เปิดตัวผู้บริหารไทยคนแรก โตเกียวมารีนศรีเมืองประกันภัย

โตเกียวมารีนศรีเมืองประกันภัย เปิดตัว นายหลักชัย สุทธิชูจิต รั้งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ของบริษัทฯ นับเป็นคนไทยคนแรกที่มาดำรงตำแหน่งดังกล่าว ประกาศผลักดันบริษัทฯ ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านประกันภัย Top 3 ภายใน 6 ปี

นายหลักชัย สุทธิชูจิต ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ของ บริษัท โตเกียวมารีนศรีเมืองประกันภัย จำกัด (โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2554) ก่อนที่จะมารับตำแหน่งดังกล่าว ดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการ รับผิดชอบดูแลธุรกิจการตลาดภายในประเทศ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการผลักดันนโยบายสำคัญๆ เช่น การเพิ่มสาขาจาก 2 สาขาเป็น 20 สาขา มีศูนย์สินไหม 4 สาขา ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และนำบริษัทก้าวขึ้นเป็น Top 10 ด้านการประกันภัยในปัจจุบัน

นายหลักชัย สุทธิชูจิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตเกียวมารีนศรีเมืองประกันภัย จำกัด เปิดเผยถึง แนวนโยบายในการบริหารงานว่า จะยังคงดำเนินการตามแนวทางและนโยบายของบริษัทฯ ที่มุ่งประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญโดยจะเน้นการให้บริการแบบครบวงจร สะดวก และ รวดเร็ว มุ่งมั่นที่จะสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ ลูกค้า โดยการมอบการรับประกันภัยที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในส่วนของธุรกิจและในส่วนของความต้องการส่วนบุคคล รวมทั้งการให้บริการที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ เราจะมุ่งเน้นในการพัฒนาศักยภาพและความแข็งแกร่ง อย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องบุคลากร การรับประกันภัยรูปแบบต่างๆ และ การเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการ เพื่อเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในการก้าวเป็นผู้นำด้านการให้บริการประกันภัยในระดับ Top 3 ภายใน 6 ปี

ผลดำเนินงานในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้เบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมกว่า 2.9 พันล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตขึ้นประมาณ 28 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ เติบโตถึง 41% ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิก่อนภาษีเงินได้อยู่ที่ 244 ล้านบาท

ในปีนี้บริษัทจะเน้นการทำตลาดมากขึ้นทั้งในภูมิภาคและในกรุงเทพฯ รวมถึงมีการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าเพื่อสร้างความพึงพอใจ นอกจากนั้นยังคงให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารจัดการที่ดี การประสานสัมพันธภาพและเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างศูนย์บริการสินไหมฯ สาขา ตัวแทน และศูนย์ซ่อม เพื่อสร้างสรรค์บริการที่มีคุณภาพสู่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้ารายย่อยควบคู่กับการรักษาฐานลูกค้าเก่า ผ่านกิจกรรมการตลาดในรูปแบบต่างๆ เพราะคาดว่าธุรกิจในกลุ่มประกันวินาศภัยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และเน้นให้ความสำคัญในส่วนของการให้บริการทางด้านการจ่ายสินไหมทั้งมอเตอร์ และนอนมอเตอร์ (Motor Claims and Non-motor Claims ) การเพิ่มจำนวนสาขาใหม่ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับลูกค้ามากขึ้น และสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าให้คลอบคลุ่มทั่วประเทศ

นอกจากนี้เพื่อการดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทได้มีแผนในการขยายเครือข่ายบริการ ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายบริการ 20 สาขา 4 ศูนย์บริการสินไหม ให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ รวมถึงมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพและความหลากหลายของบริการด้านประกันวินาศภัยประเภทต่างๆ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างสูงสุด และในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องดังที่กล่าวมาแล้วนั้น บริษัทยังให้ความสำคัญกับบุคคลากรที่เป็นตัวแทนขายของบริษัท โดยมีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกตัวแทนขายที่มีประสบการณ์ มีวินัยในการทำงาน และมีความสามารถในการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า ทั้งนี้บริษัทจะเป็นผู้ให้การสนับสนุนทั้งด้านเทคโนโลยี การจัดฝึกอบรมความรู้ด้านการประกันวินาศภัยและเทคนิคการขายอย่างมืออาชีพให้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการให้บริการด้านสินไหมหรือการเคลม ด้วยระบบ GPS และ PDA เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการให้บริการอีกด้วย

บริษัทยังคงเน้นให้ความสำคัญของการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) ตามหลักปรัชญาขององค์กรอย่างต่อเนื่อง เช่น กิจกรรมปลูกป่าโกงกาง สร้างฝายทดแทน การสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิเมาไม่ขับ และร่วมกับสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กด้อยโอกาส ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 โดยได้แบ่งการมอบทุนเป็น 2 ครั้ง คือครั้งแรกที่กรุงเทพฯ จะมอบทุนให้แก่เด็กนักเรียนในจังหวัดกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 50 ทุน และครั้งที่สองที่จังหวัดนครราชสีมา โดยมอบทุนให้แก่เด็กนักเรียนที่อาศัยอยู่ภาคอีสานจำนวน 50 ทุน รวมมอบทุนในปีนี้ทั้งสิ้น 100 ทุน พร้อมจัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ที่สถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่นอุปถัมภ์) และ พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน เพื่อปลุกฝังจิตสำนึกให้นักเรียนที่ได้รับทุนตระหนักถึงการช่วยเหลือผู้อื่นและเห็นความสำคัญของสถาบันครอบครัว เพื่อนำประโยชน์ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการช่วยเหลือตนเอง ครอบครัว และที่สำคัญเป็นคนดีของสังคมต่อไป โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาเป็นโครงการช่วยเหลือระยะยาวของกลุ่มบริษัทในเครือโตเกียว มารีน ที่ต้องการจะช่วยเหลือเยาวชนที่ขาดทุนทรัพย์ให้มีโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่องต่อไป