ในภาพ: คณะผู้บริหารและพนักงานบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เกือบ 500 คนจากทั่วประเทศ รวมพลเปิดตัว “เสริมสุขยุคใหม่” แสดงความพร้อมออกปฏิบัติการ “เติมสุข ทุกโอกาส” จากภายในสู่ภายนอก ผู้บริหารบริษัทฯ จากซ้ายไปขวา: นายอำนาจ พฤกษ์พัฒนรักษ์ ผู้บริหารประจำสำนักกรรมการผู้จัดการ นายขวัญชัย มหาพรประจักษ์ ผู้จัดการทั่วไปโรงงานนครราชสีมา นายวิรัช อิทธิกำจร ผู้จัดการทั่วไปโรงงานสุราษฎร์ธานี นายอรรถกฤช วิสุทธิพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล นายฐาปน สิริวัฒนภักดี รองประธานคณะกรรมการบริหาร นายสมชาย บุลสุข ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ นายปริญญา เพิ่มพานิช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและปฏิบัติการขาย นายทนงศักดิ์ โอสถานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน นายสิน คูศรี ผู้จัดการทั่วไปโรงงานนครสวรรค์ นายพีรพงศ์ กรินชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม และ นายพิบูลย์
วรรัตน์ ผู้จัดการทั่วไปโรงงานปทุมธานี
เสริมสุขประกาศจุดยืนขององค์กรสู่การเป็น “ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพของประเทศไทย” เปิดศักราชแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ส่ง ‘เสริมสุขลุคใหม่’ ภายใต้คอนเซ็ปท์ ‘เติมสุข ทุกโอกาส’ วัฒนธรรมใหม่ขององค์กรที่เข้มแข็ง สื่อถึงความพร้อมของเสริมสุขในการแสดงศักยภาพการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพ เพื่อเติมเต็มความสุขในรูปแบบที่หลากหลายให้โดนใจผู้บริโภคชาวไทย เดินหน้าปฏิบัติการ ‘เติมสุข ทุกโอกาส’ จากภายในสู่ภายนอก อัดแน่นกิจกรรมพลิกโฉมองค์กรทุกมิติ เริ่มจากพนักงานกว่า 8,000 คน 5 โรงงาน เกือบ 50 สาขา รถลำเลียงรถขาย พร้อมดีเดย์ส่งภาพยนตร์โฆษณาองค์กรลงจอเป็นครั้งแรก 9 สิงหาคมนี้
นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและจำหน่ายของเสริมสุขได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องเกือบ 60 ปี และเพื่อตอบสนองความเปลี่ยนแปลงรอบด้าน ทั้งด้านความต้องการของผู้บริโภคและผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่หลากหลาย เสริมสุขจึงได้มีการเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ขององค์กรให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่มุ่งยกระดับองค์กรจากการเป็นบริษัทเครื่องดื่มครบวงจรสู่การเป็น “ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพของประเทศไทย” ภายใต้คอนเซ็ปท์ “เสริมสุขเติมสุข ทุกโอกาส” ที่บ่งบอกถึงภารกิจของชาวเสริมสุขในการเติมความสุขจากภายในสู่ภายนอก เริ่มจากพนักงานของเรากว่า 8 พันคน ไปสู่ร้านค้ากว่า 2 แสนแห่ง และผู้บริโภคหลายสิบล้านคน โดยมีเป้าหมายนำพาเสริมสุขสู่การเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป”
“ก่อนที่จะเติมสุขให้กับคนอื่น เราเริ่มต้นจากการเติมสุขให้กับพนักงานของเราทุกคน โดยได้พัฒนาหลักในการทำงาน 3S ขึ้นมา ได้แก่ สมาร์ท (Smart) สไมล์ (Smile) และเซอร์วิส (Service) เราพร้อมเติมสุขด้วยการจัดส่งสินค้าที่มีคุณภาพ พร้อมบริการที่รวดเร็วทันใจเพื่อครองใจลูกค้า สำหรับผู้บริโภค เสริมสุขนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรูปแบบที่ตรงกับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม และสำหรับสังคม เราจะให้ความสำคัญกับกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคม และผู้ด้อยโอกาสมากขึ้น เพิ่มเติมจากกิจกรรมที่เราทำมาอย่างต่อเนื่อง”
เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับโฟกัสในการทำธุรกิจ เสริมสุขได้เปลี่ยนหน้าตาองค์กรใหม่ โดยเริ่มจากโลโก้ใหม่ของเสริมสุข ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงตัวตนกับการเป็นองค์กรที่ทันสมัยในทุกๆ ด้าน ดีไซน์อินฟินิตี้ ในโลโก้ หมายถึง การอยู่คู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน ไม่มีที่สิ้นสุด สีฟ้า หมายถึง ความสดชื่น ที่เสริมสุขมอบให้กับผู้บริโภค ส่วน สีเขียว คือ การทำงานเคียงข้างสิ่งแวดล้อม
นอกจากการเปลี่ยนแปลงทิศทางในการดำเนินธุรกิจแล้ว เสริมสุขยังได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ประกาศความเป็นเสริมสุขยุคใหม่จากภายในสู่ภายนอกในทุกๆ ด้านพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น 5 โรงงาน 50 สาขา รถลำเลียง รถขาย สำนักงานและบรรยากาศการทำงานที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาขององค์กรเป็นครั้งแรก โดยเปิดโอกาสให้ตัวแทนพนักงาน 150 คน จาก 5 โรงงานได้มีส่วนร่วมแสดงในภาพยนตร์โฆษณาชุด “เติมสุข ทุกโอกาส” ดังกล่าว เป็นตัวแทนพนักงานเสริมสุขในการถ่ายทอดภารกิจการ “เติมสุข ทุกโอกาส” ไปยังภายนอก โดยมีกำหนดจะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ชั้นนำ เคเบิ้ลทีวีและทางเว็บไซต์ http://www.sermsukplc.com/index.php ในวันที่ 9 สิงหาคมเป็นต้นไป
การสร้างวัฒนธรรมใหม่ขององค์กรที่เข้มแข็งในครั้งนี้ สื่อถึงความพร้อมของเสริมสุขในการแสดงศักยภาพการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพ เพื่อเติมเต็มความสุขในรูปแบบที่หลากหลายให้โดนใจผู้บริโภคชาวไทย เดินหน้าปฏิบัติการ ‘เติมสุข ทุกโอกาส’ จากภายในสู่ภายนอก โดยในงานประชุมพนักงานเปิดปฏิบัติการ ‘เติมสุข ทุกโอกาส’ ในครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจาก นายฐาปน สิริวัฒนภักดี รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ร่วมเติมพลังและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของเสริมสุขสู่การเป็น “ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพของประเทศไทย” ในครั้งนี้อีกด้วย