“ณเดชน์ คูกิมิยะ” วัย 20 ปี เรียนปี 1 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต อยู่ในสังกัด “บ้านดัดดารา” ที่นักข่าวบันเทิงตั้งชื่อให้ซึ่งเป็นแหล่งปั้นดาราของ ”เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ผู้อยู่เบื้องหลังของดาราดังรุ่นพี่หลายคน เช่น ”อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ”เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ” ที่นี่มีทั้งการเรียนแอคติ้ง การวางตัว ห้องซาวน่า ฟิตเนส ซึ่ง “ณเดชน์” ก็ผ่านการปั้นจากงานเดินแบบ ถ่ายโฆษณา จนมาดังเป็นพลุแตกในบท ”ไฟ(ขาาาา)” ในละครซีรี่ส์ช่อง 3 เรื่องสี่หัวใจแห่งขุนเขา ตอนดวงใจอัคนี ที่ ณเดชน์ จับคู่กับ ”ญาญ่า อุรัสยา” ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ฝ่ายหญิงที่ฮอตไม่แพ้กัน
“ไม่มีคิวให้จริงๆ ” นั่นคือคำตอบที่หลายแบรนด์ และผู้จัดอีเวนต์หลายคนเจอนาทีนี้เมื่ออยากได้ ”ณเดชน์” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือออกอีเวนต์ ที่คิวเต็มถึงสิ้นปี และ ”ลดไม่ได้จริง ๆ” ก็เป็นอีกคำตอบ ที่หากใครเงินไม่ถึง ก็อย่าคิดว่าจะได้ ”ณเดชน์“ เพราะค่าตัวน้องคนนี้เฉพาะอีเวนต์อย่างเดียว สัก 2-3 ชั่วโมง ก็แสนสองขาดตัวไม่มีลด เป็นคำตอบของผู้จัดการนักปั้นดารา ”เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ที่ยืนยันกับสื่อสายบันเทิงช่วงต้นปีที่ผ่านมา และเฉพาะค่าตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ 7 หลัก ล้ำเข้าไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 ล้านบาท
ต้องดูแลตัวเอง หรือเพิ่มมูลค่าให้ตัวเองมาแค่ไหนเพราะไม่ใช่แค่เล่นละครอย่างเดียวแล้ว แต่ต้องมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้สินค้าจำนวนมาก? “ณเดชน์” บอกว่า ”ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก ผมก็เหมือนเดิม คิดว่าที่ผู้บริหารสินค้าเลือกเราเพราะเห็นว่าเราเหมาะกับสินค้าเขาอยู่แล้ว” แต่การอยู่ในสปอตไลต์ตลอดเวลาก็ทำให้ต้องสนใจดูแลเรื่องความหล่อ ”เรื่องผิวพรรณและการพักผ่อน เพราะต้องดูดีใช่ไหมครับ”
งานที่เข้ามามากมาย ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยน ภูมิใจและดีใจ และก็มีเงินเก็บด้วย ทุกคนที่อยู่รอบข้าง ครอบครัวก็รู้สึกดี และได้รับกำลังใจจากแฟนคลับ ที่เขาบอกว่าเขาไม่ได้บริหารแฟนคลับ แต่มีแฟนคลับที่บริหารความดังให้เขาเอง ทั้งการสร้างเว็บไซต์ และเฟซบุ๊กเพจที่ขณะนี้มีคนคลิก Like แล้วเกินแสนคน ส่วนทวิตเตอร์เขาบอกว่าไม่จำเป็นต้องใช้ ไม่ชอบและไม่เล่น เพราะแค่นี้ก็ไม่มีเวลา ซึ่งทุกวันนี้มีงานทุกวัน เสาร์-อาทิตย์อีเวนต์เพียบ มีเรียนประมาณ 2-3 วัน ใช้โน้ตบุ๊กซัมซุง (เขาสามารถโยงพูดถึงแบรนด์ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ล่าสุดได้อย่างแนบเนียน) ช่วยได้เยอะครับ
ตั้งแต่ปี 2552 “ณเดชน์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้สินค้าที่ส่วนใหญ่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน สินค้าส่วนใหญ่ไม่ใช่สินค้าที่เป็น Basic Need แต่เกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ของกลุ่มเป้าหมาย วัตถุประสงค์มีตั้งแต่สร้างการรับรู้แบรนด์ และขยายกลุ่มเป้าหมายในการขายสินค้า เป็นพรีเซ็นเตอร์ที่งานพุ่งกระฉูดมากที่สุดในปี 2554 ได้งานสูงสุดเมื่อเทียบกับดาราคนอื่นๆ
ปี 2552
- หมากฝรั่ง ไทรเดนท์ รีแคลเดนท์ กับ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ
- ครีมอาบน้ำ โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ โชกุบุสซึ ฟอร์เมน
ปี 2553
- ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า นีเวีย ฟอร์ เมน
- โทรศัพท์ ซัมซุง มอนเต้ 3G
- โทรศัพท์ ซัมซุง กาแล็คซี่ เอส
- รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ ชุด วี เลิฟ ฟีโน่
- รองเท้า บาโอจิ ร่วมกับแพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์
ปี 2554
- เลย์ รสหมึกย่าง+รสน้ำจิ้มซีฟู้ด ร่วมกับพอลล่า เทเลอร์
- มาสด้า 2 ซีดาน (เวอร์ชั่นต่อเป้ อารักษ์)
- นมโฟร์โมสต์ แคมเปญ “สุขภาพดี 24 ชั่วโมงกับโฟร์โมสต์” (มีเวอร์ชั่นผู้หญิงเป็นญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์)
- เลย์ ชุด “พาเพื่อนซี้เที่ยวฟรีกับเลย์” ร่วมกับพอลล่า เทเลอร์
- รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ ชุด รักยกกำลัง 2 ร่วมกับภาคิน คำวิลัยศักดิ์, จิรายุ ละอองมณี, พลอย หอวัง
- น้ำส้มมินิทเมท พัลพิ
- แป้งเย็นทเวลฟ์ พลัส เอ็กซ์ตร้า คูล แอนตี้แบคทีเรีย
- ครีมอาบน้ำ โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ โชกุบุสซึ ฟอร์เมน “สเปเชียล รีแลกซ์
- เลย์ ชุด “ความสุขเล็กๆ ที่แบ่งกันได้” ร่วมกับ ญาญ่าอุรัสยา เสปอร์บันด์
- โออิชิ ฟรุกโตะ
- ซัมซุงโน้ตบุ๊ก และโทรศัพท์มือถือ