ทรูประกาศเพิ่มทุน ผลักดันธุรกิจบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เติบโตก้าวกระโดด

บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ประกาศแผนเพิ่มทุนจำนวน 13.1 พันล้านบาท เสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน เตรียมพร้อมเปิดบริการ 3G เสริมความเชื่อมั่นนักลงทุน มั่นใจ ศักยภาพการเติบโตของธุรกิจในอนาคต เชื่อผู้ถือหุ้นเดิมให้การสนับสนุน

การระดมทุนในครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2551 บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2551 ลงมติอนุมัติแผนเพิ่มทุนโดยการจัดสรรหุ้นสามัญใหม่ เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering) จำนวน 19,500 ล้านบาท ในราคาหุ้นละ 1.95 บาท โดยเปิดให้ผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 2-6 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งการเพิ่มทุนดังกล่าวมีผู้ถือหุ้นจองซื้อหุ้น ประมาณ 3,272,563,248 หุ้น คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 6,382 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนร้อยละ 32.73 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิม โดยยังคงเหลือหุ้นที่ยังมิจัดสรรอีกจำนวน 6,727,436,752 หุ้น ซึ่งบริษัทจะนำมาจัดสรรแก่ผู้ถือเดิมในครั้งนี้

การจัดสรรหุ้นสามัญใหม่จำนวน 6,727,436,752 หุ้น ในครั้งนี้ เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิม : 0.865 หุ้นใหม่ และกำหนดราคาเสนอขายในราคา 1.95 บาทต่อหุ้น ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2551 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2551 โดยกำหนด รายชื่อ ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว (Record Date) ในวันที่ 11 เมษายน 2554 และหากมีหุ้นเหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนในรอบแรกแล้ว บริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นส่วนที่เหลือให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งแสดงความจำนงจองซื้อเกินสัดส่วน ตามสัดส่วนการถือหุ้น แต่ทั้งนี้จะจำกัดเพียงไม่เกิน 2 เท่าของจำนวนหุ้น ตามสิทธิ ของผู้ถือหุ้นนั้น รวมทั้งเปิดให้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 3 มิถุนายน 2554

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา ที่ผ่านมา บริษัทมีความมุ่งมั่นเสมอมาที่จะผลักดันให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม ซึ่งต้องผ่านอุปสรรคและความยากลำบากมาโดยตลอด รวมทั้งความพยายามที่จะก้าวสู่การเป็นบริษัทไทยที่ทำธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ที่นำเทคโนโลยีทันสมัย มาสู่ประชาชนและประเทศไทย รวมทั้งการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพิ่มมูลค่า สร้างความแตกต่าง เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าและประชาชนไทย แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม จึงทำให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่ตั้งใจไว้เท่าที่ควร แต่ขณะนี้อุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมกำลังก้าวสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีสำหรับประชาชนและประเทศ ที่คนไทยทั่วประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่แห่งหนตำบลใด จะสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างทัดเทียมกัน”

นายศุภชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท ณ วันนี้ แตกต่างจากที่ผ่านมา เพราะครั้งนี้ จะเริ่มจากฐานลูกค้าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวนมากกว่า 17.0 ล้านราย จึงเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทจะเร่งสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด และนำธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G สู่ประเทศไทย ภายใต้การนำของ บมจ. กสท โทรคมนาคม

“จึงขอเชิญชวนผู้ถือหุ้นเดิมทุกท่าน ซึ่งเป็นผู้มีอุปการะคุณ ร่วมฝ่าฟันอุปสรรคและมีความผูกพันกับบริษัท ต่อเนื่องยาวนาน เป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการจองหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งการเพิ่มทุนดังกล่าว จะเป็นโอกาสสำคัญในการลงทุนพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัย ช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน และลดภาระหนี้บางส่วนลง เพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ของ กลุ่มทรู จะเติมเต็มการใช้บริการ 3G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความโดดเด่นและแตกต่างเหนือผู้ให้บริการรายอื่น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ครบวงจรสมบูรณ์แบบ เพื่อเพิ่มคุณค่าและสร้างประโยชน์สูงสุด ให้ลูกค้าและประชาชนชาวไทยสัมผัสประสบการณ์สื่อสารที่มีประสิทธิภาพผ่านเครือข่าย 3G และเต็มอิ่มกับคอนเทนต์และแอพพลิเคชั่นหลากหลายที่จะเปิดโลกการสื่อสารอย่างไร้พรมแดนให้กับผู้ใช้บริการทุกกลุ่มเป้าหมาย” นายศุภชัยกล่าวเสริม

เงินทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้เพื่อรองรับการเติบโตและการขยายตัวของธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขยายโครงขยาย 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz ภายใต้เทคโนโลยี HSPA เพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ 3G ภายใต้แบรนด์ใหม่ “TrueMove H” ซึ่งจะดำเนินการไปพร้อมๆ กับ การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มทรู ในฐานะผู้นำคอนเวอร์เจนซ์ไลฟ์สไตล์รายเดียวของไทย

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนดังกล่าว เพื่อลดระดับหนี้โดยรวมของบริษัท โดยจะพิจารณาลำดับความสำคัญ เพื่อประโยชน์สูงสุดกับผู้ถือหุ้น

นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่ม ด้านการเงิน บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “การระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในระยะยาวดังกล่าว เป็นแนวทางที่ดีที่สุดภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทมีความมั่นคงยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มฐานเงินทุน ในขณะเดียวกัน ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการการขยายธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการ 3G”

“บริษัทเชื่อมั่นว่า การเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะเสริมความแข็งแกร่งและความมั่นคงยิ่งขึ้นให้แก่บริษัท ทั้งในด้านการเงิน การขยายธุรกิจ ซึ่งในที่สุดแล้ว ทั้งผู้ถือหุ้นและลูกค้าของกลุ่มทรู จะเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์อย่างเต็มที่ จึงคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นเป็นอย่างดี” นายศุภชัยกล่าวสรุป

อนึ่ง หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายในครั้งนี้ เป็นหุ้นที่เหลือจากการจัดสรรหุ้นสามัญใหม่เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในปี 2551 ซึ่งได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในเดือนธันวาคม 2551 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันบริษัทมีหุ้นจดทะเบียนทั้งสิ้น 7,776 ล้านหุ้น

ช่วงเวลาที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม:

cellspacing=”2″>

align=”justify”> face=”Cordia New, sans-serif”>25
มีนาคม 2554

face=”Cordia New, sans-serif”> คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้เพิ่มทุนและจัดสรรหุ้น 11 เมษายน 2554 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเดิมที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน 
(Record Date) 30 พฤษภาคม – 3 มิถุนายน 2554 เปิดให้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำนวน
6,727,436,752 หุ้น  ในราคาหุ้นละ 1.95 บาท