ฟุตบอลโลก2010 : พฤติกรรมแฟนบอลในการเลือกซื้ออาหาร-เครื่องดื่ม

มหกรรมฟุตบอลโลกเข้าสู่รอบ 4 ทีม การแข่งขันที่เริ่มเข้มข้น และทำให้บรรดาแฟนฟุตบอลต้องติดตามลุ้นการแข่งขันอย่างใกล้ชิด ซึ่งในรอบ 4 ทีมนี้ การแข่งขันจะอยู่ในช่วง 1.30 น. ทั้งหมดจนถึงรอบชิงชนะเลิศ ทำให้คาดการณ์ว่าเป็นช่วงโอกาสที่บรรดาแฟนฟุตบอลจะเพิ่มการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มในช่วงมื้อดึก โดยเฉพาะในระหว่างการติดตามชมฟุตบอล บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สำรวจ “พฤติกรรมการติดตามฟุตบอลโลก 2010 ของชาวกรุงเทพฯ”ในระหว่างวันที่ 4-18 มิถุนายน 2553 จากกลุ่มตัวอย่าง 552 ชุด โดยกระจายกลุ่มตัวอย่างตามอายุ เนื่องจากในแต่ละช่วงอายุจะมีพฤติกรรมในการติดตามชมมหกรรมฟุตบอลโลก และพฤติกรรมในการเลือกซื้อสินค้าที่แตกต่างกัน และในระหว่างวันที่ 20-28 มิถุนายน 2553 มีการสัมภาษณ์เจาะกลุ่มบรรดาแฟนบอลเพื่อติดตามพฤติกรรมการเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สำรวจพบว่า พฤติกรรมของบรรดาแฟนบอลที่ติดตามชมมหกรรมฟุตบอลโลก 2010 เกี่ยวกับสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม มีประเด็นสำคัญ ดังนี้

? ค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นในช่วงฟุตบอลโลก
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นในช่วงฟุตบอลโลก2010 ก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัด 1,000 ล้านบาท โดยคำนวณจากการติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันในกรุงเทพฯและปริมณฑล 0.24 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนคนที่ติดตามชมการแข่งขันในช่วงเวลา 1.30 น. ที่ระบุว่าจะมีการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มในมื้อดึกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งมื้อ เนื่องจากผู้ติดตามการถ่ายทอดสดการแข่งขันในช่วงเวลา 18.30 น. และ 21.30 น. ไม่ได้มีส่วนในการสร้างเม็ดเงินเพิ่มให้กับการซื้ออาหารและเครื่องดื่มมากนัก เนื่องจากเป็นการบริโภคมื้อเย็นเช่นเดียวกับช่วงปกติ และการติดตามชมฟุตบอลคู่ที่ถ่ายทอดเวลา 21.30 น. ก็ยังติดกับการบริโภคในมื้อเย็นมากเกินไป ทั้งนี้จำนวนแมทช์เฉลี่ยที่ติดตามชม 19 แมทช์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการซื้ออาหารและเครื่องดื่มในระหว่างการชมเฉลี่ย 100 บาทต่อแมทช์ อย่างไรก็ตาม จำนวนเม็ดเงินสะพัดนั้นขึ้นอยู่กับการเปลียนแปลงของจำนวนคนที่ติดตามชมการถ่ายทอดสด โดยเฉพาะถ้าทีมโปรดที่ตามเชียร์สามารถผ่านเข้ารอบลึกๆ ได้ ในปีนี้แม้ว่าทีมโปรดของคนไทยคือ อิตาลีและฝรั่งเศสตกรอบแรก ส่วนอังกฤษ และโปรตุเกสตกรอบ 16 ทีม บราซิลและอาร์เจนตินาตกรอบ 8 ทีม แต่ก็ยังเหลือทีมที่บรรดาคอบอลตามเชียร์คือ เยอรมนี สเปน และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งน่าจะยังคงดึงให้จำนวนคนติดตามชมการถ่ายทอดสดได้อย่างต่อเนื่อง และถ้าคู่ชิงชนะเลิศเป็นทีมที่คนติดตามชมคาดหวังว่าจะได้เชียร์อย่างน่าตื่นเต้น ก็จะทำให้จำนวนคนที่ติดตามชมการถ่ายทอดสดเพิ่มขึ้น ส่งให้เม็ดเงินสะพัดจากอานิสงส์ฟุตอบลโลก2010 เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

จากผลการสำรวจคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างติดตามชมทั้ง 64 แมทช์ร้อยละ 12.4 ติดตามชมทุกนัดตั้งแต่รอบ 16 ทีม(8แมทช์) ร้อยละ 8.5 ติดตามชมทุกนัดตั้งแต่รอบ 8 ทีม(4 แมทช์) เลือกติดตามเฉพาะทีมที่สนใจร้อยละ 34.6 และเลือกติดตามในวันเวลาที่สะดวกเท่านั้นร้อยละ 33.3 ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วพบว่าจำนวนแมทช์เฉลี่ยที่คนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างติดตามชมประมาณ 19 แมทช์ ส่วนค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการซื้ออาหารและเครื่องดื่มเพื่อบริโภคในระหว่างการติดตามชมการถ่ายทอดฟุตบอลของคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างแตกต่างกันในแต่ละกลุ่มอายุ กล่าวคือ กลุ่มอายุที่น้อยกว่า 24 ปี ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 50 บาทต่อคนต่อวัน กลุ่มอายุระหว่าง 25-44 ปี ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 70 บาทต่อคนต่อวัน และกลุ่มอายุที่มากกว่า 24 ปี มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 150 บาทต่อคนต่อวัน

