ฟอร์ดเปิดตัวแอพพลิเคชั่น ‘Ford Roadside Assistance’ พร้อมเดินหน้ายกระดับประสบการณ์หลังการขาย

ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดตัวแอพพลิเคชั่นบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24  ชั่วโมง (Ford Roadside Assistance) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ช่วยตอกย้ำความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศด้านบริการหลังการขายระดับโลกให้แก่ลูกค้าฟอร์ดในประเทศไทย ผ่านการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินด้วยทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

แอพพลิเคชั่น ‘Ford Roadside Assistance’ ออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย เพียงผู้ใช้งานกดปุ่มขอความช่วยเหลือผ่านแอพพลิชั่น ‘Ford Roadside Assistance’ ระบบจะส่งรายละเอียดต่างๆ เช่น ตำแหน่งที่เกิดเหตุ หมายเลขทะเบียนรถ และข้อมูลสมาชิกของผู้ขับขี่ไปยังศูนย์บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินของฟอร์ด จากนั้น เจ้าหน้าที่ของฟอร์ดจะประสานงานกับลูกค้าและช่างผู้ชำนาญการเพื่อมอบความช่วยเหลือให้แก่ผู้ขับขี่อย่างรวดเร็ว

แอพพลิเคชั่น ‘Ford Roadside Assistance’ ยังแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ที่กำลังเดินทางไปให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้ลูกค้าวางใจได้ว่าช่างผู้ชำนาญการที่เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากบริษัท นอกจากนี้ ระบบยังแสดงตำแหน่งการเดินทางของช่างเทคนิคว่าอยู่ห่างจากคุณออกไปเป็นระยะทางเท่าไร เพื่อมอบความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าที่กำลังรอรับความช่วยเหลือ

ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่น ‘Ford Roadside Assistance’ รองรับการใช้งานทั้งบนไอโฟน ไอแพด และแอนดรอยด์ โดยลูกค้าที่ซื้อรถฟอร์ดใหม่ทุกคันจะได้สิทธิ์รับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินทั้งผ่านระบบปกติและผ่านแอพพลิเคชั่น ‘Ford Roadside Assistance’ ฟรีตลอด 3 ปีแรก และสามารถจ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อต่ออายุบริการหรือสมัครสมาชิกใหม่ได้ในปีถัดไป

“เราเริ่มเปิดให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ‘Ford Roadside Assistance’ ครั้งแรกในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าฟอร์ด ปัจจุบัน มีลูกค้าดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นนี้แล้วกว่า 6,500 ราย นับเป็นจำนวนที่น่าพอใจอย่างยิ่ง” นายวิชิต ว่องวัฒนาการ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการบริการลูกค้า ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว “แอพพลิเคชั่น ‘Ford Roadside Assistance’ นับเป็นนวัตกรรมล่าสุดที่แสดงให้ถึงความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับประสบการณ์หลังการขายด้วยการมอบความสะดวกสบายและบริการที่เป็นเลิศให้แก่ลูกค้าฟอร์ดอยู่เสมอ”

ควบคู่กับการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ฟอร์ดยังมอบบริการ “เปลี่ยนแบตเตอรี่นอกสถานที่” แบบ One-stop service เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อตอบสนองต่อการใช้งานจริงของลูกค้า เนื่องจากฟอร์ดพบว่ากว่าร้อยละ 40 ของลูกค้าที่ใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับแบตเตอรี่

นอกจากการมอบความอุ่นใจให้แก่ผู้ขับขี่แล้ว แอพพลิเคชั่น ‘Ford Roadside Assistance’ ยังรวบรวมบริการอื่นๆ อีกมากมายเอาไว้ด้วย อาทิเช่น

· “Live Traffic” บริการรายงานการจราจรที่ช่วยให้ผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงเส้นทางรถติด และวางแผนการเดินทางให้ไปถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็ว

· “Around Me” นำเสนอข้อมูลสถานที่สำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นปั๊มน้ำมัน ธนาคาร โรงพยาบาล ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมเส้นทางไปยังสถานที่ดังกล่าว

· “Find My Car” ฟังก์ชั่นระบุตำแหน่งที่จอดรถเสมือนมีเครื่องช่วยจำ ช่วยให้ผู้ขับขี่สบายใจและไม่ต้องกังวลว่าจะลืมตำแหน่งที่จอดรถ

· “Dealer Search” ช่วยหาตำแหน่งที่ตั้ง เส้นทาง ข้อมูลการให้บริการ และหมายเลขโทรศัพท์ของศูนย์บริการฟอร์ดทั่วประเทศ

ฟอร์ดยังคงเดินหน้ายกระดับบริการหลังการขายเพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยบริการระดับโลกอีกหลากหลายรายการ อาทิ โปรแกรมจัดส่งอะไหล่ภายใน 24  ชั่วโมง (24-Hour Parts Delivery Guarantee) ที่ฟอร์ดพร้อมจัดหาอะไหล่ให้แก่ผู้จำหน่ายทั่วประเทศภายใน 24 ชั่วโมง หรือหากนานกว่านั้นลูกค้าจะได้รับอะไหล่ชิ้นนั้นฟรี โดยโปรแกรมนี้ครอบคลุมชิ้นส่วนอะไหล่กว่า 7,400 รายการจากอะไหล่ 6 กลุ่มหลัก

ฟอร์ดยังพร้อมมอบบริการที่รวดเร็วให้แก่ลูกค้าด้วยบริการ “ควิก เซอร์วิส” (Quick Service) ซึ่งใช้เวลาในการตรวจเช็คตามระยะ เปลี่ยนแบตเตอรี่ ยางปัดน้ำฝนหรือผ้าเบรก พร้อมล้างทำความสะอาดรถภายในเวลาเพียง 60 นาที และฟรีตรวจเช็คสภาพรถ 30 รายการตามมาตรฐานฟอร์ด โดยปัจจุบันมีศูนย์บริการของฟอร์ดที่ให้บริการแบบควิกเซอร์วิสประมาณ 60 แห่ง ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่

รถบริการเคลื่อนที่ ‘โมบาย เซอร์วิส ยูนิต’ ซึ่งเป็นรถฟอร์ด เรนเจอร์จำนวน 94 คัน พร้อมให้บริการตรวจเช็คขั้นพื้นฐานแก่ลูกค้าฟอร์ดในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงการใช้เพื่อให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Emergency Roadside Assistance) แก่ลูกค้าฟอร์ดทั่วประเทศ

ในโอกาสนี้ ฟอร์ดยังได้เปิดตัวภาพยนต์โฆษณาที่จะสื่อสารเกี่ยวกับความอุ่นใจเมื่อเลือกใช้บริการหลังการขายของฟอร์ด โดยวิดีโอโฆษณาทั้ง 2 ชิ้นนี้ จะเปิดให้ผู้บริโภคติดตามชมได้ผ่านทางช่องทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป

“ฟอร์ดให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพด้านบริการหลังการขายของเราอย่างต่อเนื่อง เรามุ่งมั่นแนะนำนวัตกรรมใหม่ๆ และมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แก่ลูกค้า เพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของรถฟอร์ดทุกท่านวางใจได้ว่าท่านจะได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากบริการระดับโลกของฟอร์ด” นายวิชิต กล่าว

ผู้ที่สนใจดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ‘Ford Roadside Assistance’ หรือต้องการทราบข้อมูลด้านบริการหลังการขายของฟอร์ด สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.ford.co.th