HP Sleekbook เพราะลูกค้าชอบอะไรที่อยู่ตรงกลาง

เป้าหมายของ ฮิวเลตต์-แพคการ์ด หรือ HP อยู่ที่การมีสินค้าตอบสนองลูกค้าให้ครบทุกความต้องการ ทำให้ล่าสุดเอชพีต้องแบ่งเซ็กเมนต์ของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเพิ่มขึ้นมาอีก 1 เซ็กเมนต์ เมื่อเห็นว่าลูกค้ามีความต้องการที่อยู่ระหว่างกลางระหว่างสินค้าเดิมที่เอชพีมีอยู่ โดยให้ชื่อไลน์อัพของผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ว่า Sleekbook 

“สลีคบุ๊กเป็นเซ็กเมนต์ที่ราคาถูกลงกว่าอัลตร้าบุ๊ก ซึ่งผู้ซื้อกลุ่มที่มีบัดเจ็ทจำกัดอาจจะมองว่าราคาสูง เราจึงใช้วิธีลดเพอร์ฟอร์แมนซ์และองค์ประกอบต่างๆ ของเครื่องลงบางส่วน ทำให้น้ำหนักเบา และราคาถูกกว่าอัลตร้าบุ๊กประมาณ 10-20%” อภิรดี พหลเวชช์ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์และการตลาด กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูล

ขณะที่กวิน อิสระชัยพิสิฐ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาด ผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์โน้ตบุ๊กกลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ ก็ย้ำว่า การเกิดเซ็กเมนต์ใหม่นี้ เหตุผลหลักคือเรื่อง “ราคา” แต่ยังคงตอบโจทย์เรื่องของโมลิลิตี้ให้กับลูกค้าสำหรับอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักเบา โดยเฉลี่ยสลีคบุ๊กจะมีน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัมเศษ 

อย่างไรก็ตาม สลีคบุ๊กอาจจะใหม่สำหรับเอชพี แต่ถ้าพิจารณาจากเซ็กเมนต์ของโน้ตบุ๊กในตลาดจะพบว่า แต่ละค่ายต่างก็มีเซ็กเมนต์ของโน้ตบุ๊กลักษณะเดียวกันนี้ เช่น เอเซอร์มีสลิมบุ๊ก ซึ่งมีความบาง 21 มม.หนากว่าสลีคบุ๊ก 3 มม. และเป็นเซ็กเมนต์ที่ทำส่วนแบ่งในกลุ่มโน้ตบุ๊กของเอเซอร์เองได้สูง 20-30% จึงเป็นที่มั่นใจได้ว่าเซ็กเมนต์ใหม่นี้มีความต้องการไม่น้อยในตลาด จนต้องแบ่งเซ็กเมนต์และพัฒนาเป็นไลน์อัพใหม่ออกมาให้ชัดเจนแทนที่จะซ่อนอยู่ในกลุ่ม

“ในกลุ่มโน้ตบุ๊กของเอชพี อัลตร้าบุ๊กมีสัดส่วนยอดขายอยู่ประมาณ 6-7% จัดเป็นกลุ่มผลิตภัณพ์ที่บางและมีน้ำหนักเบา (Slim & Light) ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ลูกค้ามีความต้องการเพิ่มเข้ามาชัดเจน และเพื่อตอบสนองข้อจำกัดเรื่องราคาเราจึงต้องมีสลีคบุ๊กเพิ่มเข้าไป และเชื่อว่าสลีคบุ๊กจะเข้ามาช่วยเพิ่มสัดส่วนในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเป็น 10%ในปีนี้” 

กวิน อ้างถึงพฤติกรรมผู้ใช้ ซึ่งเป็นที่มาของผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ว่า หากสังเกตจะเห็นว่า ผลิตภัณฑ์ในตลาดที่มีอยู่ยังตอบโจทย์ลูกค้าไม่ครบ  

“โน้ตบุ๊กพิมพ์งานได้แต่น้ำหนักเยอะ แท็บเล็ตเบาพิมพ์ลำบาก เราก็มีอัลตร้าบุ๊กมาเสียบตรงกลาง คนใช้แท็บเล็ตส่วนมากใช้คอนซูมคอนเทนต์ แต่ถ้าใช้งานจริงก็ยังเลือกโน้ตบุ๊ก แต่สลีคบุ๊กจะอยู่ตรงกลางใช้งานจริงได้มากกว่าแท็บเล็ต แต่เบากว่าโน้ตบุ๊ก กลุ่มเป้าหมายสลีคบุ๊กเป็นกลุ่มคนที่ซื้อคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องที่สองหรือสาม เพราะฉะนั้นก็จะไม่ทับกับเซ็กเมนต์เดิม” 

ด้วยการอธิบายเช่นนี้ เป็นการย้ำให้เห็นว่าการเกิดเซ็กเมนต์ใหม่ของเอชพีแต่ละครั้ง ล้วนเป็นแรงบันดาลใจที่มาจากผู้บริโภคทั้งสิ้น 

“จากโน้ตบุ๊กที่เน้นเพอร์ฟอร์แมนซ์อย่างเดียวในอดีต แยกเป็นบัดเจ็ท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ โมบาย โมบายพรีเมียม วันนี้เอชพีเรามีแคทิกอรี่ที่หลายหลายให้เลือกครบ นี่คือเป้าหมายของเราในการทำตลาด” อภิรดีย้ำ

ทั้งนี้เธอให้ตัวเลขสนับสนุนว่า การแยกเซ็กเมนต์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคเช่นนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้เอชพียังรักษาการเติบโตในตลาดโน้ตบุ๊กไว้ได้ แม้แนวโน้มตลาดรวมของโน้ตบุ๊กจะมีการคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 7-8% ในปีนี้ โดยไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา เอชพีมีส่วนแบ่งตลาดโน้ตบุ๊กเพิ่มจาก 7.4% เป็น 9.2% ในไตรมาส 2 และน่าจะมีส่วนแบ่งมากกว่า 10% ขึ้นไปในสิ้นปีนี้

 

HP ENVY SpectreXT

HP ENVY Ultrabook

HP ENVY Sleekbooks

border=”1″ cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>

A Little Bit
Different of Ultrabook VS Sleekbook style=”font-size: 18pt; line-height: 115%;” lang=”TH”>ชื่อรุ่น

HP
ENVY SpectreXT HP
ENVY Ultrabook HP
ENVY Sleekbooks กลุ่มเป้าหมาย โมบายพรีเมียม นักธุรกิจรุ่นใหม่ บัดเจ็ท ความบาง/น้ำหนัก 0.57 นิ้ว/1.39 กิโลกรัม 19.8 มม./เริ่มต้น1.75 กก. 19 มม./1.8 กก. จอ 13.3 นิ้ว 14 และ 15.6 นิ้ว 14 นิ้ว แบตเตอรี่ 8 ชั่วโมง 8 หรือ 9 ชั่วโมง 8 หรือ 9 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้น(รวมVat) 54,900 บาท 31,900 บาท 24,900-31,900 บาท สี ดำเงิน ดำ และสีฐานกันลื่นฝาหลังให้เลือก ดำ และ แดง ดำเงิน และดำแดง กลยุทธ์การตลาด เน้นสื่อนอกบ้านทั้งทีวีและป้ายโฆษณาตามป้ายรถเมล์
และจะมี TVC ออกในช่วง ต.ค. 2555 เป้าหมายยอดขาย รวมกันแล้วจะทำให้กลุ่มอัลตร้าบุ๊กของเอชพีมียอดขายเพิ่มเป็น
10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 6-7% วันเปิดตัวในไทย 29 สิงหาคม 2555