ผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้าน ซีคอน โฮม ปิดฉากปี 53 ด้วยยอดขาย 1,300 ล้าน (ซีคอน โฮม 810 ล้านบาท และคอมแพค โฮม 490 ล้านบาท) เติบโตขึ้น 18% เหตุแข็งแกร่งด้านดีไซน์แบบบ้าน ระบบก่อสร้าง ระบบบริหาร และกิจกรรม CRM มั่นใจปี 54 ทิศทางสดใส เตรียมแผนขยายฐานลูกค้าครั้งใหญ่ฉลองครบรอบ 50 ปี คาดกวาดยอดขาย 1,400 ล้าน
นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ซีคอน จำกัด และบริษัท คอมแพคโฮม จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทซีคอนรับสร้างบ้าน ประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้จะมีเหตุปัจจัย ที่ทำให้การขายชะลอตัวในบางช่วง แต่ด้วยความแข็งแกร่งและประสบการณ์ของผู้นำธุรกิจ ทำให้มีความเฉียบคม ในการสร้างสรรค์กลยุทธ์ต่างๆ มาเติมเต็ม โดยในปีที่ผ่านมา ได้วางกลยุทธ์สู่ความสำเร็จในแบบ 360 องศา ผ่าน 5 ปัจจัยหลัก ประกอบด้วย
1.การสร้างสรรแบบบ้าน ที่มีให้เลือกมากถึง 32 แบบใหม่ กระจายในกลุ่มซีรี่ส์ต่างๆ ได้แก่ Series Modern Bangkok ราคา 3-9 ล้านบาท 14 แบบ ส่วนคอมแพคโฮม ออกแบบบ้านสมาร์ท 12 แบบ ซึ่งเปิดตัวในงาน New Home Builder 2010 และในงานรับสร้างบ้าน 2010 กับแบบบ้านระดับราคา 8 ล้านบาทขึ้นไปของซีคอนโฮม ใน Series The Modern และ The Master รวม 6 แบบ ความสำเร็จในส่วนนี้ เกิดจากความพร้อม ของทีมดีไซเนอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำให้เพิ่มศักยภาพการออกแบบบ้านใหม่ได้เร็วและหลากหลายแบบในเวลาจำกัด ทันตาม Trend ความต้องการของผู้บริโภค ถือได้ว่าตอบโจทย์ได้ถูกต้อง เพราะแบบบ้านที่ขายได้ดี และส่งผลให้ยอดขายในปี 2553 สามารถเป็นไปตามเป้าหมายได้ เกินกว่า 70% เป็นแบบบ้านใหม่ที่ออกแบบในปีที่ผ่านมา
2. ระบบก่อสร้างซีคอน ที่ยังคงมาตรฐานในเรื่องความแข็งแรงของโครงสร้าง ความรวดเร็วในการขนส่งและติดตั้งหน้างาน รวมไปถึงคุณภาพงานก่อสร้างที่เรามุ่งมั่นพัฒนามาโดยตลอด
3. ระบบบริหารภายใน – การนำระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) เข้ามาใช้ตั้งแต่กลางปี 52 ส่งผลให้เราสามารถทำงานได้รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน อาทิเช่น การส่งของไปที่หน้า site ได้ถูกต้อง ทั้งจำนวนที่จะต้องส่งและทันเวลาที่จะใช้ ทำให้หน้างานก่อสร้างทำงานได้ราบรื่น ไม่สะดุดจากเหตุที่ส่งของไม่ตรงกำหนดหรือว่าส่งผิด และทำให้เราสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น
4. กลยุทธ์ด้าน CRM ในปีที่ผ่านมาเรามีทีม CRM ที่เข้าไปดูแลลูกค้า อย่างใกล้ชิด ทีม CRM จะคอยสอบถามถึงความพึงพอใจของลูกค้าในระหว่างงวดงาน ถ้าเกิดว่ามีปัญหาอะไรที่ทำให้ลูกค้าไม่สบายใจ งานก่อสร้างตรงไหนที่ไม่เป็นที่ถูกใจลูกค้า เราก็สามารถทราบและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ดีกว่าปล่อยปัญหาไว้จนทำให้เกิดความบาดหมางใจระหว่างลูกค้าและบริษัท ซึ่งจะส่งผลเสียต่อบริษัทในระยะยาว แต่หากเราดูแลดี เราจะเพิ่มลูกจาก Word of Mouth ได้เช่นกัน
5. การจัดโปรโมชั่นและ Event อย่างต่อเนื่อง ค่อนข้างพิสูจน์ได้ว่า การเข้าถึงลูกค้าด้วยวิธี Below the Line ได้ผลมากกว่าในแง่ของยอดขาย จากที่เราจัด event ที่บริษัทควบคู่กับการออกบูธกับทางสมาคมฯ ทำให้เรามีโอกาสในการขายมากขึ้น ส่วนการโฆษณาเรายังทำอยู่ เพื่อสร้างการจดจำในแบรนด์ของทั้ง ซีคอนโฮมและคอมแพคโฮม ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในปีที่ผ่านมา
ด้านทิศทางตลอดจนแนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในปี 2554 นั้น นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กล่าวแสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าวว่า “สภาพโดยรวมของเศรษฐกิจยังไปได้ดี ซึ่งสนง.เศรษฐกิจการคลัง ประมาณการว่า ในปี 54 การขยายตัวเศรษฐกิจจะอยู่ที่ 4.5% ซึ่งถ้าเศรษฐกิจยังคงไปได้ดี ก็มีโอกาสว่าลูกค้าจะมีเงินในมือมากขึ้น และทำให้ตัดสินใจสร้างบ้านมากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ การขยายตัวของสาขาให้บริการของบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำ รวมถึงการออกโปรโมชั่นที่เอื้อต่อการซื้อตลอดปี ก็ช่วยเพิ่มความคึกคักให้แก่ตลาดรวมเช่นกัน ด้านการร่วมมือกันระหว่างคู่ค้าทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทผลิตวัสดุก่อสร้าง หรือธนาคารพาณิชย์ ส่งผลให้การร่วมมือทางธุรกิจเป็นไปในลักษณะ Win – Win ต่างคนต่างเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน บริษัทขายวัสดุได้มากขึ้น คนซื้อสามารถซื้อ-ขายวัสดุ ในราคาที่พอใจ ส่วนธนาคารก็ได้ลูกค้าง่ายขึ้น สามารถเพิ่มยอดการขอสินเชื่อ ส่วนลูกค้าเองก็ได้รับความสะดวกสบายในการติดต่อ สามารถติดต่อกับธนาคารง่ายขึ้น โดยเชื่อมั่นว่า มูลค่าตลาดรวมเฉพาะบริษัทรับสร้างบ้าน น่าจะเติบโตขึ้น ประมาณ 5% หรือประมาณ 1,300 ล้านบาทในปี 54”
ในส่วนกลยุทธ์ทางการตลาดที่กลุ่มซีคอน โฮม ได้กำหนดทิศทางไว้ในปี 54 นั้น นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กล่าวว่า “จุดหลักที่เราใช้ในการเดินเกมตลาดก็คือ ความต้องการลูกค้า และการตอบสนองความต้องการนั้นได้อย่างดีที่สุด โดยในปี 54 เรายังคงสานต่อกลยุทธ์แบบ 360 องศาดังปีที่ผ่านมา แต่จะเสริมเติมแต่งให้มีสีสันยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราเชื่อมั่นว่าเราพร้อมที่จะเติมเต็มทุกความต้องการของตลาดได้อย่างลงตัว โดยในปีที่ผ่านมาเราได้วางระบบโครงสร้างการทำงานเพื่อรองรับการขยายตัวไว้แล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการกำหนดแผนที่ชัดเจน เพื่อเตรียมมอบเป็นของขวัญในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปี ของซีคอนโฮม ในฐานะบริษัทรับสร้างบ้านรายแรกของเมืองไทย เพื่อให้ Corporate Brand ของเราก้าวสู่การเป็นผู้นำในทุกกลุ่มตลาด ผ่านช่องทางต่างๆ ประกอบด้วย 1. Products ซึ่งเราต้องการขยายฐานลูกค้าไปสู่บ้านระดับราคาสูงขึ้น แต่ยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิมของไว้อย่างเหนียวแน่น โดยออกแบบบ้านมา Support ทุกกลุ่ม ตั้งแต่ราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป 2. Service เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำ เราได้ปรับปรุงทั้งผลงานการก่อสร้าง และปรับปรุงการบริการให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ลดระยะเวลาในการแก้ไขแบบและคิดราคา การให้ข้อมูล ที่ครบถ้วนกับลูกค้าก่อนการตัดสินใจ ส่วนคอมแพคโฮม การสร้าง Brand ยังต้องทำต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน Brand คอมแพคโฮม ลูกค้ารู้จักมากขึ้นและมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้เกิดความต้องการที่หลากหลายตามไปด้วย เราจึงวางแผนพัฒนาแบบบ้านให้เป็นทางเลือกใหม่ๆ ของลูกค้า โดยจะออกแบบมาหลากหลายสไตล์ โดยจะออกมาเป็น Series ครั้งละหลายๆแบบ และเพิ่มการออกแบบบ้าน 3 ชั้น บ้านแบบทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ ทั้งนี้เรายังไม่ทิ้งความเป็น บ้านดี… ไม่แพง เพราะบ้านคอมแพค คือ บ้านราคาประหยัด แต่พื้นที่ใช้สอยคุ้มค่า นอกจากนี้ เราจะทำกิจกรรม CSR อย่างจริงจัง เพื่อคืนกำไรสู่สังคม นอกเหนือจากมูลนิธิธารน้ำใจ ซึ่ง คุณกอบชัย ซอโสตถิกุล ประธานกรรมการบริหาร ทำอยู่แล้ว โดยกิจกรรมที่ว่านี้ เราวางแผนให้ลูกค้ามีส่วนร่วมด้วย คือ เมื่อลูกค้าตัดสินใจปลูกสร้างบ้านกับซีคอนโฮมหรือคอมแพคโฮม เงินส่วนหนึ่ง เราจะนำไปทำประโยชน์แก่สังคม ซึ่งจะเป็นอะไรบ้างนั้น จะมี การแจ้งให้ทราบอีกครั้ง”