‘คิดซ์ แอนด์ คิทซ์’ ปลื้มหลังยักษ์ใหญ่ธุรกิจเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว ‘เอป๊อค’ แห่งแดนปลาดิบ แต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่าย ‘ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่’ ในประเทศไทย หลังประสบความสำเร็จในทุกทวีปทั่วโลก ประกาศเดินเกมรุก ขยายช่องทางจำหน่าย พร้อมอัดงบโฆษณา ประชาสัมพันธ์เต็มรูปแบบ หวังสร้างอัตราเติบโต 40% ต่อปี เชื่อปี 53 สามารถดึงแชร์ตลาดของเล่นเด็กผู้หญิงกว่า 5% ประมาณ 20 ล้านบาท
นายวีระศักดิ์ กิจเลิศไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิดซ์ แอนด์ คิทซ์ จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับเลือกจาก บริษัท เอป๊อค จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ผู้สร้างตุ๊กตาครอบครัวสัตว์เสริมความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ที่เป็นที่นิยมในทั่วทุกมุมโลก ณ ปัจจุบัน หรือที่รู้จักกันดีในนาม ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ทั้งนี้ ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในทุกทวีปทั่วโลก มีอย่างน้อย 42 ประเทศที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ซึ่งผลิตภัณฑ์ ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเห็นได้จากยอดขายผลิตภัณฑ์ ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ ทั่วโลกเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งในปี ที่ผ่านมายอดขายผลิตภัณฑ์ ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ เติบโตถึงร้อยละ 57 ซึ่งตอกย้ำกระแสความนิยมได้เป็นอย่างดี
สำหรับในประเทศไทย ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ เป็นที่รู้จักอย่างดีในกลุ่มลูกค้า Hi-end ที่มีกำลังซื้อสูง การทำตลาดที่ผ่านมาเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเน้นการสร้าง Brand Loyalty ของลูกค้าเป็นหลัก โดยความนิยมในตัวผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาแพร่หลายผ่าน Word of Mouth ระหว่างกลุ่มลูกค้า ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ ด้วยกัน และสร้างเป็นสังคมผู้เล่นที่มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้ากลุ่มครอบครัว (แม่-ลูก) “ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ ถูกสร้างสรรค์ภายใต้แนวคิดการออกแบบ “Family, Nature, and Love” โดยการจำลองครอบครัวตุ๊กตาสัตว์ต่างๆ เลียนแบบการใช้ชีวิตของมนุษย์ มีอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และสิ่งแวดล้อมต่างๆ ให้เด็กได้สัมผัส และใช้จินตนาการของตนเอง ในส่วน Family นั้น เราต้องการสนับสนุนสถาบันครอบครัว ส่งเสริมการใช้เวลาว่างระหว่างพ่อ แม่ ลูก และการเรียนรู้กิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในบ้าน Nature ต้องการเสริมสร้างให้เด็กรักธรรมชาติ รักสัตว์ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยใช้ครอบครัวของสัตว์นานาชนิดที่เด็กๆ ชื่นชอบเป็นหัวใจหลักของการเล่น เพื่อสร้างความผูกพันกับธรรมชาติและสัตว์โลก และสุดท้าย Love คือการมีส่วนช่วยขัดเกลาจิตใจเด็กให้อ่อนโยน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รักตนเอง รักครอบครัว รักสังคม ปลูกฝังสิ่งดีๆ ให้กับเด็กๆ โดยยังเก็บความฝันและช่วยสานจินตนาการของเด็ก ให้ผสมผสานกับความเป็นจริง และด้วยแนวคิดดังกล่าวทำให้ ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ ถูกยกย่องให้เป็นของเล่นเสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ด้วยรางวัลที่ยืนยันความสำเร็จมาแล้วจากทั่วทุกมุมโลก” นายวีระศักดิ์ กิจเลิศไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิดซ์ แอนด์ คิทซ์ จำกัด กล่าว
ด้าน มร. มร. ฮิกูจิ ฮิโรมิซึ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอป๊อค จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ได้กล่าวแสดงความเชื่อมั่นถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “เอป๊อค ได้แต่งตั้งให้ คิดซ์ แอนด์ คิทซ์ หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจของเล่น ในประเทศไทย เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของเอป๊อค โดยคาดว่าจากประสบการณ์ และแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์ของ คิดซ์ แอนด์ คิทซ์ จะทำให้ผลิตภัณฑ์ ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ เป็นที่นิยมของกลุ่มเป้าหมาย และมียอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตอย่างแน่นอน”
ด้านแผนการผลักดันและขยายความนิยมของ ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ ในประเทศไทย นั้น นายวีระศักดิ์ กิจเลิศไพโรจน์ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในประเด็นดังกล่าวว่า “เราวางเป้าหมายยอดขายปีแรกอยู่ที่ 5% ของมูลค่าตลาดรวมของของเล่นเด็กผู้หญิง หรือประมาณ 20 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถสร้างอัตราเติบโต ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 40% ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากในตลาดผลิตภัณฑ์ของเล่นเด็กผู้หญิงมีคู่แข่งไม่ มากนัก และการแข่งขันไม่รุนแรงเท่าตลาดเด็กผู้ชายที่มีลักษณะเป็น Red Ocean นอกจากนี้ เรายังมี แผนขยายช่องทางจำหน่ายผ่าน Shop ซิลวาเนี่ยน แฟมิลี่ กว่า 30 แห่งทั่วประเทศ โดยเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าครอบครัว Hi-end ที่มีกำลังซื้อสูง ให้ความสำคัญกับพัฒนาการของบุตรหลาน และให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้า ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา ซึ่งจะสามารถเข้าถึงและบริการลูกค้ากลุ่มดังกล่าว อย่างเป็นส่วนตัว โดยอาศัยกลยุทธ์ CRM อย่างเต็มรูปแบบ ประกอบกับการจัดกิจกรรมแบบ Exclusive สำหรับลูกค้าคนพิเศษที่เลือกสรรแล้วเท่านั้น ตัวอย่างกิจกรรม อาทิ Birthday Party, Afternoon Tea Party เป็นต้น ซึ่งในขณะนี้ เรามีฐานข้อมูลลูกค้าประมาณ 2,000 รายที่ติดต่อเป็นประจำผ่าน SMS และ e-mail ประกอบกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านระบบ Membership และ Social Network Marketing”