ศึกหวยชาเขียว โออิชิ VS อิชิตัน ใครรวยกว่ากัน

ศึก “หวยชาเขียว” บิ๊กแคมเปญ ที่ทั้งโออิชิและอิชิตันกำลังขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้น หวังโกยส่วนแบ่งตลาดชนิดใครดีใครอยู่ “ตัน” สวมบทฮีโร่ ใช้ “ดราม่า” เป็นตัวฉุดกระแสผ่าน “เฟซบุ๊ก” และทีวีซี เรียกเรตติ้ง จากคนต่างจังหวัด สารพัดอาชีพ กระชากเรตติ้งไปอยู่ในมืออิชิตัน ทำเอาโออิชิที่แม้จะเงินหนา แจกถี่กว่ายังตกเป็นรองต้องหาวิธีแก้มือด้วยการ “โคลนนิ่ง” กลยุทธ์คู่แข่งมาแบบทุกกระเบียดนิ้ว แต่ไม่ว่าจะแข่งกันหนักแค่ไหน แต่เป็นโปรโมชั่นแห่งปีที่กระตุ้นดีมานด์และรายได้ให้กับทั้งโออิชิและอิชิตันได้อย่างคุ้มค่า

การเปิดตัวแคมเปญ “ชิงโชครหัสใต้ฝา” ของศึกชาเขียว ระหว่างโออิชิและอิชิตันในช่วง 3 เดือนนับจากนี้ ถือเป็น “บิ๊กแคมเปญประจำปี” ร้อนแรงที่สุดช่วงหนึ่งของตลาดชาเขียวมูลค่า 13,000 ล้านบาท ที่โออิชิและอิชิตันกำลังห้ำหั่นกันกันอย่างถึงพริกถึงขิง เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ในตลาดชาเขียวสำเร็จรูป

สำหรับ “อิชิตัน” แคมเปญ “อิชิตัน ลุ้นรหัส รวยเปรี้ยง 60 วัน 60 ล้าน รีเทิร์น” เป็นเดิมพันที่เสี่ยตัน ภาสกรนที แห่งอิชิตันต้องทุ่มสุดตัว หลังจากเมื่อปลายปีที่แล้วอิชิตันได้ลิ้มรสความสำเร็จจากแคมเปญนี้มาแล้ว โดยสามารถช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดในช่วง 4 เดือน คือตั้งแต่ตุลาคม 55 ถึงมกราคม 56 ซึ่งเป็นช่วงออกโปรโมชั่น อิชิตันมีส่วนแบ่งตลาด 40% ในขณะที่โออิชิมีส่วนแบ่งตลาด 38% และตันได้เปิดเผยยอดขายในช่วงนั้นได้ถึง 1,200 ล้านบาท ใช้งบการตลาด 120 ล้านบาท

ตันคาดหวังว่า “ลุ้นรหัสรวยเปรี้ยง อิชิตัน 60 วัน 60 ล้าน รีเทิร์น” จะทำให้อิชิตันรีเทิร์นสู่ความสำเร็จเหมือนอย่างที่ทำได้มาแล้ว และยังเป็นเดิมพันครั้งสำคัญที่ตันจะช่วงชิงโอกาสในการขึ้นแท่นเบอร์ 1 ในตลาดชาเชียวภายในปีนี้

เป้าหมายลูกค้าต่างจังหวัด

การออกแคมเปญของอิชิตันในครั้งนั้น มาจากความต้องการสร้างความชัดเจนให้กับแบรนด์อิชิตัน โดยเฉพาะลูกค้าต่างจังหวัดที่ยังสับสนอยู่มากว่าเขาเป็นเจ้าของแบรนด์ไหนกันแน่

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาช่องทางขายหลักของอิชิตันจะผ่านโมเดิร์นเทรดเป็นเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ฐานลูกค้าอยู่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่เป็นหลัก ส่วนช่องทางขายเทรดิชันแนล เช่น ร้านค้า ตู้แช่ ซึ่งเป็นช่องทางขายสำคัญของลูกค้าต่างจังหวัด และเป็นจุดอ่อนที่อิชิตันยังขยายได้ไม่ทั่วถึง หากอิชิตันจะทำให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น ก็ต้องเพิ่มสัดส่วนช่องทางเทรดิชันแนลให้มากขึ้น

