การขึ้นนั้งเก้าอี้ใหญ่ของ “สุพัตรา” จึงไม่ธรรมดา เธอเข้าทำงานในยูนิลีเวอร์มา 21 ปี ผ่านทั้งงาน “บู๊ และบุ๋น” ทั้งในไทย และในระดับภูมิภาค
เริ่มงานกับยูนิลีเวอร์ในปี 2535 ในตำแหน่งผู้จัดการวิจัยตลาดผลิตภัณฑ์เส้นผม ศูนย์นวัตกรรมเส้นผม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากนั้นเธอก็โลดแล่นในบริษัทแห่งนี้ ทั้งในและต่างประเทศ
หลังจากทำงานในไทยได้สิบกว่าปี รับตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหาร ผลิตภัณฑ์ครัวเรือน และเครื่องใช้บุคคล มาเลเซีย และ ประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ภูมิภาค จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เธอได้ภาพทั้งลึกและกว้าง
เมื่อย้ายกลับมาในไทย นั่งในตำแหน่งรองประธาน กลุ่มธุรกิจอาหาร และไอศครีม ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน อาหาร โดยผลงานที่สร้างชื่อให้กับเธอมาก คือ การทำตลาดไอศครีม “แม็กนั่ม” ให้กลับมาได้รับความนิยม เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะการนำสื่อ โซเชียลมีเดีย มาเป็นหนึ่งในเครื่องมือการตลาดได้อย่างเห็นผล
เมื่อถาม “ไอดอล”ที่เธอประทับใจแล้วส่วนใหญ่ สุพัตราบอกว่า “มีหลายคน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้บริหารของยูนิลีเวอร์ที่เคยร่วมงานกันมา”
คนแรกเลยคือ กรรณิกา ชลิตอาภรณ์ อดีตรองประธานและกรรมการอำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการ ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้ที่รับเธอเข้าทำงานในยูนิลีเวอร์ และเป็นแบบอย่างทั้งในเรื่องการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว และการเปิดรับกับเทคโนโลยี และเทรนด์ใหม่ๆ ได้รวดเร็ว และนำมาปรับใช้อย่างเห็นผล
“คุณกรรณิกาจะเก่งมากในเรื่องของการจับเทรนด์ รู้ว่าอะไรจะเกิด แล้วตัดสินใจทำเลย ที่จริงแล้วผู้บริหารระดับสูงทุกคนคิดไม่ต่างกันหรอก แต่ขึ้นอยู่กับว่าใครจะลงมือได้เร็วกว่ากัน ซึ่งคุณกรรณิกาเป็นแบบอย่างในเรื่องนี้มาตลอด”
ถึงแม้จะมีโรลโมเดลที่เป็นแบบอย่างหลายคน แต่เหนือสิ่งอื่นใดเลย สุพัตราบอกว่า “ต้องมีแบบฉบับของเรา หรือที่เป็นตัวของตัวเรา นี่แหละสำคัญที่สุด”