กูเกิ้ล ไมโครซอฟต์ แอปเปิ้ล และไอบีเอ็ม: แบรนด์เทคโนโลยีมาแรงในการจัดอันดับ

กูเกิ้ล ไมโครซอฟต์ แอปเปิ้ล และไอบีเอ็ม: แบรนด์เทคโนโลยีมาแรงในการจัดอันดับ 100 อันดับแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดทั่วโลก โดยมิลวาร์ด บราวน์

BRANDZ TOP 100 เหล่านี้ มีมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และ เติบโตขึ้น 40% ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา แบรนด์ที่แข็งแรงติด 100 อันดับนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถเติบโตเอาชนะตลาดหุ้นและปรับตัวได้แม้ในสภาวะที่เศรษฐกิจถดถอย

นับเป็นปีที่ 5 แล้ว ที่บริษัทมิลวาร์ด บราวน์ ออพติเมอร์ จำกัด (บริษัทในเครือ WPP) จัดทำรายงานในหัวข้อ BRANDZ TOP 100 Most Valuable Global Brands โดยจัดอันดับแบรนด์ต่างๆ และได้มีการเผยแพร่ไปแล้วทั่วโลกเมื่อวานนี้ ซึ่งแบรนด์ที่แข็งแกร่งได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สามารถปรับตัวในสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ถึงแม้ตัวชี้วัดทางการเงินทั้งหลายตกต่ำลง แต่มูลค่าของแบรนด์ที่ติด 100 อันดับแรก กลับเพิ่มขึ้น 4% จากปีที่ผ่านมา ถือเป็นมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านล้านดอลล่าร์ ซึ่งการจัดอันดับนี้เป็นการจัดอันดับเดียวในโลกที่นำความคิดเห็นจากกลุ่มผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์มาร่วมประเมิน และแสดงผลออกมาเป็นมูลค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ

โจแอนนา เซดดอน ซีอีโอของบริษัทมิลวาร์ด บราวน์ ออพติเมอร์ จำกัด กล่าวว่า “ที่ผ่านมา เมื่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลายๆ บริษัทจะตัดงบโฆษณาเร็วเกินไป แต่แนวโน้มใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้ คือหลายบริษัทเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการคงงบประมาณด้านโฆษณาไว้หรือแม้กระทั่งเพิ่มงบประมาณเพื่อเสริมสร้างแบรนด์รอยัลตี้กับผู้บริโภค”

จากรายงานการจัดอันดับพบว่า
แบรนด์เทคโนโลยีมาแรง: แบรนด์สินค้าเทคโนโลยีต่างๆ ได้แสดงให้เห็นถึงการแทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น โดยอันดับเป็นของกูเกิ้ล ด้วยมูลค่าแบรนด์ 114,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ อันดับ 2 ได้แก่ ไอบีเอ็ม ที่มีมูลค่าแบรนด์ 86,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 30% ตามมาด้วย แอปเปิ้ล ที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 32% โดยมีมูลค่า 83,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และไมโครซอฟท์ ในอันดับที่สี่ กับมูลค่าแบรนด์ 76,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Social Media ก็มาด้วย: Social network อย่างเฟซบุ๊ค ได้ก้าวเข้ามาติดอันดับในกลุ่มเทคโนโลยีแบรนด์ด้วยเป็นปีแรก ด้วยมูลค่าแบรนด์ 5,500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ในปีนี้การใช้ social media ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น HSBC ที่ประสบความสำเร็จกับชุมชนแบบออนไลน์ Expat Explorer

กลุ่มประเทศ BRICs ก็ติดอันดับกับเขาด้วย: นับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์จากอินเดียติดอันดับ โดยธนาคาร ICICI อยู่ในอันดับที่ 45 และเป็นครั้งแรกเช่นกันที่แบรนด์จากประเทศบราซิล รัซเซีย และจีน เข้ามาติดอันดับด้วยจนครบทุกประเทศในกลุ่ม BRICs

ฝากเงินไว้กับแบรนด์ดีกว่า: เมื่อนำหลักทรัพย์การลงทุนของแบรนด์ 100 อันดับแรกมาเทียบกับ S&P 500 ก็พบว่าตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมานั้น ถ้านำเงินมาลงทุนในหลักทรัพย์ของแบรนด์เหล่านี้ 1,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ปัจจุบันจะได้ผลตอบแทนที่มูลค่าสูงถึง 1,185 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ในขณะที่ผลตอบแทนที่จะได้จากการลงทุนใน S&P 500 นั้น จะได้แค่เพียง 885 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าแบรนด์ที่แข็งแรงเหล่านี้ ให้ผลตอบแทนดีกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นเสียอีก

แบรนด์ที่แข็งแรงฟื้นตัวได้ดีกว่า: ซัมซุง มีอัตราการเติบโตของมูลค่าแบรนด์สูงถึง 80% ซึ่งถือว่าสูงที่สุด และสตาร์บัคส์ ที่มีมูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้น 17% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแบรนด์ที่แข็งแกร่งสามารถฟื้นตัวได้เร็วหลังจากช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา

ไอลีน แคมเบล โกลบอลซีอีโอของบริษัทมิลวาร์ด บราวน์ จำกัด ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดอันดับนี้ว่า “การจัดอันดับ 100 แบรนด์นี้ ถือเป็นการยกระดับความสำคัญในการสร้างแบรนด์ของบริษัทต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเหล่าซีอีโอ และซีเอฟโอ ทั้งหลายทั่วโลกควรจะถามทีมงานสร้างแบรนด์ และทีมงานการตลาดของของตนเองว่า พวกเขาจะสามารถใช้แบรนด์เพื่อปกป้องและเสริมสร้างให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างไรบ้าง”