“ถ้าจะขยายฐานไปที่ลูกค้าต่างจังหวัด ก็ต้องอาศัยช่องทางเทรดิชันแนล ที่ผ่านมาอิชิตันเราขยายช่องทางนี้ได้แค่ 10% แต่หลังจากแคมเปญแรกที่เราทำปรากฏว่าเราขยายช่องทางร้านค้าในต่างจังหวัดเพิ่มเป็น 45% และเราคาดว่าแคมเปญรีเทิร์นครั้งนี้จะทำให้การขยายช่องทางนี้เพิ่มเป็น 60%”

ด้วยกติกาของแคมเปญ ที่ตัน และทีมงานคิดขึ้นมา โดยตันเคยให้สัมภาษณ์ว่ามาจากดีเอ็นเอของ”แคมเปญรวยฟ้าฝ่า” เปิดฝามารับเงินล้านไปทันที โดยปรับกติกาและวิธีการชิงโชคให้เข้ากับพฤติกรรมของคนยุคนี้ ให้ส่งรหัสจากฝาและชิ้นส่วนจากกล่องยูเอชที มาชิงโชคทอง และรู้ผลทันทีช่วงเย็น คล้ายกับการ “ลุ้นหวย” สอดคล้องกับพฤติกรรมคนไทยที่นิยมเรื่องการเสี่ยงโชค แถมยังถูกกว่าซื้อหวย และลุ้นได้ทุกวัน และเวลานี้คนไทยก็มีโทรศัพท์มือถือใช้งาน การส่งชิงโชคก็ทำให้ง่าย ใช้ได้กับทุกค่ายโดยไม่ต้องเสียค่าส่ง แคมเปญจึงโดนใจกลุ่มเป้าหมายลูกค้าในต่างจังหวัด ระดับรากหญ้า จนกลายเป็นปรากฎการณ์ให้กับตลาดชาเขียว

ประกอบกับตันมีการเตรียมวางแผนล่วงหน้าครึ่งปี รวมถึงการวางแผนสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจกติกาล่วงหน้าก่อนลุ้นโชคครึ่งเดือน โดยมีการโปรโมตแคมเปญ ทั้งภาพยตร์โฆษณา และงานอีเวนต์แถลงข่าวเปิดตัวที่สื่อความหมายด้วยสัญลักษณ์ของการขอหวยเสี่ยงโชค สร้างการรับรู้ให้กับคนต่างจังหวัด ส่วนคนเมืองก็สื่อสารผ่านเว็บไซต์ และเฟซบุ๊ก แฟนเพจของตันและอิชิตัน แจ้งรายละเอียดทุกขั้นตอน

ผลปรากฏว่า แคมเปญชิงโชครหัสใต้ฝาของอิชิตัน เปรี้ยงโดนใจลูกค้ามากกว่า “โออิชิ” ที่ตัดสินใจเข็นแคมเปญ “รวยซ้ำรวยซ้อน ลุ้นง่ายทุกวัน ได้ทั้งล้านได้ทั้งรถ” ออกมาทีหลังอิชิตันได้ 1 เดือน เนื่องจากโออิชิยังใช้วิธีชิงโชคแบบเดิม คือส่งฝาและกล่องไปชิงโชค ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมคนยุคนี้ ที่ต้องการรู้ผลทันที

