ทรูมูฟเอช ออกสติ๊กเกอร์เข้าถึงไลฟ์สไตล์ลูกค้า

สำหรับทรูมูฟ เอช รุ่งฟ้า เกียรติพจน์ ผู้ช่วยบริหารงาน กรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้อำนวยการ ด้านบริหารแบรนด์ และการสื่อสารเพื่อสร้างแบรนด์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด บอกถึง สาเหตุในการเลือก LINE เป็นเครื่องมือสื่อสารองค์กรมาจากหลายเหตุผล ข้อแรกเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์องค์กรที่ต้องการเชื่อมโยงกับพาร์ตเนอร์ระดับ Global ทำให้ได้ประโยชน์ทั้งความรู้และประสบการณ์มาร่วมพัฒนาธุรกิจในอนาคต

นอกจากนี้ ความพร้อมของเครือข่าย 3 จีของทรูมูฟเอช ที่ขยายเครือข่ายทั่วประเทศ ทำให้สามารถรองรับการใช้งานดาต้า ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น และการใช้โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คได้อย่างดี  

สำหรับ LINE เองก็มีการใช้งานแพร่หลาย โดยมี 85 ล้านรายทั่วโลก และในไทย 10.2 ล้านราย ถือเป็นแชตแอปพลิเคชั่นอันดับต้นๆ ในไทย ด้วยจุดเด่นของ LINE ที่สามารถใช้ข้ามแพลตฟอร์ม แอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่ LINE พัฒนาออกมารองรับกับพฤติกรรมผู้ใช้ คนไทยนิยมส่งข้อความด้วยสติ๊กเกอร์น่าๆ รัก ให้ความรู้สึกได้ดีกว่าส่งเป็นข้อความ

การร่วมมือLINE จะช่วยให้ทรูมูฟเอชมีเครื่องสื่อสารที่เข้าถึงผู้ใช้รวดเร็วขึ้น และยังตอบโจทย์เรื่องแบรนด์ทรูมูฟเอช ที่ต้องการเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์การใช้มือถือของลูกค้า 

การเลือกใช้สติ๊กเกอร์ไลน์ในการสือสารกับลูกค้าของทรูมูฟเอช จึงถูกขยายผลไปมากกว่า การออกสติ๊กเกอร์ มิสเตอร์เอช (Mr.H) 16 แบบ ที่เปิดให้ดาวน์โหลดไปเมื่อ 26 พฤศจิกายน จนมียอดดาวน์โหลด 1.6 ล้านราย หลังจากนั้นทรูมูฟเอชยังขยับอีกขั้นด้วยเป็นแบรนด์ไทยแบรนด์แรก ออกสติ๊กเกอร์ ใน LINE Camera แอปพลิเคชั่นในการแต่งรูป ในวันที่ 6 ธันวาคม 

รุ่งฟ้าบอกว่า การทำเช่นนี้เพื่อเข้าถึงเทรนด์ก่อนใคร และเติมเต็มไลฟสไตล์ของคนไทยที่นิยมถ่ายภาพแชตและแชร์ให้เพื่อน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดในเดือนธันวาคม คนจะนิยมท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งทรูเตรียมออก LINE Card ออกมารับกับเทศกาลปีใหม่ 

การร่วมมือกับ LINE  ถือเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือการตลาด ที่ช่วยสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้ใช้ ให้เขาห็นว่าแบรนด์ของมีตัวตนอยู่ในคอมมูนิตี้ของเขา จนเกิดเป็นความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้า แบรนด์เองจะเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

“ทุกแพลตฟอร์มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ทรูมูฟเราจะเลือกไปทุกแพลตฟอร์มที่ลูกค้านิยม  อย่าง LINE มีความเป็นโมบิลิตี้เข้าถึงผู้ใช้ได้ตลอด มากกว่าเฟซบุ๊กด้วย ส่วนแบรนด์ใดจะได้ประโยชน์จากการใช้ LINE เป็นเครื่องมือการตลาดแต่ขึ้นอยู่กับมุมมองการตลาดของแต่แบรนด์”