เครือโรงพยาบาลศรีวิชัย ปรับโฉมใหม่สู่เครือโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมแต่งตั้ง บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เดินหน้านำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ขอเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปต่อสำนักงาน ก.ล.ต.ได้เร็วๆ นี้ ก่อนกระจายหุ้นสู่มือประชาชนทั่วไปภายในต้นปีหน้า เผยเป็นการนำโรงพยาบาลในเครือทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย หนองแขม และสมุทรสาคร เข้าจดทะเบียนในนามบริษัท ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) ชูจุดเด่นทั้งทางด้านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทุกสาขา พร้อมเครื่องมือรักษาและวินิจฉัยโรคที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูง ด้านที่ปรึกษาทางการเงินมั่นใจศักยภาพในการแข่งขัน รวมทั้งโอกาสในการเติบโต โดยเฉพาะการยอมรับจากกลุ่มลูกค้าในแถบอาเซียน ที่จะรองรับกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมทั้งลูกค้าในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง พร้อมเผยโครงการในอนาคต เตรียมขยายโครงการคลินิกวิทยาศาสตร์การกีฬา ศูนย์การแพทย์แบบองค์รวม ศูนย์การแพทย์ชะลอวัย การรักษาโรคมะเร็งแบบบูรณาการ และศูนย์บำบัดโรคเบาหวานครบวงจร โดยมุ่งมั่นยกระดับสู่ความเป็นสากล
รศ.ดร.นพ.วิชัย วนดุรงค์วรรณ ประธานกรรมการ บริษัท ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเครือโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ประกอบด้วย โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม และโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล สมุทรสาคร เปิดเผยว่า เครือโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ปรับโฉมจากกลุ่มโรงพยาบาลศรีวิชัย เพื่อเตรียมพร้อมในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
“จากจุดเริ่มต้นของโรงพยาบาลศรีวิชัย เมื่อปี 2530 จนถึงวันนี้ผ่านไปแล้ว 24 ปี กับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสู่การเป็นเครือโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ทำให้เรามั่นใจและมีความพร้อมในการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว คณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำสุขภาพที่ดีมาสู่ลูกค้าผู้ใช้บริการ ตามนโยบายของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้น 3 ด้าน นั่นคือ V Care เราใส่ใจผู้รับบริการ V Cure เราใช้ความสามารถรักษาผู้ป่วย และ V Can เราทำได้สำเร็จ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้แนวคิด ‘ดูแลชีวิต…ด้วยจิตใจ’ เพื่อตอกย้ำให้บุคลากรทางการแพทย์ของเราใช้จิตใจดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่” รศ.ดร.นพ.วิชัย กล่าว
ประธานกรรมการ เครือโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะยกระดับมาตรฐานการบริการของโรงพยาบาลเข้าสู่มาตรฐานสากล เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายการบริการแก่ลูกค้าต่างประเทศ และรองรับการขยายบริการสู่ภูมิภาคทั่วโลก
ด้าน ผศ.พญ.สายสุณี วนดุรงค์วรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เครือโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ทั้ง 3 โรงพยาบาล มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทุกสาขา พร้อมเครื่องมือรักษาและวินิจฉัยโรคที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง โดยให้บริการแก่ผู้ป่วยทุกสาขาโรค เช่น ศูนย์โรคกระดูกและข้อ ศูนย์ศัลยกรรมผ่านกล้อง ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ ศูนย์โรคเด็กครบวงจร ศูนย์โรคเฉพาะทางสตรีและศัลยกรรมผ่านกล้องทางนรีเวช ศูนย์ทันตกรรม ศูนย์ตรวจสุขภาพ และ ศูนย์ผิวหนังและศัลยกรรมเลเซอร์ไอสกาย เป็นต้น โดยมีเตียงรองรับผู้ป่วยจำนวน 520 เตียง
ทั้งนี้ โรงพยาบาลแต่ละแห่งมีจุดเด่นในการให้บริการศูนย์เฉพาะทางหลายด้าน และมีห้องผ่าตัดระบบ Positive Pressure ปราศจากเชื้อโรค ฝุ่นละออง และความชื้น 100% ตามมาตรฐานระดับสากล นับเป็นโรงพยาบาลแรกในจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนั้น ในปัจจุบันยังได้ให้บริการลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นด้วย โดยมีการทำตลาดในประเทศต่างๆ ทั้งเอเชียและตะวันออกกลาง