ทำไมแคมเปญโดนใจ

1. ตันประยุกต์มาจากแคมเปญ “รวยฟ้าผ่า” เปิดฝามารับเงินล้านไปทันที ซึ่งเป็นแคมเปญที่ตันออกมาแก้ปัญหาและได้รับความนิยมสูงมากในช่วงนั้น
2. วิธีการชิงโชค ให้ส่งรหัสจากฝา และชิ้นส่วนมาชิงโชค คล้ายกับการลุ้นหวย ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมคนไทยที่ชื่นชอบการเสี่ยงโชค โดยเฉพาะคนรากหญ้า
3. รู้ผลทันทีวันต่อวัน เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ที่ไม่ชอบรอนาน เหมือนกับการส่งชิ้นส่วนชิงโชคในอดีตกว่าจะรู้ผลต้องรอไปอีกจนหมดแคมเปญ หรือบางทีก็ลืมไปแล้ว
4. คนไทยเวลานี้มีโทรศัพท์มือถือใช้กันทุกคน 100% ไม่ว่าจะเป็นคนเมืองและต่างจังหวัด การส่งผ่านมือถือจึงสะดวกกับคนทุกกลุ่ม
5. การชิงโชคใช้ได้กับมือถือทุกระบบ ไม่ต้องเสียค่าส่ง

ศึกหวยชาเขียวยกที่สอง

ถึงแม้ศึกยกแรก อิชิตันจะเป็นฝ่ายคว้าชัยมาจากโออิชิ แต่สำหรับศึกหวยชาเขียวรอบใหม่ในช่วงฤดูร้อนที่กำลังมีขึ้นระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมนี้ ตันรู้ดีว่าศึกครั้งนี้ไม่ธรรมดา และยังไม่ทันที่ตันจะเปิดตัวแคมเปญ โออิชิ ก็ชิงตัดหน้าเปิดตัวโปรโมชั่นหน้าร้อน “รหัสโออิชิ ลุ้นรวยทุกชั่วโมง” แถมยังปลี่ยนมาใช้กติกาแบบเดียวกับอิชิตัน คือส่งรหัสไปชิงโชค (แต่โออิชิแจ้งผลที่เฟซบุ๊กและเว็บไซต์

ที่สำคัญ โออิชิ สวมบท “ป๋า” เกทับบลั้ฟแหลก เพิ่มทั้งเงินรางวัลและความถี่ โดยให้ลุ้นทองมูลค่า 10,000 บาท ทุกชั่วโมง ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น 8 ครั้งต่อวัน และให้ลุ้นรางวัลทองคำ 1 ล้านบาททุกวัน วันละ 1 รางวัล รวม 60 วัน โดยเพิ่มงบ150 ล้าน เพิ่มเป็น250-300 ล้านบาท และอัดงบสื่อสารด้วยการยิงโฆษณาออกสื่อทีวีถี่ยิบ

งานนี้ “โออิชิ” ตระหนักดีว่า แคมเปญลักษณะนี้เข้าถึงคนไทยได้ง่าย โดยเฉพาะระดับรากหญ้า อนิรุทธิ์ มหธร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัทโออิชิ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ บอกว่า ที่ยังต้องแจกทองเพราะถูกใจลูกค้าต่างจังหวัด ซึ่งโออิชิคาดหวังว่า แคมเปญนี้จะช่วยให้อัตราการเข้าถึงครัวเรือนในการบริโภคเครื่องดื่มโออิชิเพิ่มเป็น 75% ในปีนี้ และคาดว่าจะสร้างยอดขายได้ 100 ล้านฝา

นอกจากนี้โออิชิไม่ปล่อยให้คู่แข่งอย่างอิชิตัน ที่ถือเป็นคู่แข่งและคู่แค้นทางธุรกิจ ชิงส่วนแบ่งตลาดไปได้เหมือนกับแคมเปญที่แล้วมา

ทางด้านตัน เมื่อต้องสู้กับคู่แข่งที่มีทั้งสรรพกำลัง เงิน เครือข่าย กำลังคน การที่จะลุกมาสู้ด้วยการแจกมากกว่าก็มีแต่จะเจ็บตัว แคมเปญ “ลุ้นรหัสรวยเปรี้ยง อิชิตัน 60 วัน 60 ล้าน รีเทิร์น” ยังคงจุดเด่นเรื่องการส่งรหัสใต้ฝาและกล่องผลิตภัณฑ์ ลุ้นทองคำ 1 ล้านบาท ทุกวัน รวม 60 วัน 60 ล้านบาท และเพิ่มให้ลุ้นไอโฟน 5 อีกวัน 10 เครื่อง

