GL ส้มหล่น คู่แข่งรายใหญ่อ่อนแรง หลัง GE ขายหุ้น BAY เผยครึ่งปีแรกโตสวนกระแส สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

เผยตลาดรถจักรยานยนต์ช่วงไตรมาสที่ 2 ชะลอตัว แต่ GL กลับโตสวนกระแส ยอดปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ต่อเดือนเฉียด 9,000 คัน สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน ที่มียอดสินเชื่อต่อเดือนแค่ 5,000 กว่าคัน “มิทซึจิ” เผย หลังจีอี แคปิตอล ขายหุ้นที่ถืออยู่ในธนาคารกรุงศรีอยุธยา จะทำให้การรุกตลาดลดลง เป็นผลดีกับ GL ที่ทำตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและประเทศกัมพูชา ยังยืนยันเป้าหมายปล่อยสินเชื่อ 12,000 คันต่อเดือนภายในปีนี้

นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL หนึ่งในผู้นำผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ กล่าวว่า จากกระแสข่าวที่กลุ่มจีอี แคปิตอล ผู้ถือหุ้นหลักของธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) จะขายหุ้นทั้งหมดประมาณ 25% ที่ถืออยู่ในธนาคารกรุงศรีอยุธยาให้กับผู้ถือหุ้นใหม่นั้น ได้ส่งผลดีต่อ GL อย่างเห็นได้ชัด โดยขณะนี้ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ที่อยู่ในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ว่า ทาง GE ก็ได้ชะลอการทำตลาดเชิงรุกแล้ว และต่อไปเมื่อจีอีไม่ได้ถือหุ้นธนาคาร ช่องทางการทำตลาดก็คงไม่แข็งแรงเท่าในปัจจุบัน ส่วนผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นหลักรายใหม่ในธนาคารกรุงศรีอยุธยาก็ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญหรือความสนใจในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ

“จังหวะนี้ถือเป็นผลดีกับ GL เพราะจีอีนั้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์อยู่ เมื่อผู้นำไม่อยู่ในภาวะที่จะแข่งขันได้เต็มที่ ในขณะที่เรายังคงเปิดเกมรุกตลาดอย่างหนัก ดังนั้น GL จึงน่าจะมีการเติบโตที่สูงมาก ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 นี้ แม้ว่าจำนวนการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ใหม่จะชะลอตัวลง แต่การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของ GL ยังคงมีการเติบโตที่สูง จากที่เคยทำยอดได้เดือนละ 5,000 กว่าคัน ในช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2555 แต่ปีนี้สามารถทำได้เกือบ 9,000 คันต่อเดือน” นายมิทซึจิกล่าว

ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวด้วยว่า คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จะเติบโตกว่าปีที่ผ่านๆ มาอย่างแน่นอน ซึ่งหมายถึงการทำสถิติใหม่ของยอดขายและกำไรสุทธิอีกครั้ง หลังจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2556 (ม.ค.-มี.ค.) มีกำไรสุทธิ 91.30 ล้านบาท เติบโตประมาณ 63.6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากการที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์เชิงรุก ประกอบกับสามารถติดตามหนี้สินที่ได้ตั้งสำรองหนี้สูญก่อนหน้านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ให้ความสำคัญในการสร้างแบรนด์และการสื่อสารเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทำให้มีตัวแทนจำหน่าย (Dealer) รายใหญ่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศกัมพูชา ซึ่ง GLF เป็นรายเดียวที่ได้รับสิทธิ์จากฮอนด้าในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในกัมพูชานั้น นายมิทซึจิ กล่าวว่า จากการทำตลาดและเก็บข้อมูลของผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ในกัมพูชา พบว่ามีศักยภาพสูงมาก โดยขณะนี้ GLF ได้ขยายสาขาจาก 11 สาขาเป็น 15 สาขาแล้ว โดยอยู่ในกรุงพนมเปญ 12 แห่ง ในพระตะบอง 2 แห่ง และในรัตนคีรี 1 แห่ง ซึ่งขณะนี้ได้จัดทำฐานข้อมูลของลูกค้าที่พร้อมสำหรับการรุกตลาดอย่างระมัดระวัง มีเงื่อนไขของการปล่อยกู้ที่เข้มงวดพอสมควร แม้ว่าที่ผ่านมาจะไม่มีหนี้เสียเกิดขึ้นจากการเบี้ยวหนี้เลยก็ตาม

“เมื่อฐานข้อมูลพร้อม ระบบพร้อม คนของเราพร้อม การเพิ่มจำนวนการปล่อยสินเชื่อในอัตราก้าวกระโดดก็ไม่ใช่เรื่องยาก ดังนั้น เป้าหมาย 2,000 คันต่อเดือน ในไตรมาส 3 จึงยังมั่นใจว่าจะทำได้ นอกจากนั้น เรายังได้มองช่องทางในการเข้าซื้อกิจการของผู้ประกอบธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในกัมพูชา เพื่อจะได้ขยายธุรกิจของเราได้รวดเร็วขึ้นด้วย” นายมิทซึจิกล่าว