นายโทบี้ สมิธ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์ ของคาเธ่ย์ แปซิฟิค กล่าวว่า “ชั้นโดยสารเฟิร์สคลาสของเราได้รับความนิยมจากผู้โดยสารตั้งแต่เปิดตัวในปี พ.ศ. 2550 อีกทั้งยังได้รับรางวัลมาแล้วหลายรางวัล ถึงแม้ว่าชั้นโดยสารเฟิร์สคลาสของเรายังคงได้รับความนิยมอยู่ แต่เราก็ยังคงเดินหน้าในการเปลี่ยนโฉมชั้นเฟิร์สคลาสของเราใหม่ทั้งหมดพร้อมทั้งเพิ่มเติมความสะดวกสบายอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการเดินทางให้แก่ผู้โดยสารระดับพรีเมียม สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของคาเธ่ย์ แปซิฟิค ในการมอบการบริการที่เป็นเลิศให้แก่ผู้โดยสารทุกท่าน”
“เพื่อที่จะมอบประสบการณ์อันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตั้งแต่ภาคพื้นดินจนถึงภายในเครื่องแก่ผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส เราจึงมอบหมายให้สำนักงานสถาปนิก Foster + Partners ที่มีสำนักงานใหญ่ ณ กรุงลอนดอน และเป็นผู้ออกแบบห้องรับรอง เดอะวิง สำหรับผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส เป็นผู้ออกแบบห้องโดยสารเฟิร์สคลาสรูปโฉมใหม่นี้” นายโทบี้ กล่าวเพิ่มเติม
ด้านนอกของที่นั่งได้รับการตกแต่งด้วยสีเทาเข้ม สุดหรูในขณะที่ภายในตกแต่งด้วยหนังโทนสีอุ่นเพื่อมอบความรู้สึกหรูหราแต่ให้สัมผัสนุ่มนวล ส่วนคอนโซลด้านหน้าและด้านในของห้องโดยสารแต่ละที่นั่งบุด้วยหนังธรรมชาติ ด้วยเส้นสายและการเดินเส้นที่อ่อนช้อย เพื่อมอบความรู้สึกที่สะอาดตาและหรูหรา ผ้าที่ใช้บุที่นั่งสั่งทำพิเศษโดยเป็นผ้าที่ได้รับการคัดเลือกพิเศษที่มอบทั้งความนุ่มนวลและลื่นไหลเมื่อสัมผัส
นอกจากนี้ในห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาสยังได้รับการติดตั้งผลงานศิลปะด้วยมือ ที่ทำจากทองแดงและเหล็ก โดยเป็นผลงานงานของ มาเรีย โลโบ และ ลินดา เลวินตัน ซึ่งต่างก็สลักผลงานของตัวเองพร้อมทั้งวาดด้วยมือ ด้วยสีที่ประสานสอดคล้องกัน
การออกแบบห้องโดยสารเฟิร์สคลาสใหม่นั้น ยังได้นำข้อคิดเห็นที่ได้รับจากสมาชิกบัตรมาร์โคโปโล มาใช้ในการออกแบบรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ด้วย รวมถึงที่วางถาดที่สามารถปรับประดับได้มากขึ้น เพิ่มพื้นที่มากขึ้นในช่องเก็บของส่วนตัวรวมถึงช่องคอนโซลด้านหน้าสำหรับสัมภาระส่วนตัว เช่น โทรศัพท์ และแก้ว ที่วางแก้วได้รับการจัดวางให้อยู่ด้านใหม่ของคอนโซลเพื่อป้องกันถ้วยและแก้วขยับในขณะที่เครื่องตกหลุมอากาศ ในส่วนห้องน้ำ ได้มีการติดตั้งอ่างล้างหน้าและเคาน์เตอร์ทอปที่ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะเพื่อทำให้เกิดบรรยากาศใหม่ ๆ
อีกหนึ่งความสะดวกสบายที่คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้เพิ่มเติมในชั้นเฟิร์สคลาสคือ จอแอลซีดี ระบบสัมผัสขนาด 4.3 นิ้ว ที่ช่วยควบคุมการปรับระดับของที่นั่งและการพยุงส่วนหลังรวมถึงปิดและเปิดไฟเพียงแค่สัมผัสเดียว นอกจากนี้ยังมีไฟสำหรับอ่านหนังสือที่ผู้โดยสารสามารถปรับระดับความสว่างได้ถึง 5 ระดับด้วยปุ่มปิดและเปิดเฉพาะบนจอควบคุมและสามารถปรับองศาการหมุนได้กว้างกว่าเดิม เพื่อที่ผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบายในการอ่านและเขียนหนังสือในทุกอิริยาบทขณะนั่ง
ระบบเพื่อความบันเทิงได้รับการปรับปรุงด้วยการติดตั้งหูฟัง BOSE QuietComfort? 15 Acoustic Noise Cancelling? ที่มอบคุณภาพเสียงที่ชัดเจนยิ่งขึ้นให้ผู้โดยสารได้เพลิดเพลินกับหนังและเพลงได้อย่างเต็มที่ แต่ละที่นั่งได้รับการติดตั้ง มัลติ พอร์ต คอนเนกเตอร์ สำหรับการเชื่อมต่อพอร์ต iphone/iPod และพอร์ตยูเอสบี (USB) ทำให้ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์และดูวิดีโอผ่านทางจอส่วนตัว รวมถึงเชื่อมต่อพอร์ตยูเอสบีเมื่อต้องการชาร์ตอุปกรณ์เช่นโทรศัพท์มือถือ
เพื่อเพิ่มคุณภาพในการนอนซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางระยะไกล เบาะที่นอนได้รับการออกแบบและปรับปรุงใหม่ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการนอนคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นผ้าคลุมหัวเตียงผ้าคลุมเบาะ และผ้าคลุมเตียงที่ใช้ผ้าคอตตอนทอ 500 เส้นที่ให้ผิวสัมผัสนุ่มนวล นอกจากนี้ยังได้เพิ่มความหนาของเบาะเพื่อเพิ่มความสบายในการนอน พร้อมด้วยชุดนอนชุดใหม่จากผ้าคอตตอนออร์แกนิค 100% ออกแบบโดยแบรนด์ PYE ของฮ่องกง
คาเธ่ย์ แปซิฟิคยังมอบกระเป๋าอุปกรณ์ของใช้บนเครื่องบิน (amenity kit) แบรนด์ Ermenegildo Zegna สีดำสำหรับผู้ชายและแบรนด์ Trussardi สำหรับผู้หญิง ซึ่งภายในประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด แบรนด์ Aesop
เครื่องบินลำแรกที่ได้รับการติดตั้งชั้นเฟิร์สคลาสรูปโฉมใหม่คือเครื่องบินรุ่นโบอิ้ง 777-300ER ซึ่งเริ่มบินในวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมาและการติดตั้งชั้นเฟิร์สคลาสใหม่จะแล้วเสร็จทั้งหมดในช่วงไตรมาส 3ของปี 2557 ทั้งนี้ ชั้นเฟิร์สคลาสของเครื่องบินรุ่น โบอิ้ง 747-400 ของคาเธ่ย์ แปซิฟิค ไม่ได้อยู่ในโปรแกรมการอัพเกรดเนื่องจากอยู่ในขั้นตอนของการปลดระวาง