สิ่งที่ตันมองว่าเป็น “หมัดเด็ด” ของเขา นอกเหนือจากการแจกทอง คือ การแจก “ไอโฟน 5” ที่มีความต้องการมาก โดยเฉพาะฐานลูกค้าที่เป็นเด็กและคนในต่างจังหวัดที่ยังไม่มีไอโฟนใช้อีกสิบล้านคน

นอกจากนี้ ตันต้องทำให้แคมเปญ “เปรี้ยง” กว่าครั้งที่แล้ว โดยการใช้กระแสมวลชนมาช่วย สร้างเรื่องราวให้เกิดการบอกต่อ โดยมี “ตัน” เป็นตัวแสดงนำ ให้ลูกค้าเกิดอารมณ์ร่วมทำให้แคมเปญเป็นที่จดจำ

ตัน พบว่า ความสำเร็จของแคมเปญครั้งที่แล้วนอกจากสะดวกและง่ายกว่าในการชิงโชค การเดินสายแจกรางวัลด้วยตัวเองเป็นกลไกสร้าง “เนื้อหา” ซึ่งตันจะใช้วิธีเดินทางไปแจกรางวัลให้กับผู้รับโชคทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดด้วยตัวเอง จากนั้นนำคลิปมาเผยแพร่บน “เฟซบุ๊กแฟนเพจ” ของตัน ที่เวลานี้ยอด Like มากกว่า 2 ล้าน และในเฟซบุ๊กแฟนเพจของอิชิตันที่มียอดแฟน 1 ล้านกว่า ซึ่งตันใช้ประโยชน์จาก เฟซบุ๊ก เป็นเครื่องมือสื่อสารสำคัญ สร้างการรับรู้แคมเปญ และหล่อเลี้ยงกระแสให้ได้รับความสนใจต่อเนื่อง

“การที่ผมไปแจกรางวัลเอง ทำให้คนรู้สึกว่าสินค้าเรามีตัวตน อย่างแคมเปญครั้งที่แล้วที่ผมไปแจกให้กับคนที่ได้รางวัล 60 คน ทำออกมา 60 คลิป มีคนดูเป็นล้านคน แค่คลิปเดียวคนดูเป็นแสน ไม่เหมือนกับคู่แข่ง ถึงเขาจะแจกเงินมากกว่า ใช้ดาราไปแจก แต่สินค้าเขาเหมือนไม่มีตัวตน นี่คือความแตกต่าง คนเขาอยากมาดูผม ตรงนี้คู่แข่งก็ก๊อบปี้ไม่ได้ มีเงินก็ซื้อไม่ได้” ตันสะท้อนแนวคิดที่ได้จากแคมเปญครั้งที่แล้ว

ตัน อัดดราม่าสร้างกระแส

แต่สำหรับแคมเปญครั้งนี้ ตันจำเป็นสื่อสารแบบ “จัดหนัก” ยิ่งขึ้น สร้างการรับรู้ให้แคมเปญ “หวยชาเขียว” ดังกระหึ่มทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ทั้งตัวเขาและเนื้อหาต้องเข้มข้นและ “ดราม่า” มากขึ้น เพื่อให้คนอินกับแคมเปญ และรับรู้แบรนด์อิชิตันให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะลูกค้าต่างจังหวัดที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโปรโมชั่นนี้

ครั้งนี้ “ตัน” จึงหันมาสวมชุดและบทบาท “ฮีโร่” ที่มาให้ “ความหวัง” กับชาวบ้านร้านตลาดทั้งพ่อค้าแม่ค้า ชาวประมง หลากหลายอาชีพ รวมถึงคนกำลังประสบปัญหา เช่น คนตกงาน บ้านถูกยึด ได้มีโอกาสลุ้นโชคไปกับหวยอิชิตันไปสร้างเนื้อสร้างตัว ทั้งหมดนี้ คือ สตอรี่หลักที่ตันใช้ในภาพยนตร์โฆษณา เพื่อสื่อสารถึงความหมายของแคมเปญไปยังคนต่างจังหวัด

ขณะเดียวกัน ตันใช้ เฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือเผยแพร่คลิปการแจกรางวัลให้กับผู้ที่ได้รับโชค เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมให้กับกระแสของแคมเปญเดินต่อไป

