เทศกาลกินเจปีนี้มีการจัดกิจกรรมกันอย่างคึกคักโดยเฉพาะตามเมืองท่องเที่ยวสำคัญในทุกภาคของไทย รวมทั้ง ภูเก็ต ที่มีการจัด “งานประเพณีถือศีลกินผัก” อย่างยิ่งใหญ่สืบเนื่องกันมาทุกปี และในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้ามายังภูเก็ตเพื่อท่องเที่ยวพักผ่อน และเพื่อร่วมงานพิธีตามประเพณีถือศีลกินผัก ที่จัดขึ้นโดยศาลเจ้าที่มีอยู่ประมาณ 20 แห่งในภูเก็ต รวมทั้งร่วมชมพิธีกรรมแห่พระ ลุยไฟ ไต่บันไดมีด และพิธีสะเดาะห์เคราะห์ ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือน จนเป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้งานประเพณีถือศีลกินผักของภูเก็ตมีชื่อเสียงไปในตลาดท่องเที่ยวโลก
ตลาดเอเชีย..ฟื้นตัว : หนุนท่องเที่ยวภูเก็ตช่วงกินเจ..คึกคัก
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า การท่องเที่ยวภูเก็ตในช่วง 9 วัน ที่มีการจัดงานประเพณีถือศีลกินผัก มีแนวโน้มคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวภูเก็ตรวมทั้งสิ้นประมาณ 230,000 คนเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากได้แรงเกื้อหนุนสำคัญๆดังนี้
ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สามารถเรียกความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยกลับคืนมาในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติได้เร็วกว่าพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นของไทย
การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของหลายประเทศในเอเชีย เอื้ออำนวยต่อการขยายตัวของตลาดท่องเที่ยวระยะใกล้ในภูมิภาคเอเชีย
ความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภูเก็ต ในการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อส่งเสริมการขายในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะการจัดโรดโชว์ในตลาดท่องเที่ยวสำคัญๆของภูเก็ต สามารถเรียกความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กลับคืนมาในหมู่นักท่องเที่ยวจากตลาดระยะใกล้ในเอเชีย โดยเฉพาะจีน และเกาหลี ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตรวดเร็ว รวมทั้งยังเกื้อหนุนให้มีการขยายตัวของตลาดท่องเที่ยวใหม่ๆเข้ามายังภูเก็ต อาทิ รัสเซีย อินเดีย และตะวันออกกลาง
ความคุ้มค่าด้านการท่องเที่ยวของไทย ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้บรรดาเอเยนต์ทัวร์เลือกภูเก็ตเป็นปลายทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากยุโรป ทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยจากตลาดระยะไกลในยุโรปเริ่มทยอยเดินทางเข้ามายังภูเก็ตในช่วงฤดูท่องเที่ยวนี้ (ตุลาคม 2553 – มีนาคม 2554)
การขยายตัวของตลาดนักท่องเที่ยวคนไทย ซึ่งได้แรงเกื้อหนุนสำคัญจากมาตรการด้านภาษีของภาครัฐ (บุคคลธรรมดาที่มีค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวภายในประเทศในปีนี้ สามารถนำใบเสร็จมาหักค่าลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งรวมทั้งการซื้อบริการนำเที่ยวในประเทศ จากผู้ให้บริการนำเที่ยวที่ได้รับอนุญาต ค่าที่พักโรงแรมที่มีใบอนุญาต และค่าโดยสารเครื่องบิน)
นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในช่วงเทศกาลกินเจ ส่วนใหญ่ คือ ประมาณกว่าร้อยละ 60 เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 20 จากปีที่แล้ว ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของภูเก็ตประกอบด้วยกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออก ยุโรป ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ออสเตรเลีย และรัสเซีย ตามลำดับ โดยสามารถจำแนกสัดส่วนได้ ดังนี้
สำหรับนักท่องเที่ยวคนไทยที่มีสัดส่วนประมาณเกือบร้อยละ 40 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศด้วยมาตรการด้านภาษีของภาครัฐ
รายได้ท่องเที่ยวภูเก็ตช่วงกินเจ : ส่วนใหญ่สะพัดสู่ธุรกิจโรงแรม
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า การใช้จ่ายในด้านต่างๆของนักท่องเที่ยวระหว่างที่พำนักท่องเที่ยวในภูเก็ตช่วงเทศกาลกินเจ มีแนวโน้มก่อให้เกิดเม็ดเงินรายได้ด้านการท่องเที่ยวสะพัดสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องในภูเก็ตคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 4,200 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากปีที่ผ่านมา เม็ดเงินรายได้ด้านการท่องเที่ยวดังกล่าว มีแนวโน้มกระจายสู่ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
สัดส่วนการกระจายเม็ดเงินรายได้ท่องเที่ยวของภูเก็ตสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
ในช่วงเทศกาลกินเจปี 2553
30 % ประมาณ 1,260 ล้านบาท สะพัดสู่ ธุรกิจด้านที่พัก โดยเฉพาะโรงแรมในเมืองที่มีอยู่ราว 70 แห่ง ซึ่งมีห้องพักรวมกันกว่า 5,000 ห้อง และอีกประมาณกว่า 600 แห่งซึ่งกระจายอยู่ตามหาดต่างๆ มีห้องพักรวมกันเกือบ 40,000 ห้อง
