นายวสันต์ เคียงศิริ กล่าวถึง ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งตลาดแนวราบและแนวสูง ว่า มีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีก ซึ่งแนวสูงกำลังมีการปรับตัวเข้าสู่จุดสมดุลย์ ส่วนแนวราบเริ่มมีการเติบโตมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะในการขยายโครงการแนวราบเพิ่ม ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเรา ในปัจจุบันโซนรามคำแหง
ธารารมณ์มีโครงการที่เปิดอยู่ 3 โครงการ ได้แก่ พาร์คเวย์ ชาเล่ต์ และ พาร์คเวย์ โฮม ที่เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ โดยอยู่ในระดับ Move Up ขึ้นไป ส่วนการ์เด้น สวีท อินดี้ โฮม เป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งพบว่าทั้ง 3 โครงการยังไม่ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปในปัจจุบันได้อย่างเพียงพอ เราจึงได้เปิดโครงการใหม่ขึ้นมา ภายใต้ชื่อ “Trendy Tara รามคำแหง” บ้านเดี่ยวขนาด 50 ตร.ว. ที่เหมาะจะเป็น First Home ของคนรุ่นใหม่ที่อยากมีบ้านเดี่ยว ดังนั้น โครงการทั้ง 4 ของเราจึงสามารถเข้าถึงความต้องการที่อยู่อาศัยในโซนรามคำแหงนี้ได้อย่างครอบคลุม
นายคณิต ฉายรัตนอภิรมย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด บริษัท ธารารมณ์ เอสเตท จำกัด เปิดเผย เกี่ยวกับโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ล่าสุด Trendy Tara รามคำแหง ว่า เป็นแบบบ้านไอเดียใหม่ที่มีให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ แบบบ้านNova, Geo, Arte และ Motif บนขนาดที่ดินตั้งแต่ 50-70 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 135-180 ตารางเมตร จำนวน 107 แปลง มูลค่าโครงการกว่า 450 ล้านบาท โดยโครงการตั้งอยู่บนถนนราษฎร์พัฒนา ที่เชื่อมต่อกับถนนรามคำแหง และห่างจากถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออกเพียง 300 เมตร ทำให้สามารถเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ หรือศูนย์กลางธุรกิจในเมืองด้วยถนนพระราม 9 และทางด่วนขั้นที่ 2 ได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว
โครงการ Trendy Tara รามคำแหง เป็นโครงการที่นำหลักการออกแบบบ้านในสไตล์ Modern Tropical ที่มีลักษณะเรียบ ง่าย ดูดีและทันสมัย เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย ซึ่งโครงการนี้ได้พัฒนาภายใต้
คอนเซ็ปต์ “Trendy Living” ประกอบด้วย
• Trendy Function ทุกแบบบ้านภายในถูกออกแบบให้สามารถสร้างสรรค์พื้นที่การใช้งานหรืออยู่อาศัยได้ตามความ
ต้องการ บริเวณชั้น 2 จะมี Relax Corner เป็น Bonus Area ที่สามารถ Flexible ในการตกแต่ง ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์หรือกิจกรรมของคนรุ่นใหม่ได้ เช่น ตกแต่งเป็นห้องสมุด ห้องทำงาน ห้องดนตรี ห้องดูหนัง ห้องทำการบ้านสำหรับเด็กๆ
เป็นต้น และ Cool Corner มุมส่วนตัวที่ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมส่วนตัวตามที่ต้องการได้ในยามว่าง รวมทั้ง ยังออกแบบให้เป็น Open Concept ขยายพื้นที่ใช้สอยให้มีขนาดกว้างขึ้น มีหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมประตู Slide เน้นความโปร่งโล่งสบาย มีการเชื่อมต่อของห้องช่วยให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานและอยู่อาศัยได้อย่างต่อเนื่อง
• Trendy Design ออกแบบบ้านให้ดูมีความเทรนดี้ ทันสมัย ด้วย Color Fantasy สามารถปรับเลือกเปลี่ยนกรอบสีหน้า
บ้านได้ 4 สี ทำให้เกิดแบบบ้าน 16 แบบ ให้ความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครในบริเวณโซนเดียวกัน นอกจากนี้ ทางโครงการ ยังได้ให้ความสำคัญกับการลดภาวะโลกร้อน ด้วยคอนซ็ปต์ Go Green โดยเราเลือกสีเบเยอร์ คูล เซรามิกชิลด์ ใช้เป็นสีทาภายนอกบ้าน เพื่อเป็นฉนวนกันร้อนและสะท้อนรังสียูวี ลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ ช่วยให้อุณหภูมิพื้นผิวเย็นลง และใช้บล็อกหญ้าปูพื้นบริเวณที่จอดรถ ลดการดูดซับความร้อน ช่วยให้อุณหภูมิรอบบ้านเย็นลงได้
สำหรับคอนเซ็ปต์ Main Park ของโครงการ เราได้นำสไตล์การตกแต่งสวนแบบ Modern Tropical เพื่อให้สอดคล้องกับ
บรรยากาศภายในบ้าน โดยเป็นสวนที่มีพรรณไม้เขตร้อน เน้นความร่มรื่น มีการจัดสวนที่เน้นลายเส้นสาย เพื่อความทันสมัย นอกจากนี้ยังได้จัดโซนต่างๆ ให้อยู่ในพื้นที่เดียวกันพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโซนสนามเด็กเล่น (Kids Zone) ลู่วิ่ง (Jogging Track) ที่มีแนวต้นไม้ตลอดทาง ลานอเนกประสงค์ (Multi Purpose Plaza) และอาคารสโมสร พร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนสที่อยู่บริเวณข้างสวนเช่นกัน
สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ภายในโครงการ เราได้จัดให้มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมติดตั้งระบบ CCTV ภายในโครงการ เพื่อสร้างความมั่นใจถึงความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยทุกคน ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ ก็จะใกล้แหล่ง Shopping สถานศึกษา โรงพยาบาลและอื่นๆ อีกมากมาย
ในส่วนกิจกรรมการตลาดของโครงการ Trendy Tara รามคำแหง เราได้จัด Presale ให้กับกลุ่มลูกบ้านในโครงการเดิมของบริษัทที่สนใจสามารถเลือกแปลงสวยได้ก่อนใคร พร้อมรับ LCD TV 42 นิ้ว อีก 1 เครื่อง นอกจากนี้ เรายังได้นำโครงการ Trendy Tara รามคำแหง ไปร่วมออกบูธภายในงาน Home Buyers’ Expo 2010 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19-22 สิงหาคมนี้ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมจัดโปรโมชั่นแถมแอร์ฟรีทุกห้องนอนอีกด้วย ซึ่งการเปิดตัวโครงการ เราได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 100 ล้านบาท