ปรากฎว่ารางวัลแรกที่ได้เป็นแม่ที่ต้องเลี้ยงลูก 2 คน ลูกชายป่วยเป็นมะเร็งกระดูก ส่วนลูกสาวพิการซ้ำซ้อน และแม่ชราที่ล้มป่วยบ่อยครั้ง กลายเป็น “ดราม่า” เรียกน้ำตา ดังกระหึ่มในโลกออนไลน์ มียอดวิว 429,577 วิว เข้าสูตรการสร้างไวรัล หรือ “กระแสบอกต่อ” ที่สร้างความดังได้ทั้งในโลกออนไลน์และยังแพร่กระจายไปในสื่อแมส เพราะ “ตัน” เองยังมีพันธมิตรอย่าง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” นำเรื่องราวเหล่านี้ไปออกในรายการเรืองเล่าเช้านี้ ก็ยิ่งสร้างให้กระแสชิงโชครหัสใต้ฝาของอิชิตันให้ดังกระหึ่มสู่ระดับแมส

เมื่อเริ่มด้วยคลิปดราม่าขนาดนี้แล้ว คลิปต่อไปย่อมได้รับความสนใจต่อเนื่อง และคนที่ได้รางวัลก็มีหลากหลายอาชีพ กระจายอยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งครูสอนฟิตเนส ผู้รับเหมาก่อสร้างที่จังหวัดขอนแก่น นักศึกษาได้เงินไปเป็นทุนการศึกษา แม่ค้าขายของจังหวัดยโสธร

นอกจากนี้ ตันใช้ปรากฎการณ์กำลังเป็นที่สนใจของผู้คนในสังคม ควบคู่กับสัญลักษณ์ของการเล่นหวย เช่น ภาพคาถาของแม่รำพึงในละครบ่วงบาป หรือภาพตันเบิกเงินจากธนาคารมากอง หรือนำไอโฟนมาต่อๆ กันยาวเท่ากับสนามฟุตบอล ทำให้โปรโมชั่นแจกทองของ “อิชิตัน” ได้รับความสนใจ ถูกติดตามและป็นกระแสที่ถูกพูดทั้งในออนไลน์และออฟไลน์

นี่คือสูตรแห่งความสำเร็จ ที่ตันบอกว่าไม่ต้องใช้เงินมาก แต่ต้องใช้ไอเดียบวกกับกระแสสร้างการรับรู้แบรนด์ที่ทำต่อเนื่อง

ตันไม่เคยทำอะไรชั้นเดียว

นอกจากนี้ สไตล์ของตันไม่เคยคิดหรือทำอะไรแค่ชั้นเดียว ทันทีที่เปิดตัวแคมเปญ ตันรีบกระตุ้นกำลังซื้อด้วยการจับมือกับเซเว่นอีเลฟเว่น ออกโปรโมชั่นให้สิทธิ์แลกซื้ออิชิตันขนาด 420 มล. สองขวดในราคา 25 บาท ส่วน ขนาด 840 มล. ลดราคาจาก 25 บาท เหลือ 20 บาท

ตันยังใช้โปรโมชั่นนี้มาทำใช้ประโยชน์ในการเปิดตัวเครื่องดื่มชนิดใหม่ น้ำจับเลี้ยง ภายใต้แบรนด์ “เย็น เย็น” ออกสู่ตลาด และร่วมอยู่ในแคมเปญ โดยฝาของ เย็น เย็น สามารถส่งรหัสมาชิงโชค ในโปรโมชั่น “ลุ้นรหัสรวยเปรี้ยง อิชิตัน 60 วัน 60 ล้าน รีเทิร์น” ได้เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ชาเขียว เป็นกลยุทธ์ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ใช้กระแสแคมเปญมาช่วยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ขณะเดียวกันเพิ่มโอกาสให้กับคนที่ชื่นชอบน้ำสมุนไพรได้ลุ้นโชค

ตันจึงไม่รอแค่โปรโมชั่น แต่ยังใช้การเดินสายจัดอีเวนต์ในต่างจังหวัดประกบเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ ซึ่งตันบอกว่า ภาคเหนือและอีสานไม่ห่วงแล้ว เป้าหมายปีนี้อยู่ที่ภาคใต้ ซึ่งคนใต้มีพฤติกรรมพิเศษกว่าภาคอื่น ต้องใช้ศิลปินที่คนใต้ชื่นชม อย่างนักร้องลูกทุ่งขวัญใจชาวใต้ เอกชัย ศรีวิชัย โดยอิชิตันควักเงิน 10 ล้านเป็นเจ้าภาพจัดคอนเสิร์ตเพื่อสร้าแบรนด์อิชิตัน

เมื่อมีทั้งกระแสทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ บวกกับกลยุทธ์ราคา เดินสายจัดอีเวนต์ ประกบด้วยสินค้าใหม่ อัดด้วยโปรโมชั่น ส่งผลให้แคมเปญชิงโชครหัสใต้ฝาของอิชิตันเปรี้ยงปร้าง สร้างกระแสการรับรู้กับคนทั่วไปได้มากกว่าของคู่แข่ง แม้แต่พนักงานในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นยังเข้าใจว่า แคมเปญหวยชาเขียว เป็น “อิชิตัน” เพียงเจ้าเดียว

โออิชิใช้กลยุทธ์ “โคลนนิ่ง” คู่แข่ง

ทางด้านโออิชิ เมื่อเจอกระแสความแรงของอิชิตัน จึงเร่งรีบแก้โจทย์เป็นการด่วน ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม โออิชิได้อัดฉีดโฆษณา และtie-in ในรายการ เช่น ตลาดสดสนามเป้า ที่ให้พิธีกรและแม่ค้าในรายการโปรโมตโปรโมชั่นรหัสโออิชิ ลุ้นรวยทุกชั่วโมง โดยสื่อสารชนิดที่ให้รู้กันไปเลยว่า เหมือนกับการแทงหวยที่ลูกค้าคุ้นเคย แต่เหนือกว่าตรงที่ลุ้นรางวัลได้ทุกชั่วโมง

ส่วนในเฟซบุ๊กแฟนเพจของโออิชิ ก็เปลี่ยนมาเน้นเนื้อหา “ดราม่า” ด้วยคลิปจั่วหัวว่า รางวัลแด่คนสู้ชีวิตไม่ทิ้งฝัน ผู้รับรางวัลเป็นเจ้าของกิจการรับปะยาง 24 ชั่วโมง ชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต้องดำเนินชีวิตต่อสู้ตรากตรำมายาวนาน แถมยังเพิ่งมีลูกสาววัยแค่ 2 เดือน ที่นำโชคมาให้ เรียกว่า โคลนนิ่งกลยุทธ์ของอิชิตันมาใช้ ทั้งสไตล์และเนื้อหาในการสื่อสาร ควบคู่ไปกับการอัดฉีดโปรโมชั่นเพื่อเร่งยอดขายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ด้วยการให้แลกโออิชิขนาด 500 มล. ซื้อ 2 ขวด จากราคา 40 บาท เหลือราคา 25 บาท

ในขณะที่คู่แข่ง มีตันสวมบทฮีโร่นอกจอ โออิชิ ยังคงใช้ พระเอกดัง เคน ภูภูมิ และหมาก ปริญญ์ ซึ่งเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแคมเปญนี้ รวมทั้งใช้ รูปตุ๊กตา “แมวเนโกะ” เป็นไอคอนสร้างความจดจำให้กับแบรนด์โออิชิแล้ว ยังเพิ่ม “เต๋อ ฉันทวิชช์” พระเอกหนังจากค่ายจีทีเอช ที่ได้ชื่อว่ามีแฟนคลับติดตามในโลกออนไลน์มากมาย มาเป็นพรีเซนเตอร์ในแคมเปญนี้เพิ่มอีกคน เพื่อดึงฐานลูกค้าวัยรุ่นให้มาสนใจแคมเปญมากยิ่งขึ้น

