บางกอกแอร์เวย์สแถลงทิศทาง เป้ารายได้และกลยุทธ์ปี 2554

กรุงเทพฯ / 16 กุมภาพันธ์ 2554 — วันนี้ คุณพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ม.ล. นันทิกา วรวรรณ รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ และคุณอาริญา ปราสาททองโอสถ รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย สายการบินบางกอกแอร์เวย์สร่วมแถลงการเปิดเที่ยวบินกรุงเทพ-มุมไบ และกรุงเทพ-ธากา พร้อมเผยทิศทางการดำเนินงานและกลยุทธ์การตลาดและการขายปี 2554 ณ ห้องเพรสซิเดนท์ 1-2 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

คุณพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวว่า “ธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศถือว่ามีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นตามลำดับโดยอัตราการเติบโตภาพรวมในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 5-8% ในส่วนของบางกอกแอร์เวย์สเองเราตั้งเป้าการขยายตัวในปีนี้ที่ 27% หรือที่เป้ารายได้ประมาณ 10.5 พันล้านบาท และในสัดส่วนของผู้โดยสารสำหรับปีนี้เราคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 19% จากจำนวนผู้โดยสาร 2.6 ล้านคนในปี 2010 เพราะไทยยังคงเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย นอกจากนี้ หากการท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศใกล้เคียงมีการขยายตัวประเทศไทยก็จะได้รับประโยชน์ด้วยเพราะไทยมีศักยภาพในการเป็นจุดศูนย์กลางในการเชื่อมต่อไปยังประเทศใกล้เคียงได้ดีนักท่องเที่ยวจึงนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยก่อนเดินทางต่อไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ ซึ่งในปีนี้เราได้วางกลยุทธ์ไว้ในหลาย ๆ มิติ ซึ่งการเปิดเที่ยวบินกรุงเทพ- มุมไบ ในวันที่ 2 มีนาคม และกรุงเทพ-ธากา ในวันที่ 27 มีนาคมจะเป็นกลยุทธ์ด้านเส้นทางบินใหม่ ซึ่งมุมไบและธากาเป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่เราจึงมั่นใจในตัวเลขผู้โดยสารที่คาดว่าจะมาใช้บริการของบางกอกแอร์เวย์ส เพราะตลาดเหล่านี้มีความต้องการในการเดินทางสูง ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจที่ต้องเดินทางติดต่องานเป็นประจำ โดยตัวเลขของชาวอินเดียเดินทางมายังประเทศไทยในปีที่ผ่านมามีกว่า 7 แสนคนและชาวบังคลาเทศมีกว่า 6 หมื่นคนซึ่งในปี 2011 น่าจะเพิ่มขึ้นอีก 15-20% เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมของภูมิภาคเริ่มดีขึ้น สำหรับตลาดคนไทยส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มที่ชอบศาสนาและวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศนี้ โดยในเบื้องต้นเราคาดหวัง load factor เฉลี่ยของทั้งสองเส้นทางนี้ที่ 60% ซึ่งเราจะชูเรื่องการบริการแบบ ‘full-service’ และความเป็น ‘Asia’s Boutique Airline’ โดยเราจะให้บริการบินตรงกรุงเทพ-มุมไบ 6 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เครื่องบินแบบแอร์บัส A319 ซึ่งมีที่นั่งชั้นธุรกิจ 12 ที่นั่งและที่นั่งชั้นประหยัด 108 ที่นั่งและกรุงเทพ-ธากา 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส A320 ซึ่งมีที่นั่งชั้นประหยัด 162 ที่นั่ง”

“นอกจากนี้ เราจะมีเครื่องบินแอร์บัส A319 หรือ A320 จำนวนหนึ่งลำเข้ามาปลายปีนี้โดยจะถูกนำมาเสริมเที่ยวบินปัจจุบัน ทั้งนี้ สัดส่วนการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินในปีนี้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ซึ่งที่ผ่านมาการเพิ่มเที่ยวบินและการเพิ่มเส้นทางบินใหม่ได้รับการตอบรับดีมาก เช่นเส้นทาง “ตราด-สมุย-ภูเก็ต” ที่เริ่มให้บริการปลายปีที่แล้วทำให้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 30% นอกจากนี้ เราจะเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินในเส้นทางที่มีความต้องการสูง โดยในปีที่แล้วเราได้เพิ่มในเส้นทางกรุงเทพ-ภูเก็ต จากวันละ 5 เที่ยวบินเป็น 6 เที่ยวบิน/วัน เส้นทางกรุงเทพ-พนมเปญ จากวันละ 3 เที่ยวบินเป็น 4 เที่ยวบิน/วัน และเส้นทางระหว่างกรุงเทพ-ย่างกุ้ง จากวันละ 1 เที่ยวบินเป็น 2 เที่ยวบิน/วัน ในปีนี้จะเริ่มด้วยเส้นทางระหว่างกรุงเทพ-เชียงใหม่ จากวันละ 4 เที่ยวบินเพิ่มเป็น 5 เที่ยวบิน/วัน” คุณพุฒิพงศ์ กล่าวเสริม

ปัจจุบัน สายการบินบางกอกแอร์เวย์สมีการทำโค้ดแชร์กับสายการบินชั้นนำระดับโลกโลก อาทิการบินไทย, อีวีเอ แอร์ (EVA Air), เอทิฮัด แอร์เวย์ส (Etihad Airways), แอร์เบอร์ลิน (Air Berlin), แอร์ ฟรานซ์ (Air France) และเคแอลเอ็ม (KLM Royal Dutch Airlines) ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มพันธมิตรในการทำโค้ดแชร์กับสายการบินฟินน์แอร์ (Finnair), มาเลเซียน แอร์ไลน์ (Malaysian Airlines) และคิง ฟิชเชอร์ แอร์ไลน์ (King Fisher Airlines) ซึ่งการทำโค้ดแชร์นอกจากจะเป็นการเพิ่มช่องทางการเดินทางให้แก่นักท่องเที่ยวแล้ว ยังจะช่วยประชาสัมพันธ์และเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวในประเทศนั้น ๆ ในการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยอีกหนึ่งช่องทาง

คุณอาริญา ปราสาททองโอสถ รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย กล่าวว่า “เพื่อเป็นการโปรโมทเส้นทางใหม่นี้เราได้ทำราคาโปรโมชั่นไป-กลับเส้นทางกรุงเทพ-มุมไบ และกรุงเทพ-ธากา ในราคาเดียวกันที่ 5,590 บาท สำหรับกรุงเทพ-มุมไบ เดินทางได้ถึง 31 มีนาคม และกรุงเทพ-ธากา เดินทางได้ถึง 30 เมษายน และสำหรับปีนี้ เราจะเน้นการทำโปรโมชั่นบัตรโดยสารและการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกับบริษัทพันธมิตรต่าง ๆ ให้มากขึ้น โดยที่ผ่านมาเราได้ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกับองค์กรชั้นนำเช่น VISA Card, KTC credit card และ AIS นอกจากนี้ เราได้มีการพัฒนาและปรับรูปลักษณ์เว็บไซต์
www.bangkokair.com ให้มีความทันสมัยและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งการจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ของบางกอกแอร์เวย์สมีการเติบโตขี้นทุกปี โดยปัจจุบันมีจำนวนคนเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์เฉลี่ย 16,000 คนต่อวัน และเราคาดว่ารายได้จากช่องทางจำหน่ายตั๋วเครื่องบินออนไลน์ในปีนี้จะเพิ่มเป็น 35% หรือสัดส่วนประมาณ 2.8 พันล้านบาทจากรายได้รวม ส่วนการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เช่น facebook และ twitter จะมีความคึกคักมากยิ่งขึ้นโดยเน้นที่การอัพเดทข่าวสารและโปรโมชั่นแบบ real-time ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก เพราะการสื่อสารผ่านช่องทาง social network เป็นอีกช่องทางนึงที่สามารถติดต่อฝ่ายขายได้โดยตรงซึ่งเราได้จัดทีมงานในการดูแลช่องทางนี้ไว้โดยเฉพาะ โดยหน้า facebook ของบางกอกแอร์เวย์สมีสมาชิกแล้วกว่า 3 หมื่นคน”

ม.ล. นันทิกา วรวรรณ รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า “การเปิดเส้นทางกรุงเทพ-มุมไบ ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ถือเป็นเที่ยวบินประวัติศาสตร์ของบางกอกแอร์เวย์สเพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราบุกตลาดอินเดีย เหตุผลที่เราเลือกประเทศอินเดียเพราะอินเดียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายมากในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะมุมไบซึ่งเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจอินเดียเพราะเป็นที่ตั้งของตลาดหุ้นของอินเดียและเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมบันเทิงของอินเดีย (Bollywood) นอกจากนี้ มุมไบยังเป็นที่ตั้งของ ‘Gateway of India’ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำประเทศอินเดียที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการได้รับอิสรภาพจากประเทศอังกฤษ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย”

“ส่วนงานด้านการพัฒนาบริการของปี 2011 จะต่อเนื่องจากปีที่แล้วหลังจากที่เราได้เริ่มแคมเปญรี-แบรนด์ดิ้งเพื่อให้บางกอกแอร์เวย์สมีความทันสมัยและเพื่อปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เข้าถึงตลาดคนไทยมากขึ้นเพื่อให้คนไทยเข้าใจว่าบางกอกแอร์เวย์สไม่ได้แพงอย่างที่คิด โดยในปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งคือเราจะมีการแนะนำยูนิฟอร์มใหม่สำหรับพนักงานฟร้อนท์ไลน์ทุกคนซึ่งรวมถึงพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน พนักงานต้อนรับภาคพื้นดิน พนักงานสำรองบัตรโดยสารและพนักงานจำหน่ายบัตรโดยสารเพื่อให้แบรนด์มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นแต่ยังคงมีเอกลักษณ์ของความเป็นบางกอกแอร์เวย์สอยู่ ซึ่งเราได้คุณหมู พลพัฒน์ อัศวะประภา เจ้าของแบรนด์ ‘Asava’ มาเป็นผู้ออกแบบให้ทั้งหมดโดยใช้งบกว่า 15 ล้านบาทสำหรับแคมเปญนี้ นอกจากนี้ เราจะมีการทำงานร่วมกับร้านอาหารฟิวชั่นชื่อดังและเชฟจากโรงแรมชั้นนำในการออกแบบเมนูอาหารที่เสริฟบนเครื่องบินซึ่งจะเป็นเมนูที่สร้างสรรค์เพื่อบางกอกแอร์เวย์สเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มภายในกลางปีนี้ ในส่วนของแคมเปญโฆษณาเราคาดว่าจะมีหนังโฆษญาชุดใหม่ในปีนี้เพื่อให้มีความต่อเนื่องกับชุด ‘Love at First Flight’ ที่ออกเมื่อปีที่ผ่านมา” ม.ล. นันทิกา กล่าวเสริม

นอกจากนี้ บางกอกแอร์เวย์สยังคงจัดการแข่งขันรายการกีฬาประจำปีหลายรายการ เช่นการแข่งขันกอล์ฟเอเชี่ยนทัวร์ ควีนส์คัพชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ และการแข่งขันสมุย ไอแลนด์ มาราธอน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ โดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เช่นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งทั้งสองรายการนี้จัดแข่งขันขึ้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี