“เอพีซี” จับมือ “ดาต้าโปร” เปิดตัว กรีน ดาต้าเซ็นเตอร์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งแรกของประเทศไทย

เอพีซี ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดระบบควบคุมความเย็นและพลังงานสำรองฉุกเฉินสำหรับศูนย์ข้อมูล(ดาต้าเซ็นเตอร์) เปิดแนวรุกบุกตลาดไอทีโซลูชั่นครึ่งปีหลังเต็มรูปแบบ ชูกลยุทธ์ “กรีน มาร์เก็ตติ้ง” จับมือกับ บริษัท ดาต้าโปร คอมพิวเตอร์ ซิสเต็มส์ เปิดตัว “กรีน ดาต้าเซ็นเตอร์” ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งแรกของประเทศไทย มั่นใจสามารถขยายตลาด “กรีน ดาต้าเซ็นเตอร์” การันตีประหยัดพลังงานให้กับลูกค้าสูงสุดถึง 30% เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ให้ความสำคัญกับการประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและการลงทุนมากขึ้น

นายพิชัย สุทธิจินตทิพย์ รองประธานธุรกิจด้านไอที บริษัท ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ซีพีซีเอส (ประเทศไทย)จำกัด หรือ เอพีซี กล่าวถึงภาพรวมของตลาดไอทีโซลูชั่นในปัจจุบันว่า “การบริหารจัดการระบบไอทีมีประสิทธิภาพส่งผลต่อประสิทธิผลของการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน เพราะหาก ระบบไอทีที่มีไม่สามารถตอบสนองต่อการพัฒนาธุรกิจได้นั้น ธุรกิจย่อมไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นตลาดไอทีโซลูชั่นในปัจจุบันจึงมีการแข่งขันและปรับตัวเพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ ที่เน้นรูปแบบการบริการแบบ Co-location หรือการบริการเช่าพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์แบบ Pay-As-Growing เพิ่มมากขึ้น โดยผู้ประกอบการรายย่อยจะหันมาให้ความสนใจใช้บริการศูนย์ข้อมูลหรือดาต้าเซ็นเตอร์ ที่ได้มาตรฐานทั้งด้านการบริการในระดับมืออาชีพและความปลอดภัยที่ไว้ใจได้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นสำหรับองค์กรและลดต้นทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างลงตัว”

“เอพีซี ในฐานะผู้นำด้านระบบควบคุมความเย็นและพลังงานสำรองฉุกเฉินระดับโลก ที่มีวิสัยทัศน์ในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง บริษัท ดาต้าโปร คอมพิวเตอร์ ซิสเต็มส์ ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร (Total Enterprise IT Solution Provider) รายใหญ่ของประเทศ ในการเปิดตัว “กรีน ดาต้าเซ็นเตอร์” ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อรุกตลาดดาต้าเซ็นเตอร์และตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการอย่างเต็มรูปแบบ”

ด้าน นายหะริน อุปรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาต้าโปร คอมพิวเตอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด (DCS) กล่าวว่า “ธุรกิจ ดาต้าเซ็นเตอร์ของ DCS ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 เห็นได้จาก ปัจจุบันองค์กรส่วนใหญ่ล้วนให้ความสำคัญกับระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ดีและมีมาตรฐาน และมีโนวโน้มว่าจะมีปริมาณมากขึ้นเรื่อย อีกทั้ง องค์กรต่างๆ นั้น ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้บริการจาก กรีน ดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งอยู่ในบริการด้านไอที (Information Technology Services) ของบริษัทเพิ่มมากขึ้น กลุ่มลูกค้าของ DCS ที่ใช้บริการด้านนี้ได้แก่กลุ่มธุรกิจด้าน Finance, Banking, Insurance, Media Publishing โดยสิ่งสำคัญที่ลูกค้าของ DCS มองหาคือ ดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีคุณสมบัติแบบอัพไทม์สามารถออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อเปิดบริการและรักษาอุณภูมิให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่จำนวนมากและนับเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลในระยะยาว DCS จึงได้มีการศึกษาเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะเข้ามาช่วยเรื่องการประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง และไว้วางใจให้เอพีซีเป็นพันธมิตรรายใหญ่ในการติดตั้งรวมถึงให้คำปรึกษาในเรื่อง กรีน ดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อให้ธุรกิจของเราได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าสูงสุด โดยทาง DCS มีแผนในการขยายพื้นที่ กรีน ดาต้าเซ็นเตอร์ เพิ่มขึ้นอีก เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตด้วยเช่นกัน”

สำหรับ “กรีน ดาต้าเซ็นเตอร์” ของเอพีซี มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง ด้วยระบบการบริการเพื่อประสิทธิภาพทางไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบ เริ่มจากการวัดการใช้พลังงาน (Measure) เพื่อทราบปริมาณการใช้ไฟฟ้าก่อนการเริ่มติดตั้งหรือปรับปรุงอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่มีประสิทธิภาพทั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้น (Fix the Basics) และสามารถปรับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อที่จะสามารถรองรับความต้องการในอนาคต (Scalable) นอกจากนี้ กรีน ดาต้าเซ็นเตอร์ ของเอพีซี ยังสามารถรองรับอุปกรณ์ไอทีที่มีความหนาแน่นสูง (High Density) ซึ่งทำให้ไม่เสียพื้นที่ในการติดตั้งอุปกรณ์ไอที พร้อมระบบพาวเวอร์ ซัพพลาย, แร็ค, พาวเวอร์ คูลลิ่ง ในกรีน ดาต้าเซ็นเตอร์ ที่สามารถแก้ปัญหาระบบไฟฟ้าไม่เพียงพอและไม่มีเสถียรภาพ ลดปัญหาการใช้พื้นที่ภายในแร็คอย่างไม่มีประสิทธิผล และปัญหาความร้อนสะสมภายในห้อง นอกจากนี้ยังมีระบบการตรวจ วัดการใช้พลังงาน (Power Logic) ภายหลังการติดตั้ง และระบบการตรวจสอบ ติดตามด้วยซอฟต์แวร์บริหารจัดการที่เรียกว่า InfrastruXure central 6.0 management รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัย เช่น ระบบแจ้งเตือน ระบบกล้องวงจรปิด ระบบประตูควบคุม ซึ่งจะสามารถช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถลดต้นทุนทางธุรกิจได้ในระยะยาว (TCO) และประหยัดพลังงานได้สูงถึง 30%

“เอพีซี มั่นใจว่า “กรีน ดาต้าเซ็นเตอร์” โดยเอพีซีจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี และจะผลักดันให้ เอพีซี มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น พร้อมครองผู้นำอันดับหนึ่งในตลาด ทั้งนี้ เอพีซี มีแผนที่จะขยายช่องทางทางการตลาดโดยจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจรายอื่น รวมถึงการจัดอบรมสัมนาทั่วประเทศ การเน้นช่องทางการสื่อสารผ่านสื่อสิ่งพิมพ์และออนไลน์ เพื่อรุกตลาดดาต้าเซ็นเตอร์อย่างเต็มรูปแบบในปีนี้” นายพิชัย กล่าวปิดท้าย