พีดีเฮ้าส์ ตอกย้ำตลาดรับสร้างบ้านภูธรรุ่ง

ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ โตไม่หยุดภายหลัง บริษัท อโยธยา โฮมบิลเดอร์ จำกัด ขอซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์รับสร้างบ้าน ปักธงสาขาที่ 18 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่งท้ายปี 2553 คาดตลาดรับสร้างบ้านพื้นที่ภาคกลางแนวโน้มเติบโตสดใส ตั้งเป้ายอดขายปีแรกเบาะๆ แค่ 40 ล้านบาท เผยลำดับถัดไปสาขาที่ 19 จังหวัดสมุทรสาคร และสาขาที่ 20 หาดใหญ่ พร้อมเปิดอย่างเป็นทางการเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ที่จะถึงนี้

นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่จะให้บริการรับสร้างบ้านขยายออกไปทั่วประเทศ ภายใต้แบรนด์พีดีเฮ้าส์ ที่มีมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้สาขาจังหวัดพระนครศรีอยุธยานับเป็นสาขาที่ 18 บริหารงานโดย บริษัท อโยธยา โฮมบิลเดอร์ จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์ สาขาอยุธยา ที่พร้อมให้บริการสร้างบ้านแก่ลูกค้าและผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียง อาทิ อ่างทอง ลพบุรี สุพรรณบุรี เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าตลาดรับสร้างบ้านในจังหวัดพื้นที่ภาคกลางมีแนวโน้มเติบโตค่อนข้างสูง เนื่องเพราะผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านเอง หันมาใช้บริการจากบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพแทนผู้รับเหมารายย่อยมากขึ้น
“ภายใต้แนวคิดการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) และสร้างพันธมิตรผู้ประกอบการ SME (Alliance) ให้เกิดการรวมพลังและเกิดเป็น Economy of Scale เพื่อสร้างความเข้มแข็งในกลุ่มธุรกิจแบบยั่งยืน ซึ่งบริษัทฯ ได้เลือกนำเอาระบบแฟรนไชส์มาต่อยอดธุรกิจรับสร้างบ้าน ภายใต้แบรนด์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ถือว่าที่ผ่านมาประสบความสำเร็จด้วยดี สำคัญที่สุดคือจะทำให้ผู้ประกอบการ SME ในเครือข่ายสามารถเริ่มต้นธุรกิจและแข่งขันกับบริษัทรายใหญ่ได้อย่างไม่เสียเปรียบ นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดสาขาที่ 19 และ 20 จังหวัดสมุทรสาคร และหาดใหญ่หรือสงขลาอย่างเป็นทางการภายในเดือนกุมภาพันธ์ นี้ ซึ่งนับว่าาเป็นไปตามแผนการขยายสาขาที่บริษัทฯ วางไว้”

นายศิวเสกข์ พิพัฒนบวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อโยธยา โฮมบิลเดอร์ จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขาอยุธยา กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถือเป็นจังหวัดสำคัญทางเศรษฐกิจของภาคกลาง โดยเฉพาะเป็นเมืองท่องเที่ยวทางวัฒนธรรรมสำคัญ สำหรับภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯ และที่อยู่อาศัย ถือได้ว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีอัตราการเติบโตสูงมาก และเมื่อวิเคราะห์ถึงความต้องการสร้างบ้านเองของผู้บริโภคในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ 1. สร้างบ้านหลังแรกเพื่ออยู่อาศัย หรือคือกลุ่มผู้บริโภคในท้องถิ่น 2. สร้างที่พักอาศัยหลังที่ 2 เพื่อเป็นธุรกิจ หมายถึงกลุ่มผู้บริโภคในท้องถิ่นหรือนักลงทุนต่างถิ่นที่เข้ามาลงทุนสร้างอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า ทั้งนี้ประเมินว่าน่าจะมีสัดส่วนประมาณ 80 : 20 ทำให้ตลาดบ้านสร้างเองและการสร้างที่อยู่อาศัย ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีโอกาสเติบโตสูงมาก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ

เชื่อมั่นว่าการเปิดตัวของศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์สาขาอยุธยาครั้งนี้ จะสามารถตอบโจทย์และสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงใจ ทั้งนี้คาดว่ามูลค่าหรือราคาค่าก่อสร้างบ้านโดยเฉลี่ยประมาณ 3-5 ล้านบาท/หลังจะได้รับความนิยมสูงสุด โดยในปีแรกนี้พีดีเฮ้าส์สาขาอยุธยา ตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 40 ล้านบาท เหตุที่ตั้งเป้ายอดขายไว้ไม่สูงนัก เป็นเพราะบริษัทฯ ต้องการจะเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคยิ่งขึ้น