ตลาดน้ำแร่เดือด “อิตัลไทยอุตสาหกรรม” ภายใต้ “อิตัลไทยกรุ๊ป” โหมตลาดน้ำแร่พรีเมียม ทุ่ม 20 ล้านบาท ฉลองครบรอบ 150 ปี “น้ำแร่เปอริเอ้” (Perrier) น้ำแร่ธรรมชาติชนิดมีฟอง ขีดสุดแห่งความสดชื่นจากการผสมผสานระหว่างคุณค่าแร่ธาตุธรรมชาติและฟองซ่าที่ผลิตจากแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติประเทศฝรั่งเศส จับตลาดในกระแสรักสุขภาพและเจาะกลุ่ม Niche Market โดยใช้กลยุทธ์ “Celebrity Marketing” เพื่อให้เข้าถึงตลาดไฮเอนด์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมบุกตลาดเชิงรุกภายใต้แนวคิด “The Ultimate Refreshment” ตั้งเป้าปี 2557 โต 30% มุ่งขยายฐาน Young Celebrity มากขึ้น หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 40% เป็น 50% ในปี 2557 ในตลาดน้ำแร่นำเข้า
นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อิตัลไทย โดยบริษัท อิตัลไทย อุตสาหกรรม จํากัด (ITALTHAI Industrial : ITI) เปิดเผยว่า “อิตัลไทยอุตสาหกรรม” เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย น้ำแร่ธรรมชาติชนิดมีฟอง เปอริเอ้ (Perrier) แบรนด์น้ำแร่ระดับโลก จากแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติประเทศฝรั่งเศส ซึ่งนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยกว่า 25 ปีแล้ว และในปีนี้เป็นปีที่ เปอริเอ้ มีอายุครบ 150 ปี จึงได้ร่วมเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่พร้อมกับประเทศอื่นๆ อีก 144 ประเทศทั่วโลก ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งการจัดโปรโมชั่นคืนกำไรให้กับลูกค้า ใน Supermarket ระดับพรีเมี่ยม ด้วยโปรโมชั่น ซื้อ 2 ขวด แถม 1 ขวด การจัดทำคูปองส่วนลดส่งไปให้กับสมาชิกบัตร Spot Reward ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยมของ Tops รวมไปถึงการร่วมมือกับร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำ โดยการนำ เปอริเอ้ มาเป็นส่วนผสมในการผสม Cocktail, Mocktail สูตรพิเศษและขายในราคาพิเศษ
ปัจจุบัน เปอริเอ้ มีจำหน่ายอยู่ด้วยกัน 3 ขนาด คือ เป็นขวดแก้วขนาด 33 cl. และ ขนาด 75 cl. และแบบกระป๋องขนาด 33 cl. ซึ่งยอดขายของ เปอริเอ้ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2553 เฉลี่ยปีละ 10-15 % และในปี 2556 นี้ คาดว่าจะมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 20 %
ทางด้านเป้าหมายในการสร้างแบรนด์ เปอริเอ้ ในปี 2557 ยังคงมุ่งเน้นที่ความเป็น Premium Natural Sparkling Mineral Water (น้ำแร่ธรรมชาติที่มีฟองจากธรรมชาติระดับพรีเมี่ยม) โดยวางแผนในการสร้างแบรนด์ เพิ่ม Visibility ในช่องทางการจัดจำหน่ายทั้ง On Premise และ Off Premise เพื่อสร้าง การรับรู้และเป็นที่รู้จักในวงกว้างให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งการใช้สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์เพิ่มขึ้นทั้งช่องทาง Online และ Offline เพื่อตอกย้ำแบรนด์ควบคู่กันไป โดยยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ (New User) โดยเฉพาะกลุ่ม Young Generation ที่มีกำลังซื้อ รวมทั้งมีการวางแผนโปรโมชั่นสนับสนุนในช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้ง่ายกับการตัดสินใจซื้อของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเดิมของ เปอริเอ้ เป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อายุ 30-40 ปี มีรายได้ระดับ B+ ถึง A
นายยุทธชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวทางในการทำตลาด Perrier จะมุ่งเน้นทำตลาดในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด “The Ultimate Refreshment” โดยเน้นจับกลุ่ม Niche Market โดยเลือกใช้กลยุทธ์ “Celebrity Marketing” ทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่และการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย (New Outlet) เพื่อเข้าถึงตลาดไฮเอนด์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยครอบคลุมไปยังช่องทางการจัดหน่ายได้แก่ Fine dining, Coffee Chain, โรงแรมระดับ 4-5 ดาว โดยได้แบ่งสัดส่วนช่องทางการขาย Off Premise 50% (Modern Trade, Supermarket) และ On Premise 50% (โรงแรม ร้านอาหาร Coffee Shop, Club, Pub) และเพิ่มจำนวนฐานลูกค้าให้หันมาดื่มน้ำแร่ให้มากขึ้น (New User) โดยการเพิ่มทางเลือกในการดื่ม Perrier ด้วยวิธีต่างๆ เช่น Cocktail, Mocktail
ในปี 2557 บริษัทฯ วางเป้าหมายยอดขายเติบโต 30% โดยขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Young Celebrity มากขึ้น ซึ่งมูลค่าตลาดรวมน้ำดื่มในปัจจุบันมีถึง 23,000 ล้านบาท โดยตลาดน้ำแร่มีมูลค่าตลาดประมาณ 3,800 ล้านบาท และในปีนี้อัตราเติบโตประมาณ 20% ซึ่งสามารถแบ่งตลาดออกเป็น 2 แบบ คือตลาดน้ำแร่ในประเทศ (Local Mineral Water) ประมาณ 3,100 ล้านบาท และตลาดน้ำแร่นำเข้า (Import Mineral Water) หรือ น้ำแร่ระดับพรีเมี่ยมที่มีมูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท โดยสัดส่วนของน้ำแร่ธรรมชาติแบบไม่มีฟองในตลาดน้ำแร่นำเข้า (Still Mineral Water) คิดเป็น 80% และน้ำแร่ชนิดมีฟอง (Sparkling Mineral Water) คิดเป็น 20%
ปัจจุบัน “เปอริเอ้” จัดเป็นกลุ่มน้ำแร่นำเข้าระดับพรีเมี่ยม เป็นน้ำแร่ชนิดมีฟอง (Sparkling Mineral Water) จากธรรมชาติ มีส่วนแบ่งตลาดคิดเป็น 40% ของน้ำแร่ชนิดมีฟอง ซึ่งเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด และคาดว่าในปี 2557 จะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 50% อันเนื่องมาจากการบุกตลาดอย่างจริงจังด้วยงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท รวมถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่และจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นตลาดและยอดขายอย่างต่อเนื่อง
นายยุทธชัย กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า “ตลาดน้ำแร่พรีเมี่ยม เป็นตลาดระดับบน ซึ่งก่อนหน้านี้ การทำการตลาดน้ำแร่นำเข้าที่มีราคาค่อนข้างสูงนั้น จะเน้นจับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะนักท่องเที่ยว แต่ในปัจจุบันได้ขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าคนไทยระดับบนมากขึ้น โดยจะเป็นกลุ่มที่เคยศึกษาหรือทำงานในต่างประเทศแล้วกลับมาอยู่เมืองไทย นอกจากนี้กระแสการบริโภคน้ำแร่นำเข้ายังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคกลุ่มไฮโซที่มีพฤติกรรมหันมาดื่มน้ำแร่กันมากขึ้น การแข่งขันในตลาดจึงค่อนข้างสูง ทั้งในเรื่องของราคาและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ โดยตลอด 3 ปี ที่ผ่าน ประเทศไทยมีน้ำแร่จากประเทศในแถบเอเชียนำเข้าเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการซื้อสินค้าประเภทนี้มากขึ้นด้วย แต่ผู้นำตลาดในกลุ่มน้ำแร่นำเข้า ก็ยังเป็นน้ำแร่ที่นำเข้าจากฝรั่งเศส”