บลจ.ทิสโก้ จับจังหวะช่วงสถานการณ์ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ลุยเพิ่มทุน “กองทุนเปิดทิสโก้ ออยล์ ฟันด์” อีก 1,000 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 หลังกระแสตอบรับนักลงทุนดีเกินคาด พร้อมรองรับดีมานด์ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Theeranat Rujimethapass, Managing Director of TISCO Asset Management Co.,Ltd.) เปิดเผยว่าในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากความกังวลใจเกี่ยวกับตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas ที่กองทุน DBO ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่ทิสโก้ ออยล์ ฟันด์ ลงทุนอยู่มีการปรับตัวลดลง ทำให้เป็นโอกาสกับผู้ลงทุนที่สนใจการลงทุนในน้ำมันดิบ ทยอยเข้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบลจ.ทิสโก้ ได้ทำการจดทะเบียนเพิ่มทุน “กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ฟันด์” ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 อีก 1,000 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าโครงการ “กองทุนเปิดทิสโก้ ออยล์ ฟันด์” เพิ่มเป็น 4,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการลงทุนในอนาคต
“การที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวนและปรับตัวลงมาจากราคา 147 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังจากวิกฤตการทางเศรษฐกิจ ทำให้การลงทุนในน้ำมันดิบมีความน่าสนใจมากขึ้น อย่างไรก็ตามการซื้อน้ำมันดิบโดยตรงนั้นเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับผู้ลงทุนส่วนใหญ่ ดังนั้นหนึ่งในทางเลือกก็คือการซื้อกองทุน ETF น้ำมัน อย่างเช่น กองทุน PowerShares DBO ที่กองทุนของเราส่งเงินไปลงทุน ซึ่งในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาความกังวลใจของผู้ลงทุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบรุ่นที่กองทุนหลักลงทุนมีการปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 79 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งผู้ลงทุนอาจเห็นเป็นโอกาสจึงเข้ามาทยอยซื้อสะสมไป ซึ่งปัจจุบันหลังจากผู้ลงทุนคลายความกังวลใจราคาก็ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 81 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ เนื่องจากว่าหากมองปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจโลกแล้วนักวิเคราะห์ก็ยังเชื่อว่าการฟื้นตัวยังคงเดินหน้าต่อไป และโอกาสที่จะเกิดเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้งนั้นมีความเป็นไปได้น้อยมาก ซึ่งความต้องการใช้น้ำมันดิบซึ่งถือเป็นปัจจัยการผลิตอย่างหนึ่งก็น่าจะมีการเติบโตต่อไป ซึ่งจะเป็นประเด็นสำคัญที่ยันไว้ไม่ให้ราคาน้ำมันลดลงมาก อย่างเช่นในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ในระยะสั้นยังมีปัจจัยที่อาจจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นมาได้ ก็คือการลดกำลังการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก เพราะในช่วงนี้ถึงเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่พายุเฮอริเคนในอ่าวดังกล่าวจะก่อตัวหนาแน่นมาก ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป” นายธีรนาถ กล่าว
สำหรับนโยบายของ “กองทุนเปิดทิสโก้ ออยล์ ฟันด์” เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) โดยมีกองทุนหลักคือ PowerShares DB Oil Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (New York Stock Exchange,NYSE) มีนโยบายการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Deutsche BANK Liquid Commodity Index-Optimum Yield Crude Oil Excess Return ซึ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นหากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับผู้ลงทุนแล้วต้องถือว่าการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์อย่างเช่นน้ำมัน หรือทองคำ ถือเป็นการลงทุนทางเลือกอย่างหนึ่ง แม้ว่าจะมีราคาผันผวนขึ้นลงได้เหมือนการลงทุนในหุ้นหรือพันธบัตรระยะยาว แต่เนื่องจากบางครั้งการเคลื่อนไหวของราคาอาจจะไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการลงทุนในตลาดหุ้น ดังนั้นประโยชน์ที่นักลงทุนจะได้นอกจากในเรื่องของโอกาสในการได้ผลตอบแทนที่ดีแล้ว ก็คือ การกระจายความเสี่ยงในการลงทุน นั่นเอง อย่างไรก็ตามสิ่งที่นักลงทุนต้องทำการบ้านเพิ่มก็คือต้องพยายามทำความเข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างเช่น น้ำมันหรือราคาทองคำตลาดโลกเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุน
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือที่ TISCO Contact Center โทร 02 633 6000 กด 4 หรือ www.tiscoasset.com