20 % ประมาณ 840 ล้านบาท สะพัดสู่ ธุรกิจด้านสถานที่ท่องเที่ยว บริการนำเที่ยว และการคมนาคมภายใน
18 % ประมาณ 760 ล้านบาท สะพัดสู่ ธุรกิจจำหน่ายของที่ระลึก ภูเก็ตมีสินค้าที่หลากหลาย อาทิ เครื่องประดับมุก ผ้าบาติก ผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอย อาหารทะเลแปรรูป ขนมเต้าส้อ น้ำพริกกุ้งเสียบ ไตปลาแห้ง ผลิตภัณฑ์จากสับปะรด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น
18% ประมาณ 750 ล้านบาท สะพัดสู่ ธุรกิจภัตตาคาร และร้านอาหาร มีทั้งร้านที่ตั้งอยู่ในโรงแรม และกระจายอยู่
12% ประมาณ 500 ล้านบาท สะพัดสู่ ธุรกิจบริการด้านบันเทิง และพักผ่อน อาทิ สถานบันเทิงยามราตรี สปา นวดแผนโบราณ กีฬากอล์ฟ ดำน้ำ ปีนเขา ปั่นจักรยาน และกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ
เทศกาลกินเจในหลายจังหวัด…ช่วยกระตุ้นบรรยากาศท่องเที่ยวปลายปี 2553
ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาคการท่องเที่ยวต่างมุ่งผลักดันให้เมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองท่องเที่ยวรองในแต่ละภูมิภาค จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ซึ่งรวมทั้งงานประเพณีและเทศกาลต่างๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกแก่นักท่องเที่ยวในการเดินทางไปเข้าร่วมกิจกรรมในเส้นทางที่ตนสะดวก สำหรับเทศกาลกินเจซึ่งอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมนับเป็นกิจกรรมสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปี
ในหลายพื้นที่ของภาคใต้ เช่น หาดใหญ่ ตรัง พังงา และภาคอื่นๆ เช่น พัทยา และนครสวรรค์ ต่างจัดงานเทศกาลกินเจอย่างยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับกรุงเทพฯ ซึ่งมีการจัดงานใหญ่เป็นประจำเช่นทุกปี โดยเฉพาะในย่านไชน่าทาวน์เยาวราชมีการจัดงานอย่างคึกคัก มีร้านขายอาหารเจนานาชนิด และการแสดงต่างๆ ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากทุกปี นอกจากนี้ยังมี บรรดาห้างสรรพสินค้า ภัตตาคาร และร้านอาหารชั้นนำในกรุงเทพฯ ที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงเทศกาลกินเจ รวมทั้งเตรียมอาหารเจหลากหลายเมนูไว้ดึงดูดลูกค้า
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่มีการวางระเบิดหลายจุดในช่วงที่ผ่านมา อาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการร่วมงานเทศกาลกินเจที่จัดขึ้นในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อประกอบกับมาตรการด้านภาษีที่ภาครัฐใช้เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ จึงมีแนวโน้มทำให้มีนักท่องเที่ยวบางส่วนเลือกที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวและร่วมพิธีกินเจในจังหวัดอื่นแทน ส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลกินเจตามต่างจังหวัด โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวสำคัญยังคงมีแนวโน้มคึกคัก
สรุป
ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง ทำให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ และฟื้นตัวได้เร็วกว่าพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นของไทย ดังนั้น แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ด้วยปัจจัยที่เกื้อหนุนหลายประการ ส่งผลให้การท่องเที่ยวภูเก็ตในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 ขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2552
สำหรับในช่วงครึ่งหลังปี 2553 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า หากไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดมากระทบแล้ว การท่องเที่ยวภูเก็ตมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นแม้ในอัตราที่อาจไม่สูงนักเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2552 ที่การท่องเที่ยวภูเก็ตฟื้นตัวอย่างเด่นชัดในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม มีงานประเพณีถือศีลกินผักซึ่งอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม ถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่เปิดฤดูท่องเที่ยวปีนี้ของภูเก็ต (ตุลาคม 2553-มีนาคม 2554) ซึ่ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า ในช่วง 9 วันของเทศกาลกินเจปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังภูเก็ตประมาณ 230,000 คน หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปี 2552 และมีแนวโน้มก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวสะพัดสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั่วภูเก็ตเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากปี 2552 โดยมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 4,200 ล้านบาท