จากปีที่ผ่านมา ที่เศรษฐกิจทั่วโลกได้ขับเคลื่อนไปอย่างช้าตรงข้ามกับอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นักวิเคราะห์ที่ eMarketer ประมาณการว่าปริมาณการซื้อขายอีคอมเมิร์ซทั่วโลกจะเติบโตต่อเนื่องถึง ถึง $1,221.29 ล้าน ดอลล่าร์สหรัฐ ภายในสิ้นปีนี้เนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วในเอเชียและการเปลี่ยนนิสัยการช้อปปิ้งทั่วโลก ในปี 2014 ก็คาดว่าจะสูงถึง $ 1,444.97 พันล้าน ดอลล่าร์สหรัฐ ราคูเท็น หนึ่งในผู้ให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซและอินเตอร์เน็ตระดับโลก เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาครั้งนี้ โดยล่าสุดในวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทได้รับการเลื่อนอันดับให้เป็นหนึ่งใน First Section ของตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE) ซึ่งถือเป็นตลาดทุนเดียวกับสำหรับกลุ่มธุรกิจชั้นนำของญี่ปุ่น หลังจากผลการดำเนินงานสิ้นสุด ณ ไตรมาสที่สามของปี 2013 รายงานมีปริมาณการทำธุรกรรมที่ได้รับการจดทะเบียนมูลค่าสูงถึง 1,297.5 พันล้านเยน
การเลื่อนอันดับขึ้นเป็นหนึ่งใน First Section ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE) นั้นเป็นสิ่งที่แสดงถึงการเติบโตไปอีกขึ้นของราคูเท็น“ จากจุดเริ่มต้นในเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2540 ที่มีสมาชิกเพียงหกคนร่วมบุกเบิกเปิดตัวราคูเท็นในช่วงเวลาที่อินเตอร์เน็ตยังไม่ได้รับความน่าเชื่อถือเท่าไรนัก โดยในปี พ.ศ.2543 เราถูกจัดอันดับอยู่ใน JASDAQ ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์สำหรับบริษัทจดทะเบียนใหม่ มาวันนี้ทั้งอินเทอร์เน็ตและอีคอมเมิร์ซได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา การเติบโตของเราและการได้เลื่อนอันดับเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวนั้นถือเป็นสิ่งยืนยันให้ถึงถึงการพัฒนาและการเจริญเติบโตของเราได้เป็นอย่างดีนอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงอนาคตที่สดใสของเราอีกยาวนาน”ฮิโรชิ มิกิทานิ ซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง ราคูเท็น อิงค์กล่าว
ตัวเลขที่สำคัญจากไตรมาสที่สาม ในปี 2013
ในประเทศญี่ปุ่นนั้น บริษัทสามารถเพิ่มรายได้ในส่วนของอีคอมเมิร์ซได้เป็นอย่างมาก เห็นได้จาก ราคูเท็นอิชิบะ เพิ่มจาก 23.2 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี เป็น 422.4 พันล้านเยน (ไตรมาสที่3 ปี 2013) ผลกำไรเพิ่มขึ้นจาก 17.1 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับ ปี 2013 เพิ่มขึ้นเป็น 23.4 พันล้านเยน ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของราคูเท็นในระดับนานาชาติก็ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามเช่นกัน โดยรายงานระบุว่า มีกำไรเพิ่มขึ้น 52.2 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว และมีปริมาณการค้ารวมมูลค่ากว่า 51.1 พันล้านเยน โดยความสำเร็จที่เกิดขึ้นข้างต้นนี้เกิดจากความใส่ใจ และมุ่งเน้นไปที่ผู้ขายและผู้ซื้อ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นไปที่การสังเกตพฤติกรรมของผู้บริโภครวามถึงการให้บริการผ่านโทรศัพท์มือถือ และการจัดโปรโมชั่นที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายอย่างRakuten B2B2C การจัดมหกรรมลดราคา อย่างเช่น ราคูเท็นซุปเปอร์เซลล์ หรือ ราคูเท็นวิคตอรี่เซลล์ ในโอกาสที่ ราคูเท็น อีเกิลส์ ได้รับรางวัล แชมป์ในลีกเบสบอลของญี่ปุ่นในปีนี้ก็มีส่วนทำให้ธุรกิจเจริญเติบโตเช่นกัน
การสร้าง ราคูเท็น อีโคซิสเท็ม ไปทั่วโลก
ราคูเท็นก้าวไปอีกขั้นในไตรมาสที่ 3 ปี 2013 ได้เข้าซื้อกิจการแพลตฟอร์มอินเตอร์เนชั่นแนล วีดีโอสตรีมมิ่ง ของ วีกิ (Viki) จากความร่วมมือในการซื้อขายในครั้งนี้ ทำให้ราคูเท็นเป็นบริษัทที่มีความเข้มแข็ง ในส่วนของสื่อดิจิตอล และมีการขายตัวถึง 16 พันล้าน ดอลล่าร์สหรัฐ และในตอนนั้นถือเป็นการเริ่มเข้ามาของ อีโค่ซิลเท็ม (ecosystem) ราคูเท็นเริ่มลงทุนในสื่อดิจิตัลตั้งแต่ปี 2012 ด้วยการซื้อกิจการของ Kobo ผู้นำระดับโลกใน ด้าน eReading ที่มีหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เกือบสี่ล้านเล่ม ไม่ว่าจะเป็นนิตยสารและหนังสือพิมพ์นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนถึง 18 ล้านคนใน 190 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ราคูเท็นได้ซื้อวากิทีวี (Wuaki.tv) กิจการวีดีโอของประเทศสเปน ในปีเดียวกันและได้ขยายการให้บริการวากิทีวีไปยังสหราชอาณาจักร วีกิเป็นต้นแบบในการวางแผลกลยุทธ์ของวากิทีวีเป็นอย่างยิ่ง โดยการซื้อกิจการทั้งสองนี้ช่วยให้ราคูเท็น ได้เวลาออกอากาศนช่วงไพร์มไทม์ (primetime) และมีซีรีย์เรื่องยาวออกอากาศในช่องโทรทัศน์ชั้นนำเพิ่มขึ้น
