NINE พร้อมนำหุ้นเข้าตลาดเอ็มเอไอส่งท้ายปี แย้มอนาคตรุกสื่อใหม่-ไม่ใช่แค่ยักษ์ใหญ่สื่อสิ่งพิมพ์

NINE เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ปลายปีนี้ ตั้งดีบีเอส วิคเคอร์ส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน แย้มจะขยายธุรกิจจากที่เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ด้านความรู้และความบันเทิงของไทยไปสู่สื่อใหม่และสื่ออื่นๆ ในอนาคต เผยสิ่งพิมพ์ที่สร้างยอดขาย อย่างนิตยสารการ์ตูนอันดับหนึ่งของไทย ‘BOOM’ การ์ตูนโดราเอมอน เครยอนชินจัง นินจาคาถาโอโฮเฮะ ดราก้อนบอล หนังสือลิขสิทธิ์ดิสนีย์ และยังเป็นตัวแทนจำหน่ายสิ่งพิมพ์หัวนอกชื่อดังมากมาย ทั้ง The Wall Street Journal Asia, The Yomiuri Shimbun, Forbes, Fortune, Reader’s Digest, Time, Newsweek

นายธนะชัย สันติชัยกูล ประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NINE ผู้สร้างธุรกิจจากเนื้อหาสื่อสำหรับเยาวชนและประชาชนทั่วไป ในรูปแบบของสื่อสิ่งพิมพ์ที่ให้ความรู้และความบันเทิง และสื่ออื่นๆ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ภายในไตรมาส 4 ของปี 2553 และพร้อมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายในปีนี้ โดยมีบริษัท ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 70 ล้านบาท แบ่งเป็น 70 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ภายหลังการขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ ทุนจดทะเบียนจะเพิ่มขึ้นเป็น 85 ล้านบาท โดยหุ้นที่นำมาจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปส่วนหนึ่งจะมาจากผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมคือ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จำนวน 4 ล้านหุ้น (จากเดิมที่เคยจะเสนอขาย 14 ล้านหุ้น)

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้เพื่อรองรับการขยายธุรกิจใหม่ๆ ทั้งการออกนิตยสารการ์ตูนฉบับใหม่ การพัฒนาธุรกิจบนสื่อใหม่ (New Media) ซึ่งถือเป็นการต่อยอดทางธุรกิจ ที่สามารถนำลิขสิทธิ์ที่ได้จากนักเขียนทั้งในและต่างประเทศไปขยายการให้บริการแก่ผู้อ่านผ่านรูปแบบสื่อใหม่ๆ ทั้งโทรศัพท์มือถือ เว็บไซต์ เช่น การเปิดให้บริการดาวน์โหลดเนื้อหาการ์ตูน และเกมส์ ผ่านโทรศัพท์มือถือ รวมถึงการลงทุนเพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศและพัฒนาประสิทธิภาพในการบริหารคลังสินค้า และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ

“การนำหุ้นออกขายครั้งนี้จำนวนค่อนข้างน้อย แต่เราก็อยากเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามามีส่วนร่วมกับธุรกิจของ NINE ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงขยายงาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลที่ปรับปรุงข้อมูลใหม่ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) จึงยังให้ข้อมูลอะไรมากไม่ได้ ซึ่งหาก ก.ล.ต.พิจารณาแล้ว ก็จะสามารถเห็นภาพในอนาคตที่ชัดเจนขึ้นได้” นายธนะชัยกล่าว

ด้านนางเกษรี กาญจนะวณิชย์ กรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ กล่าวว่า ภาพรวมของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ในประเทศมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และอนาคตยังขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีก โดยมีปัจจัยจากภาครัฐมีนโยบายในการส่งเสริมให้คนไทยรักการอ่าน และการเพิ่มขึ้นของจุดจำหน่ายหนังสือและมีหนังสือที่ออกใหม่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้คนไทยมีการใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อหนังสือเพิ่มขึ้น

สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ ปัจจุบันมาจากการผลิตและจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์สำหรับเยาวชนประมาณ 50% จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายสิ่งพิมพ์จากต่างประเทศและบริการที่เกี่ยวข้องประมาณ 33% จากการผลิตและจำหน่ายพ็อคเก็ตบุ้คส์ ประมาณ 15% ที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ อย่างไรก็ตาม จากจุดแข็งของบริษัทฯ ในเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเขียนที่มีคุณภาพมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งความสัมพันธ์กับสำนักพิมพ์และเจ้าของลิขสิทธิ์ต่างๆ ในต่างประเทศ บริษัทฯ จึงจะนำจุดแข็งนี้มาขยายธุรกิจ โดยจะมีช่องทางสื่อใหม่ๆ นอกเหนือจากสิ่งพิมพ์ รวมถึงการทำกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ซึ่งจะเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในอนาคตด้วย

ทั้งนี้ สื่อสิ่งพิมพ์สำหรับเยาวชนของ NINE ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เช่น นิตยสารการ์ตูน BOOM ที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งของนิตยสารการ์ตูนในประเทศไทย นอกจากนั้นยังมีหนังสือการ์ตูนโดราเอมอน เครยอนชินจัง นินจาคาถาโอโฮเฮะ ดราก้อนบอล หนังสือลิขสิทธิ์ดิสนีย์และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนสิ่งพิมพ์ต่างประเทศที่ NINE เป็นตัวแทนจำหน่าย เช่น The Wall Street Journal Asia, The Yomiuri Shimbun, Forbes, Fortune, Reader’s Digest, Time, Newsweek เป็นต้น ด้านพ็อคเก็ตบุ้คส์ ก็มีหลากหลายแนว ทั้งแนวสุขภาพ จิตวิทยา บริหารธุรกิจ การตลาด การลงทุน ซึ่งจัดทำโดยสำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์