สินค้าแมสอยากอัพเกรด ทำไงดี ?

เบบี้ มายด์ เปิดตัว Babi Mild Ultra Mild Organic กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ถือว่าอยู่ในระดับพรีเมียม ความน่าสนใจของการเดินเกมในครั้งนี้ของเบบี้ มายด์คือความท้าทายที่จะทำให้สินค้า FMCG ที่อยู่ในระดับแมส ขยับขึ้นมาสู่สินค้าพรีเมียม กลยุทธ์ของเบบี้ มายด์ก็เพื่อต้องการให้แบรนด์เบบี้ มายด์ในภาพรวม เป็นแบรนด์เบอร์ 1 ของผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กในใจผู้บริโภค สอดรับกับเทรนด์ของผู้บริโภคที่พ่อ-แม่มักเลือกสินค้าให้ลูกด้วยความพิถีพิถัน หาความรู้และพร้อมจะจ่ายแพงกว่าถ้าหากเชื่อว่าสินค้านั้นๆ ดีที่สุดสำหรับลูก ทำให้เบบี้มายด์มียอดขายเติบโตขึ้น 10% ขณะที่อัตราการเติบโตของตลาดรวมผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กอยู่ที่ 3-5%   

เบบี้ มายด์ มีสินค้าในแบรนด์แบ่งเป็น 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย 1.Baby Bath 2.มอยซ์เจอไรเซอร์เด็ก 3.ผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลเด็กและครอบครัว 4.แป้งเด็ก 

กลุ่มสินค้าที่เบบี้ มายด์เป็นเจ้าตลาด คือ กลุ่มสินค้า Baby Bath ซึ่งมีมูลค่าตลาด 585.8 ล้านบาท เติบโต 8.3% โดยเบบี้ มายด์มีส่วนแบ่งตลาด 37.1% จากมูลค่าตลาดรวม 600 ล้านบาท กับสินค้ามอยซ์เจอไรเซอร์เด็ก ที่มีสวนแบ่งตลาดกือบ 20% จากมูลค่าตลาด 600 ล้านบาท ขณะที่สินค้าประเภทแป้งเด็กที่มีมูลค่าตลาดถึง 2,600 ล้านบาท เบบี้ มายด์ยังมีส่วนแบ่งตลาดตามหลังผู้นำค่อนข้างมาก ส่วนสินค้าสำหรับดูแลเด็กและครอบครัวยังไม่มีผู้นำตลาดที่ชัดเจน

จากสภาพการแข่งขันที่เบบี้ มายด์มีทั้งสินค้าที่เป็นเจ้าตลาด กับสินค้าที่อยู่ในสถานะผู้ตาม ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เบบี้ มายด์ต้องใช้กลุ่มสินค้าที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงแล้ว มาช่วยดึงแบรนด์สินค้าที่ยังเป็นผู้ตามอยู่ และทำให้แบรนด์ในภาพรวมเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค 

ต้องหทัย กุวานนท์ ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล บริษัท โอสถสภา จำกัด กล่าวว่า “ตอนนี้เราเป็นผู้นำในบางแคทิกอรี่ เป็นเบอร์ 2 ในบางแคทิกอรี่ แต่เราอยากเป็นเบอร์ 1 ในแง่ของแบรนด์ในใจผู้บริโภค เพราะว่าแบรนด์ที่แข็งแรงจะทำให้เรา Transfer ไปที่ไหนก็ได้ ผ่าน IMC และ Product” 

กลยุทธ์การทำให้แบรนด์แข็งแรงขึ้นของเบเบี้ มายด์ในปีนี้ คือการอัพแบรนด์จากที่เป็นสินค้าระดับแมส มาสู่ระดับพรีเมียมด้วยการออกสินค้าในกลุ่ม Babi Mild Ultra Mild Organic ประกอบด้วย โฟมอาบน้ำ, โลชั่น, มอยซ์เจอไรเซอร์ และแป้ง โดยมีวิธีคิดหลัก 2 เรื่อง 1.Brand Value 2.Product Value Oriented 

“การออกสินค้าระดับพรีเมียมยังไงก็ต้องตั้งอยู่พื้นฐานของแบรนด์เดิม ซึ่งเบบี้ มายด์มีปรัชญาว่า ของที่ดีที่สุดคือของที่มาจากธรรมชาติ แต่วันนี้เรากำลังก้าวไปอีกขั้น คือความเป็นออร์แกนิก หรือกระบวนการทั้งหมดปลอดสารเคมี ซึ่งปกติผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกจะขายในกลุ่มเฉพาะคนที่เคยอยู่ในต่างประเทศ เราก็มาทำให้เป็นพรีเมียมที่แมสก็เข้าถึงได้”   

 

ย้อนอดีต FMCG อัพเกรดอย่างไร

ตัวอย่างของความพยายามที่จะอัพเกรดสินค้าในกลุ่ม FMCG ให้มีมูลค่ามากขึ้น มีให้เห็นกันอยู่ตลอด โดยมีตัวอย่างของการใช้การปรับตัว 

-การเปลี่ยนฟอร์มผลิตภัณฑ์ เช่น เปลี่ยนผงซักฟอกจากผงให้กลายเป็นสูตรน้ำ ส่วนเบบี้  มายด์ก็ใช้วิธีเปลี่ยนครีมอาบน้ำให้กลายเป็นโปรดักต์ประเภทโฟม 

 -เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ ในยุคที่บรีสเพิ่งปรับสูตร “เข้มข้น” ลงสู่ตลาด ก็ใช้แพ็กเกจจิ้งแบบฟอยล์แทนถุงพลาสติก ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าสินค้าทั้ง 2 สูตรมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด 

 

มูลค่าตลาด Baby Bath 585.8 ล้านบาท 

– เบบี้ มายด์ 37.1%

มูลค่าตลาดมอยซ์เจอไรเซอร์เด็ก 606 ล้านบาท 

– เบบี้ มายด์ 18.5%