– ค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารและเครื่องดื่มในช่วงฟุตบอลโลก2010 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ
เมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารและเครื่องดื่มในช่วงฟุตบอลโลก2010 เทียบกับช่วงเวลาปกติแล้วพบว่าคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 61.6 ยังมีค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับช่วงปกติ ร้อยละ 24.8 มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และร้อยละ 13.6 มีค่าใช้จ่ายลดลง

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาแยกกลุ่มอายุแล้วพบว่ากลุ่มอายุ 15-19 ปี นับเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายสำหรับสินค้าอาหารและเครื่องดื่มในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลก2010 เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ระบุว่ามีค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นมากที่สุด

– ประเภทอาหารและเครื่องดื่มที่เลือกบริโภคเพิ่มขึ้นตลอดช่วงการติดตามชมฟุตบอลโลก
ในระหว่างที่ติดตามชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก2010 คนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างเลือกซื้อขนมขบเคี้ยวถึงร้อยละ 59.0 โดยประเภทของขนมขบเคี้ยวที่เลือกซื้อมีหลากหลาย เช่น ข้าวโพดคั่ว มันฝรั่ง ปลาเส้น สาหร่าย ข้าวเกรียบ เป็นต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายขนมขบเคี้ยวในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 10 จากช่วงปกติ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 200 ล้านบาท

สำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมของบรรดาแฟนบอลอันดับรองๆลงมา ได้แก่ เครื่องดื่มทั้งที่มีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ อาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์ และอาหารสำเร็จรูป(รวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป) ซึ่งอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้ได้รับอานิสงส์จากยอดจำหน่ายที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากช่วงปกติด โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้น นับว่าเป็นอานิสงส์ต่อเนื่อง โดยยอดจำหน่ายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงที่มีความวุ่นวายทางการเมือง ทำให้คาดว่าในปี 2553 ยอดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะมีอัตราการขยายตัวมากกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ในช่วงต้นปี โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 100 ล้านบาทในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลก จากในช่วงปกติที่คาดว่ามีมูลค่าตลาดเฉลี่ยรายเดือนประมาณ 930 ล้านบาท

ส่วนอาหารประเภทฟาสต์ฟุ้ดส์ก็ได้รับอานิสงส์ในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลก2010 ด้วยเช่นกัน ร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์เกือบทุกค่ายต่างร่วมลงชิงชัยในตลอด 1 เดือนเต็มในครั้งนี้ เพื่อหวังเป็นหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภค ที่ต่างเพิ่มโปรโมชันใหม่ๆ และขยายเวลาในการจัดส่งมากขึ้น ซึง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 จากช่วงปกติ โดยในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลก2010 มียอดจำหน่ายฟาสต์ฟู้ดส์เพิ่มขึ้นประมาณ 200 ล้านบาท โดยเฉพาะธุรกิจเดลิเวอรี่อาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 20.0 ของมูลค่าอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์ทั้งหมด

เครื่องดื่มทั้งที่มีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ได้รับอานิสงส์จากการติดตามชมการแข่งขันฟุตบอลโลก2010 เช่นกัน โดยคาดว่า ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีความคึกคักเพิ่มขึ้นจากช่วงปกติ ทั้งในส่วนของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่จำหน่ายตามร้านอาหาร สถานบันเทิง หรือสถานที่ต่างๆ ที่มีการติดตั้งจอภาพถ่ายทอดสดขนาดใหญ่ รวมทั้งที่จำหน่ายตามร้านค้าปลีก เพื่อนำกลับไปดื่มที่บ้าน ซึ่งจากปัจจัยดังที่กล่าวมาข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงคาดว่า ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกปีนี้ จะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 170 ล้านบาท จากช่วงปกติ หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 ตลอดช่วงมหกรรมฟุตบอลโลก ส่วนเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์นั้น ยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นชัดเจน คือ กาแฟกระป๋อง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่ายอดจำหน่ายกาแฟกระป๋องน่าจะเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติประมาณร้อยละ 5-10 หรือเพิ่มขึ้น ประมาณ 40-80 ล้านบาทในช่วงฟุตบอลโลก2010

สำหรับอาหารเสริมสุขภาพก็เป็นสินค้าที่ได้รับอานิสงส์จากฟุตบอลโลก2010 เช่นกัน ส่วนหนึ่งเนื่องจากบรรดาผู้ประกอบการตื่นตัวในการขยายฐานลูกค้า โดยการเร่งให้ความรู้ และข้อมูลที่ถูกต้องของอาหารเสริมสุขภาพ กอปรกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ห่วงใยและใส่ใจในสุขภาพของตนเองมากขึ้น และปัจจุบันผู้บริโภคบางกลุ่มไม่ได้มองว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลก2010 ผู้ประกอบการมีการส่งเสริมการขาย โดยเน้นการบำรุงร่างกายเพื่อให้พร้อมทั้งการติดตามชมการแข่งขัน และการทำงาน/เรียนในวันรุ่งขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่ายอดจำหน่ายอาหารเสริมสุขภาพน่าจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10-15 จากยอดจำหน่ายปกติ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 150-200 ล้านบาท