำนวน 99.99% ใน บริษัท บีทีประกันภัย จำกัด (“BTI”) จากธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย ณ ราคาอ้างอิงขั้นต้นที่ 392 ล้านบาท และจะกำหนดราคาขายสุดท้ายในวันปิดธุรกรรมซื้อขายหุ้น ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามที่จะกำหนดปรับเปลี่ยนในสัญญาซื้อขายการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายน 2553 นี้
การเห็นพ้องต้องกันในการขายกิจการครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัยจะลงนามในข้อตกลงทางธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ประกัน (Bancassurance) อายุสัญญา 10 ปี กับ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เพื่อให้ธนาคารเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยของบริษัทบีที ประกันภัย และบริษัทศรีอยุธยาประกันภัย โดยผ่านสาขาต่างๆของธนาคาร ทั่วประเทศ
มร. โรวัน ดี อาซี่ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า“คณะกรรมการของบริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย ได้มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติการเข้าซื้อกิจการของบริษัท บีทีประกันภัย การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะทำให้สถานะในตลาดของบริษัทศรีอยุธยาประกันภัย แข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ได้รับประโยชน์ทางธุรกิจที่ยังคงมีอยู่มากในตลาดการประกันวินาศภัยในประเทศไทย”
มร. โรวัน ดี อาซี่ กล่าว “ในปัจจุบันจะเห็นได้จากอัตราการทำประกันวินาศภัยของประเทศไทยว่ายังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในเอเชีย อีกทั้งเมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวและนโยบายของภาครัฐที่จะสนับสนุนให้มีการทำประกันภัยผ่านมาตรการต่างๆมากมาย บริษัทจึงเชื่อมั่นว่าจะทำให้ธุรกิจประกันภัยของไทยมีอนาคตที่สดใส ดังนั้น บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จึงมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทประกันภัยรายแรกๆที่ใช้โอกาสทางธุรกิจดังกล่าวมาเสริมความแข็งแกร่งของบริษัท ซึ่งการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ จะทำให้บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจประกันวินาศภัยซึ่งเราประสบความสำเร็จอยู่แล้วได้ในทันที”
ด้านนายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย การขายกิจการดังกล่าว สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ในระดับภูมิภาคของกลุ่มซีไอเอ็มบี ซึ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากความรู้ความเชี่ยวชาญของบริษัทประกันภัยชั้นนำในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ โดยมุ่งใช้ศักยภาพเครือข่ายของธนาคารให้เป็นจุดจำหน่าย ธนาคารจะเน้นการใช้ศักยภาพของธนาคารในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัยใหม่ๆอันหลากหลายแก่ลูกค้าผ่านเครือข่ายสาขากว่า 147 แห่งทั่วประเทศ” นายสุภัคกล่าว
นายสุภัคยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้ว่าที่ผ่านมาบริษัทบีที ประกันภัย จะเป็นบริษัทที่มีผลกำไรและมีการบริหารจัดการที่ดี แต่ด้วยกฎระเบียบที่เคร่งครัดมากขึ้นรวมถึงการแข่งขันที่สูงขึ้นในอุตสาหกรรมประกันภัย เชื่อว่ากิจการที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะสามารถสร้างสรรค์และนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และขยายธุรกิจได้ ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจของบริษัท บีทีประกันภัย จึงมีความเหมาะสมกับกิจการที่มีความแข็งแกร่งอย่างบริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย อีกทั้งบริษัทศรีอยุธยาประกันภัยซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และยังเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการประกันวินาศภัยชั้นนำมานานถึง 60 ปีอีกด้วย ธนาคารจึงมั่นใจว่าจะได้พันธมิตรทางธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ประกัน (Bancassurance) ที่แข็งแกร่ง”
อย่างไรก็ตาม ทั้งบริษัทศรีอยุธยาประกันภัย และบริษัท บีทีประกันภัย จะยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปตามปกติจนกว่าขั้นตอนการเข้าซื้อกิจการจะเสร็จสมบูรณ์ รวมถึงเงื่อนไขต่างๆตามกรมธรรม์ประกันภัยทั้งหมดของบริษัทจะยังคงเป็นไปตามที่ได้ตกลงไว้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งหลักเกณฑ์การเรียกร้องและชดเชยค่าเสียหายต่างๆแต่อย่างใด โดยลูกค้าซึ่งมีกรมธรรม์ที่จะครบกำหนดจะได้รับการติดต่อจากผู้จัดการหน่วยที่ดูแลลูกค้าเพื่อการต่ออายุหรือการโอนย้ายกรมธรรม์ หรือสามารถติดต่อสายด่วน ที่ 02-657-1672
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะต้องเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยและผู้ถือหุ้นของบริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน)
มร. ดี อาซี่ ยังกล่าวอีกว่า “การเข้าซื้อกิจการนี้จะช่วยให้ทั้ง บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย และ บริษัท บีทีประกันภัย สามารถผสมผสานจุดแข็งของกันและกันได้ดียิ่งขึ้น และช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และการบริการอันหลากหลายได้ง่ายมากขึ้น บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนการลงทุนที่สูงขึ้นแก่นักลงทุนและก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วมระหว่างผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม”
เกี่ยวกับ บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน)
บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2493 โดยเป็นบริษัทประกอบธุรกิจทางด้านการรับประกันภัยต่อบุคคลทั่วไปได้แก่ การรับประกันอัคคีภัย การรับประกันภัยทางทะเลและขนส่ง การประกันภัยเบ็ดเตล็ด รวมทั้งการประกันภัยรถยนต์ ปัจจุบัน บริษัทมีสาขาทั้งสิ้น 18 สาขา และมีพนักงาน 350 คนในประเทศไทย ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2552 บริษัทได้รับคัดเลือกให้เป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่มีการบริหารดีเด่น อันดับ 1 ติดต่อกันสองปีซ้อนประจำปี 2550 และ 2551 จาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และได้รับรางวัลบริษัทประกันวินาศภัยที่มีผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ดีที่สุด (Best Product Innovation) ประจำปีจาก หอการค้าเนเธอร์แลนด์-ไทย ในปี พ.ศ. 2552
เกี่ยวกับซีไอเอ็มบีไทย
ซีไอเอ็มบีไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย มีเครือข่ายสาขา 147 สาขาทั่วประเทศและให้บริการทางการเงินที่หลากหลายทั้งแก่ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบรรษัท นอกจากนี้ ยังให้บริการที่ปรึกษาแก่กิจการธุรกิจ การซื้อขายหุ้น ธุรกิจกองทุนรวม การบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัยผ่านบริษัทในเครือต่างๆ
ซีไอเอ็มบีไทย เดิมชื่อ ไทยธนาคาร ได้เป็นส่วนหนึ่งของซีไอเอ็มบีกรุ๊ปในปี 2552 หลังจากซีไอเอ็มบีกรุ๊ปเข้าถือหุ้นร้อยละ 93.15 ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 ซีไอเอ็มบีไทยมีสินทรัพย์รวมและส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 126,000 ล้านบาทและ 7,700 ล้านบาทตามลำดับ