“ที่ผ่านมา เครือโรงพยาบาลวิชัยเวชฯ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการขยายธุรกิจ เพื่อยกระดับคุณภาพ การให้บริการให้มีมาตรฐานระดับสากลและครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายหลัก ทั้งการเพิ่มรายได้จากธุรกิจ ที่มีอยู่เดิมและธุรกิจใหม่ และการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรโดยการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหลังจากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว บริษัทฯ มีแผนที่จะดำเนินโครงการเพิ่มเติมอันสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ทางธุรกิจ ได้แก่ โครงการคลินิกวิทยาศาสตร์การกีฬา (Sports Science Clinic) โดยมีจุดมุ่งหมายในการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬามาประยุกต์ เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพนักกีฬาแต่ละประเภท ตลอดจนการดูแลสุขภาพทั้งร่างกาย (Physical Fitness) และจิตใจ (Mental Fitness) นอกจากนี้ เครือโรงพยาบาลยังมีโครงการตั้งศูนย์การแพทย์แบบองค์รวมในการรักษาโรคมะเร็งแบบบูรณาการ โรคเบาหวานครบวงจร และการแพทย์ชะลอวัย ซึ่งเราเชื่อว่า การพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งของเครือโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล จะทำให้เราสามารถขยายฐานลูกค้าออกไปได้มากขึ้น ซึ่งจะสอดรับกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในเอเชีย” ผศ.พญ.สายสุณี กล่าว
ขณะที่ นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจให้บริการทางการแพทย์เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอและมั่นคง แม้ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ในช่วงที่ผ่านมา การประกอบธุรกิจให้บริการทางการแพทย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและมีการปรับกลยุทธการแข่งขันให้สอดคล้องกับภาวะการณ์แข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยจะเห็นการทำกิจกรรมการตลาดของกลุ่มโรงพยาบาลต่างๆ ที่มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้วยการควบรวมกิจการ เพื่อขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น ตลอดจนการขยายสาขาของโรงพยาบาลในรูปแบบคลินิก ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อรองรับกับการเปิดเสรีทางการค้าและบริการภายใต้ข้อตกลงของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
“เราเชื่อมั่นว่า เครือโรงพยาบาลวิชัยเวชฯ มีความพร้อมรับมือกับการแข่งขันดังกล่าว รวมทั้งการ รับประโยชน์จากโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง มีคุณภาพการรักษาพยาบาล และคุณภาพการให้บริการที่ได้มาตรฐานสูงในระดับสากล อีกทั้งยังมีคลินิกการรักษาที่ครอบคลุม ทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น ศูนย์ทันตกรรม และศูนย์ความงามและเลเซอร์ รวมถึงความพร้อมด้านบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางทุกสาขา และการลงทุนในอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย นอกจากนี้ เครือโรงพยาบาลวิชัยเวชฯ ยังมีนโยบายในการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ที่สำคัญการ Rebranding ของเครือโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนลยังเป็นการมุ่งสู่เป้าหมายทางธุรกิจในการเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำที่จะมุ่งขยายตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ” นายมนตรีกล่าว
สำหรับขั้นตอนการนำเสนอขายหุ้นของเครือโรงพยาบาลวิชัยเวชฯ ให้กับประชาชนเป็นการทั่วไป (IPO) นั้น บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินจะดำเนินการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในเร็วๆ นี้ ซึ่งคาดว่าจะเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปได้ภายในต้นปีหน้า ก่อนจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป