อวาย่าเปิดตัวอีเทอร์เน็ตสวิตช์รุ่นใหม่

อวาย่าขยายขอบข่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม data networking ด้วย ERS 4000 series อีเทอร์เน็ตสวิตช์รุ่นใหม่ที่สามารถต่อเชื่อมแบบสแตกได้ บวกคุณสมบัติที่พร้อมเสริมประสิทธิภาพการทำงานร่วมกัน

อีเทอร์เน็ตสวิตช์รุ่นใหม่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นใหม่ ได้แก่ PoE+, flexible SFP+ uplinks และเพาเวอร์ซัพพลายแบบ integrated field replaceable power supplies

สวิตช์ Avaya ERS 4800 รองรับความต้องการในอนาคตในส่วนของเทคโนโลยี Avaya VENA ขั้นสูง อย่างเช่น network virtualization และ wireless integration

9 ธันวาคม 2554 – อวาย่า (Avaya) หนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นเพื่อการสื่อสารและการทำงานร่วมกันทางธุรกิจ รวมถึงบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ขยายขอบข่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม data networking ด้วย ERS 4000 series อีเทอร์เน็ตสวิตช์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมขีดความสามารถด้าน Virtual Enterprise Network Architecture (VENA) ของอวาย่า เพื่อสร้างความได้เปรียบของ Campus Network อีเทอร์เน็ตสวิตช์รุ่นใหม่เหล่านี้มีการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน และถูกออกแบบมาเพื่อให้องค์รระดับเอ็นเทอร์ไพรส์มีระบบเครือข่ายที่พร้อมสำหรับการทำงานร่วมกัน (collaboration-ready network) ทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับเดียวกันและมีประสิทธิภาพชั้นแนวหน้าในระดับราคานี้

อีเทอร์เน็ตสวิตช์ที่ช่วยประหยัดพลังงาน ตอบสนองความต้องการทั้งด้านการทำงานร่วมกันและประสิทธิภาพ

Enterprise Networks ในปัจจุบันพัฒนาขึ้นจากวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อขับเคลื่อนการสื่อสารและอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกัน ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Ethernet Routing Switch (ERS) 4000 ของอวาย่าจึงพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าวนี้ โดยมีระบบ plug and play สำหรับ IP phone และ advanced Quality of Service (QoS) management รวมทั้งระบบที่รองรับทั้ง Power over Ethernet แบบมาตรฐานและขั้นสูง (PoE และ PoE+) เพื่อช่วยให้การสื่อสารแบบ convergence ระหว่าง voice, video และ data ทำได้ง่ายขึ้น

สวิตช์ ERS 4000 เป็นการพัฒนาอีกขั้นของ IEEE 802.1X Extensible Authentication Protocol (EAP) สำหรับ network access แบบ open, authenticated network นอกจากนั้นยังสามารถใช้ร่วมกับ Avaya Identity Engines เพื่อให้บริการ advanced, centralized authentication สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานและอุปกรณ์ทั้งหมดบนเครือข่าย ซึ่งเป็นขีดความสามารถที่จำเป็นสำหรับองค์กรต่างๆ ที่มาพร้อมกับกลยุทธ์เครือข่ายในลักษณะ “bring your own devices” (BYOD)

สวิตช์ ERS 4000 Series สามารถจัดการกับปริมาณข้อมูลได้มากกว่าโซลูชั่นของคู่แข่งโดยเฉลี่ยสูงกว่า 3 เท่า ขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง 36% และช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวม (total cost of ownership) ลง 40%1 โดยฟังก์ชั่น Avaya Energy Saver จะช่วยองค์กรระดับเอ็นเทอร์ไพรส์ประหยัดพลังงานได้อีก 25% โดยไม่กระทบกับการจัดการปริมาณข้อมูล ทั้งนี้ ทำได้โดยการชลอการทำงานของเครือข่ายระหว่างช่วงที่มีปริมาณข้อมูลน้อย ส่วนขีดความสามารถในการจัดการปริมาณข้อมูล (traffic capacity) บน ERS 4000 Series ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Stackable Chassis ประสิทธิภาพสูงจากอวาย่า ซึ่งมีความเร็วสูงสุด 384Gbps ของ virtual backplane throughput เนื่องจากสแตกจะขยายและหน่วยจัดเก็บข้อมูลใหม่จะถูกเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ สวิตช์ ERS 4000 Series ยังมี virtual hot-swap capability ที่ช่วยให้หน่วยจัดเก็บข้อมูลต่างๆ สามารถบำรุงรักษาได้โดยไม่ต้องปิดระบบ Hot-Swap ซี่งไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดการปริมาณข้อมูลที่กำลังดำเนินอยู่ จึงช่วยลดความซับซ้อนของการดำเนินงานที่ทันสมัยและสร้างความมั่นใจว่าเครือข่ายทำงานไม่สะดุด

อีเทอร์เน็ตสวิตช์ที่รองรับความต้องการในอนาคต
สวิตช์ อวาย่า ERS 4800 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับบริการต่างๆ ที่จะต้องใช้ใน next-generation campus edge solutions ซึ่งรวมถึงความสามารถที่จะรองรับเทคโนโลยีล้ำหน้าของ Avaya VENA อย่างเช่น network virtualization และ wireless integration

Virtual Services Fabric ของอวาย่าจะช่วยขยายขอบเขตการเข้าถึงของ virtualized service ต่างๆ จากดาต้าเซ็นเตอร์ ไปยัง campus edge ทำให้เกิด enterprise-wide virtualization architecture ที่จัดการได้ง่ายและเชื่อถือได้มากขึ้น ทั้งนี้ กระบวนการ interconnection ที่มีประสิทธิภาพสูงทั่วทั้งเครือข่ายจะช่วยให้องค์กรระดับเอ็นเทอร์ไพรส์สามารถตอบสนองความต้องการในการใช้บริการ peer-to-peer collaborative applications เช่น วิดีโอ ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับเทคโนโลยีต่างๆ เช่น Virtual Desktop Infrastructure (VDI) ที่ซึ่ง desktop applications ที่ทำงานบนดาต้าเซ็นเตอร์ถูกนำเสนอไปยังผู้ใช้อย่างเด่นชัด

เนื่องจาก enterprise network ทั้งหลายกำลังเปลี่ยนจากเครือข่ายที่ใช้สาย ไปเป็นเครือข่ายไร้สาย และ ความนิยมใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ต้องการวีดีโอความละเอียดสูง (HD DVD) จึงมีความต้องการเครือข่ายไร้สายที่มีประสิทธิภาพสูงตามไปด้วย เทคโนโลยี Wireless Split-Plane ของอวาย่าทำหน้าที่แยกคู่ฟังก์ชั่นการควบคุมออกจากส่วนจัดการเคลื่อนย้ายข้อมูล ทำให้มั่นใจว่า wireless data traffic ถูกส่งผ่านได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจากแหล่งกำเนิดไปถึงปลายทาง นวัตกรรมเทคโนโลยีนี้สามารถนำไปผนวกเข้ากับเครือข่ายอีเทอร์เน็ตสวิสต์พื้นฐานได้ ซึ่งจะช่วยลด latency ลงได้อย่างมาก และเพิ่มความจุและประสิทธิภาพได้อย่างน่าทึ่ง ไม่เพียงเท่านั้น เนื่องจากมันช่วยให้สามารถนำฮาร์ดแวร์มาใช้ซ้ำได้และลดองค์ประกอบของเครือข่ายให้น้อยลง และรองรับการขยายขนาดเครือข่ายได้ภายหลัง จึงเอื้อต่อการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในระยะยาวได้อีกทางหนึ่ง

การจัดจำหน่าย
Avaya ERS 4000 Series มีจำหน่ายแล้ว พร้อมรองรับความต้องการ สำหรับ Fast และ Gigabit Ethernet switching และ routing, PoE, PoE+, SFP+ และ 10GbE uplink options ทั้งนี้ สวิตช์รุ่นใหม่ทุกรุ่นมาพร้อมกับ redundant field-replaceable AC power supplies

คำกล่าว:
“เรามีความยินดีที่อวาย่ามีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในสายผลิตภัณฑ์สำหรับเครือข่าย นับจาก high-end data center switch ไปจนถึง feature-rich branch office access switch ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาในกลุ่ม ERS 4000 ได้นำมาซึ่งคุณสมบัติด้านฮาร์ดแวร์อันมีคุณค่า ทั้งยังช่วยยกระดับคุณสมบัติของซอฟต์แวร์อีกมากมาย ช่วยให้เราสามารถออกแบบโซลูชั่นที่อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติและประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับลูกค้าองค์กรของเรา”
– โรเบอร์โต คาซูลา ผู้อำนวยการด้านเทคนิคของ Proximity Communications

“สวิตช์ Avaya ERS 4800 ใหม่มาพร้อมกับคุณสมบัติหลากหลายที่เรากำลังมองหา นับจาก PoE + และ full EAPoL (Extensible Authentication Protocol over LAN) configurability ไปจนถึง redundant swappable power supplies และ 10GbE capabilities การออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและคุณสมบัติด้านการประหยัดพลังงานเป็นสิ่งที่โดดเด่นมาก สิ่งเหล่านี้ตอบสนองความต้องการด้าน VoIP ของเราอย่างแท้จริง”
– เจฟฟ์ ฮาร์ดี ผู้ดูแลเครือข่ายและระบบ ประจำ State University of New York at Potsdam

“อวาย่าประสบความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในตระกูล ERS 4000 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สวิตช์ 4800 ใหม่ให้ทั้งประสิทธิภาพ ฟังก์ชั่นการทำงาน และคุณสมบัติรองรับการอัพเกรดที่เหนือกว่า พร้อมวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ที่ยาวขึ้น ช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายและมีผลกำไรมากขึ้น และด้วยคุณสมบัติต่างๆ ของ VENA เราไม่ต้องกังวลว่าจะถูกบังคับให้อัพเกรดขนานใหญ่ ทั้งนี้ InfoBunker ยังได้รับประโยชน์จาก VENA architecture ของอวาย่าหลายด้าน เพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่แข็งแกร่งและสามารถขยายรองรับความต้องการของลูกค้าของเราในอนาคตได้ ขณะเดียวกันก็ช่วยลดความซับซ้อนของเครือข่าย เรามั่นใจว่า ERS 4800 จะสามารถรองรับความต้องการเครือข่ายของเราในอนาคตอันใกล้นี้ได้ ซึ่งแตกต่างจากสวิตช์ของผู้ผลิตรายอื่น”
– เจสัน แมคกินนิส ประธาน InfoBunker