บริษัท ซีนสเปซ จำกัด ผู้นำเข้าเฟอร์นิเจอร์หรูจากอิตาลี เปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์ “ซีนสเปซ 13” บนทำเลสุดฮอตย่านทองหล่อ ทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาท เนรมิตรอาคารคอมมูนิตี้มอลล์ สไตล์โมเดิรน์ แหล่งรวมความทันสมัยใจกลางเมือง ที่มีพื้นที่รองรับการให้บริการของร้านค้าแฟชั่น และร้านอาหารชั้นนำ รวมกว่า 4 พันตารางเมตร เจาะกลุ่ม นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว และคนรุ่นใหม่ ตอบสนองความต้องการของวิถีชีวิตคนเมือง
คุณอัครเดช พันธิสุนทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีนสเปซ จำกัด เปิดเผยว่า โครงการซีนสเปซ 13 ตั้งอยู่บนเนื้อที่ขนาด 500 ตารางวา ทำการก่อสร้างเป็นอาคารขนาด 4,000 ตารางเมตร สูง 3 ชั้น บนทำเลย่านปากซองทองหล่อ 13 มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 200 ล้านบาท โดยรูปแบบโครงการเน้นการออกแบบในสไตล์ โมเดิร์น ทันสมัย ตอบรับกับการใช้พื้นที่ได้อย่างลงตัวทั้งภายในและภายนอกอาคาร ซึ่งโครงการซีนสเปซ 13 ถือว่าเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่ขนาดสัดส่วนที่กะทัดรัด เมื่อเทียบกับโครงการคอมมูนิตี้มอลล์อื่น ๆ แต่ถือว่ามีจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้ง ซึ่งอยู่ในทำเลทองย่านเศรษฐกิจอย่างทองหล่อ จึงทำให้ได้เปรียบกว่าคอมมูนิตี้มอล์ที่มีขนาดใหญ่กว่า รวมถึงการเดินทางที่สะดวก จึงน่าจะตอบโจทย์ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างลงตัว
“ภายในโครงการซีนสเปซ 13 เราได้รวบรวมร้านค้าชื่อดัง ทันสมัย อาทิ ร้านมนตร์ลดา ของคุณมนตร์ลดา พงษ์พานิช, ร้าน Roast ของคุณวรัช วิจิตรวาทการ, ร้าน Tudari ของคุณศศิกานต์ อภิชาตนรเศรษฐ์, ร้านเตี๋ยว หน้าคลัง ของคุณอรินทม์ แสงชูโต ร้าน CLOUDS ซึ่งเจ้าของเปิดเป็นร้านที่สามแล้วต่อจาก Iron Fairy และ Fat Gutz and ร้าน BREW ซึ่งนำเข้าเบียร์มากกว่าร้อยชนิดจากทั่วโลก ฯลฯ และเรายังจัดสรรพื้นที่โครงการให้เอื้อประโยชน์ต่อกันทั้งสำหรับร้านค้าด้วยกันเอง และสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยร้านค้าในคอมมูนิตี้มอลล์มีทั้งหมด 24 ร้าน ครอบคลุมการให้บริการอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น ร้านทำผม ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายเครื่องประดับ ร้านขายกระเป๋า ร้านกาแฟ ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านราเมน ร้านปิ้งย่าง ร้านเสริมความงาม รวมไปถึงผับหน้าตาดี เข้ากับไลฟ์สไตล์และรสนิยมที่ทันสมัยของกลุ่มเป้าหมาย อีกด้วย” คุณอัครเดช กล่าว
อย่างไรก็ดีสำหรับธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ ในปัจจุบันถือ ว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้ว่าทำเลพื้นที่ในย่านชานเมืองและกลางใจเมืองจะมีการเปิดตัว โครงการใหม่ๆ อยู่ตลอด ถือเป็นธุรกิจที่มีรูปแบบเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มชุมชนใกล้เคียง อีกทั้งยังสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะกลุ่มชุมชนบริเวณใกล้เคียงที่ต้องการความสะดวกในการซื้อหาสินค้าที่ จำเป็น และต้องการหลบหนีความวุ่นวายใจกลางเมือง ซึ่งในส่วนของโครงการซีนสเปซ 13 หลังเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการและเต็มรูปแบบแล้ว เชื่อว่าจะได้รับการตอบ รับที่ดีจากลูกค้าที่อาศัยอยู่ในย่านดังกล่าว โดยประเมินคร่าวๆ ว่าน่าจะมีคนเดินเข้ามาใช้บริการภายในโครงการโดยเฉลี่ยเดือนละ 200,000 คน หรือคิดเป็นราวร้อยละ 6O ของจำนวนประชากรทั้งหมดในย่านนั้น และคาดว่าจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนได้ภายในระยะเวลา 3 ปี