เลคิเซ่ มุ่งหวังการเติบโตเพิ่มขึ้น 30% ในปีหน้า พร้อมดันผลิตภัณฑ์ใหม่ LED ตอบโจทย์การใช้งานยุคปัจจุบัน มุ่งเน้นการตลาด Below the Line เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคจับกระแสประหยัดพลังงาน เล็งขยายตลาดสู่ภูมิภาคอาเซียนทันที
นายสมนึก โอวุฒิธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลคิเซ่ ไลท์ติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหลอดไฟเลคิเซ่ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการผลิตอุปกรณ์ส่องสว่างที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ยาวนานกว่า 41 ปี ภายใต้ บริษัท ลี้กิจเจริญแสง จำกัด โดยมียอดการจัดจำหน่ายในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากเดิมทุกปีจนถึงปัจจุบัน
“ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการผลิตหลอดไฟโดยรวม มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มมีการฟื้นตัว ประกอบกับจุดแข็งของบริษัทที่เน้นการผลิตสินค้าประหยัดพลังงานเพื่อตอบสนองผู้บริโภคและภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ทั้งยังเน้นการบริการทั้งก่อนและหลังการขายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีลูกค้าแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ ลูกค้าโครงการ 80% และผู้บริโภคทั่วไป 20% โดยตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท เลคิเซ่ ไลท์ติ้ง จำกัด เมื่อปี 2551 มีลูกค้าโครงการแล้วกว่า 500 โครงการ อาทิเช่น กลุ่มโรงแรม, โรงพยาบาล, องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม เป็นต้น โดยในปี 2553 นี้ คาดการว่ายอดขายจะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปีก่อน“ นายสมนึก กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลอดไฟเลคิเซ่ มีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในอุตสาหกรรมหลอดไฟ โดยเฉพาะตลาดในประเทศให้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดและการขายให้มีความครบวงจร และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกประเภทมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ๆให้กับแบรนด์ เลคิเซ่ ด้วยเช่นกัน
โดยในปี 2553 บริษัทใช้งบประมาณ เพื่อการดำเนินกิจกรรมด้านการตลาดและการขาย โดยเน้นการสร้างแบรนด์เลคิเซ่ให้เป็นที่จดจำผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุด National Geographic โดยมุ่งให้เกิดการทดลองใช้หลอดไฟที่ให้แสงสว่างมากกว่าแต่ช่วยประหยัดพลังงาน จากนั้นได้กระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการในตัวสินค้าเลคิเซ่เพิ่มสูงขึ้น ผ่านแคมเปญแจกล้าน “เลคิเซ่ ขย้อนล้าน” ช่วยสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนในวัยทำงานที่ให้ความสำคัญกับการใช้สินค้าที่ประหยัดพลังงาน ตลอดจนการจัดกิจกรรม Road Show ตามห้างค้าปลีก และงานแสดงสินค้าต่างๆ เพื่อเพิ่มยอดขายให้เติบโตควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์เลคิเซ่ ในฐานะผู้นำด้านการผลิตหลอดไฟประหยัดพลังงานสูงสุด และเป็นที่หนึ่งในการให้บริการด้านแสงสว่างอย่างครบวงจร
พร้อมกันนี้ เลคิเซ่ ยังได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม CSR เช่น แจกหลอดไฟให้กับกทม.ในวันสิ่งแวดล้อมโลก , เข้าร่วมร่วมในโครงการ TOGETHER WE CAN ,ร่วมมือกับกฟผ.ในโครงการปลูกต้นไม้รอบบ้านพ่อ , แจกร่มใหญ่บังแดดให้กับผู้ค้าในตลาดและชุมชน และร่วมบริจาคหลอดไฟให้กับวัดต่างๆ
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดของหลอดไฟเลคิเซ่ในปีหน้า ยังคงเน้นการ Remind Brand เพื่อเน้นการจดจำแบรนด์ในกลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรมทางการตลาดแบบ Below the Line เพิ่มมากขึ้น โดยการออกงานแสดงสินค้า จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายไปยังร้านค้า ตัวแทนจำหน่ายและห้างสรรพสินค้า ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้เรื่องการลดใช้และอนุรักษ์พลังงานในกลุ่มผู้บริโภค รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ทางเลคิเซ่ยังมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2554 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลอดไฟ LED ที่มีการต่อยอดมาจากหลอด LED เดิมๆที่วางขายอยู่ตามท้องตลาดทั่วไป และมีจุดเด่นในเรื่องของราคาที่ไม่สูงมากนัก สามารถจับต้องได้ ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานในยุคปัจจุบัน ทั้งนี้ ยังมุ่งเดินหน้าในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์หลอดไฟ LED เพื่อรองรับการใช้ประโยชน์ในอนาคตอีกด้วย
นอกจากนี้ นายสมนึก โอวุฒิธรรม กรรมการผู้จัดการฯ ยังเปิดเผยถึงแผนการขยายตลาดไปสู่ตลาดต่างประเทศอีกด้วยว่า จะผลักดันสินค้าแบรนด์ LeKise ไปสู่ตลาดอาเซียน อาทิ มาเลเซีย พม่าเวียดนาม เพื่อเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ค่าเงินบาทต้องไม่มีความผันผวนมากจนเกินไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณการส่งออกโดยตรง
อย่างไรก็ตาม เลคิเซ่ คาดหวังว่า ผลประกอบการในปี 2554 จะมียอดขายรวมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% จากเดิมที่เติบโตในปีนี้ 30% โดยเชื่อว่ายอดขายที่เพิ่มมากขึ้นมาจากกระแสของการประหยัดพลังงานในกลุ่มผู้บริโภค รวมถึงหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ต้องการลดค่าใช้จ่าย และหันเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน T5 ที่ประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้มากกว่าหลอดผอมทั่วไปถึง 40% โดยได้รับการส่งเสริมจาก กฟผ. อีกด้วย