สร้างรายได้สุดคุ้ม

ไม่ว่าโออิชิ และอิชิตัน ใครจะมีชัยเหนือกว่า แต่มีการประเมินกันว่า แคมเปญหวยชาเขียวสามารถสร้างรายได้ให้กับทั้งสองรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ เพราะมีการประเมินแล้วว่า ต้นทุนการผลิตชาเขียวสำเร็จรูปเฉลี่ย 5 บาท บวกกับค่ากระจายตามช่องทางต่างๆ เฉลี่ย 3-5 บาท ถ้าขายขวดละ 15 บาท จะมีกำไรเฉลี่ย 5 บาทต่อขวด แต่ถ้าตั้งราคา 20 บาท กำไรเฉลี่ย 10 บาท ซึ่งโออิชิคาดว่าจะทำยอดขายได้ประมาณ 100 ล้านฝา ราคาต่อขวดเฉลี่ย 20 บาท เท่ากับโออิชิจะมีรายได้ 2,000 ล้านบาท ส่วนตันบอกว่าแคมเปญนี้จะสร้างยอดขายให้อิชิตัน 1,500 ล้านบาท

ตัน เองก็เคยให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าไม่มีแคมเปญ อย่างเก่งตลาดชาเขียวโตแค่ปีละ 3-5% แต่พอมีแคมเปญตลาด ทำให้ตลาดเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20% ได้ทุกปี อย่างปี 2555 ตลาดชาเขียวโตถึง 30% หรือ 13,000 ล้านบาท” ตันคอนเฟิร์มและบอกถึงทิศทางได้ชัดเจนว่า แคมเปญการตลาดเป็นของคู่กับตลาดชาเขียวไปแล้ว เพราะสามารถสร้างดีมานด์ให้กับตลาดชาเขียวเพิ่มต่อเนื่อง

นักการตลาดในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ได้ตั้งข้อสังเกตว่า แคมเปญหวยชาเขียว ส่งผลให้เกิด “ดีมานด์เทียม” จากการที่มีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่ซื้อเพื่อต้องการชิงโชค ไม่ได้เพราะต้องการดื่มจริงๆ

สะเทือนทั้งตลาดเครื่องดื่ม

ขณะเดียวกัน แคมเปญหวยชาเขียวยังส่งผลกระทบให้กับ เครื่องดื่มชาสำเร็จรูปแบรนด์อื่นๆ จากการพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ซื้อกินเพราะต้องการชิงโชค แบรนด์ไหนที่ไม่มีโปรโมชั่นออกมาแข่งจะถูกแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดไปอยู่ในมือของอิชิตัน และโออิชิ เช่น ชาชาว“เพียวริคุ” ที่ทั้งจากโออิชิ ฟรุตโตะ ซึ่งเป็นคู่แข่งรสโกจิเบอรี่ รวมถึงรสสมุนไพรน้ำจับเลี้ยง ที่เพียวริคุเพิ่งนำออกทำตลาดได้ไม่นาน ก็ต้องเจอคู่แข่งอย่าง ตัน ที่เปิดตัวน้ำจับเลี้ยง เย็น เย็น และนำเข้าร่วมแคมเปญนี้ด้วย

ส่วน ชาดำสำเร็จรูป “ลิปตัน” ก็ต้องรีบเข็นโปรโมชั่น แจกมอเตอร์ไซค์ 100 วัน 100 คัน เพื่อรับมือกับสงครามหวยชาเขียวรอบนี้ แม้ว่ารางวัลจะไม่แรงเท่ากับโออิชิ และอิชิตัน แต่ลิปตันก็ประเมินแล้วว่า หากไม่ทำอะไรก็อาจต้องสูญเสียส่วนแบ่งตลาดไปให้กับโออิชิ และอิชิตัน เหมือนกับที่เพียวริคุเจอมาแล้วเช่นกัน

3 เดือนนับจากนี้ต้องจับตาดูว่า ระหว่าง อิชิตัน และ “โออิชิ” ใครจะคว้าชัยชนะในแคมเปญนี้ ห้ามกะพริบตา และถือเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาของตลาดชาเขียวสำเร็จรูปของไทย ที่สงครามระหว่างสองแบรนด์นี้ยังอีกยาวไกล