ประชากรครึ่งหนึ่งของโลกอาศัยอยู่ในเมือง และจากผลการศึกษาของ OMA องค์กรที่เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม ชุมชนเมืองและการวิเคาระห์ด้านวัฒนธรรมระดับโลกพบว่า ในปี ค.ศ. 2050 จำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองจะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วของชุมชนเมืองเช่นนี้ การพัฒนาเมืองส่วนใหญ่จึงเน้นไปที่การใช้งานเป็นหลัก ทำให้ขาดการให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์หรือกิจกรรมที่สร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่างคนและเมืองซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างเสน่ห์และอัตลักษณ์ให้กับทุกชุมชนเมืองอย่างน่าเสียดาย
บริษัท อั๊คโซ่โนเบล ในฐานะผู้ผลิต และจัดจำหน่ายสีชั้นนำระดับโลก ภายใต้แบรนด์สีดูลักซ์ ได้ร่วมมือกับ OMA เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสีสันและการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยกลั่นกรองเป็นแนวคิดใหม่ที่ชื่อว่า “Human Cities” มีเป้าหมายเพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงชุมชนเมืองให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นซึ่งประกอบไปด้วยปัจจัยที่หลากหลาย ทั้งนี้ปัจจัยที่เห็นได้ชัดว่ามีสวนช่วยสร้างชีวิตชีวาให้กับเมืองนั้นก็คือสถานที่สาธารณะ หากเมื่อไรที่เมืองได้สร้างพื้นที่สาธารณะให้ค่อยๆเพิ่มขึ้น คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นๆย่อมเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของเกิดความรักต่อสถานที่ แต่ถ้าเมื่อไรความรู้สึกที่ว่านี้ขาดหายไป ความสัมพันธ์ระหว่างคนและเมืองย่อมอ่อนแอตามไปด้วย
ฉะนั้นสวนสาธารณะจึงได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นสถานที่สาธารณะที่มีอยู่คู่ในทุกๆเมืองเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ง่ายต่อการเข้าถึงและสามารถเชื่อมโยงกับชุมชนที่อยู่โดยรอบได้อย่างลงตัว เพราะสวนสาธารณะคือสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ช่วยพัฒนาเมืองเพราะการที่ผู้คนได้มาผ่อนคลาย พบปะสังสรรค์กัน และเล่นกีฬาจะทำให้มีร่างกายที่แข็งแรงและจิตใจที่เบิกบาน ซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญในกาพัฒนาประเทศ เช่นเดียวกับกรุงเทพมหานครที่ให้ความสำคัญกับสวนสาธารณะ โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องสวนและต้นไม้นับตั้งแต่มีพระราชบัญญัติจัดตั้งเทศบาลนครกรุงเทพ พ.ศ. 2479 จวบจนปัจจุบัน ในฐานะองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องสี บริษัท อั๊คโซ่ โนเบล เพ้นท์ส (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยการสนับสนุนจาก อั๊คโซ่โนเบล คอมมูนิตี้ โปรแกรม (AkzoNobel Community Program) จึงได้จัดกิจกรรม “Paint & Plant in The Park” ที่สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เพื่อช่วยเพิ่มสีสันและชีวิตชีวาให้แก่สถานที่ผ่อนคลายและเล่นกีฬาของชาวดอนเมือง ด้วยความเชื่อว่าสวนสาธารณะจะช่วยจรรโลงให้เมืองสดใสยิ่งขึ้น
สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เดิมคือสวนป่าสีกัน สำนักงานเขตดอนเมืองได้รับมอบจากกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2540 และได้ปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจและนันทนาการ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2548 โดยได้รับพระราชทานชื่อ “รมณีย์ทุ่งสีกัน” จากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีความหมายว่า สวนที่ให้ความรื่นรมย์ใจประจำทุ่งสีกัน บนเนื้อที่ 15 ไร่ สวนอเนกประสงค์แห่งนี้เป็นทั้งสถานที่ออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่รองรับกิจกรรมที่หลากหลายทั้งทางเดิน-วิ่ง เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง ศาลาพักผ่อน ห้องสมุดรวมถึงลานอเนกประสงค์ที่สามารถใช้เป็นจุดพักผ่อนและจัดกิจกรรมในโอกาสต่างๆ
สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เคยประสบภัยน้ำท่วมหนักเมื่อ พ.ศ. 2554 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทุกระดับต่างร่วมแรงฟื้นฟูจนสวยงามขึ้นมาใหม่อีกครั้ง กิจกรรม“Paint & Plant in the Park” ในครั้งนี้เป็นการเข้าไปเติมสีสันใหม่ให้กับหอนาฬิกา ศาลากลางน้ำ และอัฒจันทร์กลางแจ้งทรงครึ่งวงกลมซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของสวนที่ใช้จัดกิจกรรมกีฬาและสันทนาการต่างๆ ของคนในชุมชน พร้อมด้วยการสร้างที่จอดรถสำหรับคนพิการ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มความสดชื่นสวยงามให้แก่สวนด้วยการร่วมปลูกไม้ยืนต้น และสวนดอกไม้เพื่อให้ผู้เข้าใช้บริการรู้สึกสดใสทุกครั้งที่ได้มาผ่อนคลาย ณ สวนแห่งนี้
คุณวีนา วงศ์สินธุ์เชาว์ ผู้อำนวยการกลุ่มสวนสาธารณะ 2 สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับสวนสาธารณะอย่างมาก โดยเฉพาะในสมัยของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 4 ปีนี้ มีนโยบายจัดให้มีพื้นที่สีเขียวไม่น้อยกว่า 5,000 ไร่ โดยต้องมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ไม่น้อยกว่า 10 แห่ง ซึ่งภายใน 2 ปีนี้มีจัดสร้างสวนสาธารณะเพิ่มจำนวน 6 แห่ง นอกจากนี้ยังเตรียมสร้างสวนสุนัขให้ครบ 4 มุมเมืองอีกเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตในปัจจุบันที่คนเมืองมาใช้บริการสวนสาธารณะเพิ่มขึ้น คนหันมาใส่ใจสุขภาพและการใช้ชีวิตอย่างสมดุลมากขึ้น นอกจากประโยชน์ในการพัฒนาจิตใจแล้ว คนที่มาสวนสาธารณะนั้นจะมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งชมรมวิ่ง กลุ่มไท้เก๊ก กลุ่มแอโรบิค กลุ่มลานเพาะกาย เป็นต้น ตลอดจนการรวมกลุ่มเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ เพื่อสาธารณะประโยชน์อยู่เรื่อยๆ อาทิ การวิ่งหรือการเล่นดนตรีเพื่อการกุศล สวนสาธารณะก็พยายามพัฒนาเพื่อเป็นสถานที่สำหรับคนทุกวัยได้มาใช้ประโยชน์ในกิจกรรมที่หลากหลาย”
นายเมธี วิริยะวารี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อั๊คโซ่ โนเบล เพ้นท์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การทำกิจกรรมในสวนสาธารณะช่วยสร้างความสุขและพัฒนาอัตลักษณ์ของชุมชน ซึ่งเป็นความจำเป็นทางด้านเศรษฐศาสตร์เพราะอนาคตของชุมชนเมืองขึ้นอยู่กับการมีปฏิสัมพันธ์ของผู้คนในชุมชน พื้นที่สำหรับชุมชนที่เราสามารถปลดปล่อยและผ่อนคลายนั้นควรมีอยู่ในทุกเมือง ทุกพื้นที่ควรได้รับการสร้างสีสันให้สดใสอยู่เสมอเพื่อบรรยากาศที่ดีในการสร้างความสุขและการดำเนินชีวิตที่มีสุขภาพที่ดีให้กับคนในชุมชน เราเชื่อว่าสีสันมีอิทธิพลมากกว่าสิ่งที่ตามองเห็น สีสันมีผลด้านอารมณ์ความรู้สึกช่วยสร้างชีวิตชีวาให้กับเมืองทั้งด้านสังคม วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสีสันเราจะยังคงมุ่งมั่นสร้างกิจกรรมที่มีประโยชน์เพื่อช่วยให้เมืองของเรามีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น”
คุณวีนา กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเข้ามาทำกิจกรรมของบริษัทฯ ในครั้งนี้ดีมากๆ เพราะสีนั้นช่วยเปลี่ยนแปลงสวนให้สวยสดใส ผู้คนจะรู้สึกสดชื่นได้ในทันทีที่พบเห็น เป็นการคืนความสดใสให้กับชาวดอนเมืองได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้มาใช้บริการอย่างเข้มงวด เพราะสวนสาธารณะทุกแห่งในกรุงเทพมหานครได้ติดตั้ง CCTV และมีพนักงานรักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง สวนสาธารณะช่วยในการพัฒนาทางจิตใจ สร้างสังคมที่มีปฏิสัมพันธ์ที่ดี ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย พักผ่อนหย่อนใจ และมีทั้งเครื่องฟิตเนส เครื่องออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ เครื่องเล่นสำหรับเด็ก เพียงพอสำหรับทุกเพศทุกวัย”
เมืองที่น่าอยู่นั้นไม่เพียงแต่ความทันสมัยและสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ความมีชีวิตชีวาของสังคมเมืองต่างหากที่จะช่วยหล่อเลี้ยงให้คนมีความสุขและต่อยอดเป็นการพัฒนาศักยภาพของตัวเองและเมืองได้ในที่สุด ความมีชีวิตชีวานั้นไม่มีขาย เพราะมีอยู่ในตัวของเราทุกคน เพียงแค่พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายและปลอดปล่อยความเป็นตัวตนออกมา เท่านี้เมืองของเราก็จะมีชีวิตชีวาจากปัจจเจกบุคคลที่รวมตัวกันเป็นสีสันที่มีเสน่ห์อย่างที่ไม่สามารถสร้างวัตถุใดๆขึ้นมาทดแทนได้เลย