กสิกรไทย จับมือสำนักงานประกันสังคม ปล่อยกู้โครงการสินเชื่อสวัสดิการบ้าน สปส.เพื่อ ผู้ประกันตน ให้ดอกเบี้ยพิเศษ 2.5% คงที่ 5 ปี หนุนให้ผู้ประกันตนมีบ้านเป็นของตนเองและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตั้งเป้ามีผู้ขอสินเชื่อ 3,000 ล้านบาท
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคาร กสิกรไทย ได้ร่วมกับสำนักงานประกันสังคม เปิดโครงการสินเชื่อสวัสดิการบ้าน สปส. เพื่อผู้ประกันตน เพื่อให้สิทธิประโยชน์โดยตรงกับผู้ประกันตนที่ต้องการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านและที่ดิน ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม ขยายที่อยู่อาศัย หรือเป็นการกู้เพื่อการไถ่ถอนจำนอง (Refinance)
ผู้ประกันตนที่จะเข้าร่วมโครงการสินเชื่อสวัสดิการบ้าน สปส. เพื่อผู้ประกันตน ต้องมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ดำรงสถานะความเป็นผู้ประกันตนตลอดระยะเวลาที่ใช้สิทธิตามโครงการ ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยในกรณีกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจะสามารถกู้ได้สูงสุด 90% ของราคาซื้อขาย และไม่เกิน 90% ของราคาประเมิน ในกรณีกู้เพื่อปลูกสร้างบ้าน ต่อเติม ปรับปรุงที่อยู่อาศัยกู้ได้สูงสุด 100% ของราคาสิ่งปลูกสร้าง และไม่เกิน 90% ของราคาประเมิน ผ่อนชำระสูงสุด 30 ปี
สำหรับอัตราดอกเบี้ยวงเงินกู้ส่วนแรก 1.5 ล้านบาท ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ย 2.50% ต่อปี คงที่เป็นเวลา 5 ปี หลังจากนั้นจะคิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ลบ 0.25% ต่อปี สำหรับที่อยู่อาศัยทั่วไป และคิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ สำหรับอาคารพาณิชย์ จนสิ้นสุดอายุสัญญา โดยปัจจุบันดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ของธนาคารอยู่ที่ 5.85% ซึ่งต่ำที่สุดในระบบธนาคารพาณิชย์ ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนที่เกิน 1.5 ล้านบาท จะคิดในอัตราเอ็มแอลอาร์ถึงเอ็มแอลอาร์ลบ 1% ตามประเภทโครงการที่ ผู้ประกันตนซื้อ
นายชาติชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการสินเชื่อสวัสดิการบ้าน สปส. เพื่อผู้ประกันตน ของธนาคารกสิกรไทยและสำนักงานประกันสังคม จะช่วยผู้ประกันตนมีทางเลือกในการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย ในขณะที่ธนาคารกสิกรไทยก็สามารถให้บริการสินเชื่อบ้านแก่ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีรายได้ปานกลาง ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดที่มีศักยภาพสูง
ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อจากโครงการนี้เริ่มต้นที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท ผู้ประกันตนที่สนใจสามารถสมัครขอสินเชื่อโครงการดังกล่าวพร้อมยื่นเอกสารการกู้เงิน พร้อมหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตนได้ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 หรือจนกว่าจะมีผู้ใช้สิทธิ์เต็มวงเงินของโครงการได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ K-Contact Center 0 2888 8888