นักวิชาการแนะ ไทย ต้องใช้ กลยุทธ์ C L M V + T สร้างตัวเองเป็นศูนย์กลาง AEC

ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์กล่าวในงานสัมมนา OKMD Fast Forward Talk 2014 คิดให้ไกล ไปให้เร็ว” ครั้งที่ 3ในหัวข้อ “ทักษะสร้างสรรค์: ปลุกฝันคนรุ่นใหม่ คว้าโอกาสจากการเปลี่ยนแปลง”เพื่อพัฒนาทักษะของคนรุ่นใหม่ให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงและสร้างข้อคิดดีๆ สำหรับการทำธุรกิจสร้างสรรค์

โดย นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง และ กูรูอาเซียน เปิดเผยว่า หลังจากมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นทางการแล้ว มีความเป็นไปได้สูงมากที่ประเทศไทยจะเป็นฮับทางเศรษฐกิจของอาเซียน รวมไปถึงระดับเอเชีย เพราะประเทศใหญ่อย่าง ประเทศจีน หรือญี่ปุ่น จะหันไปเล่นที่ตลาดโลก โดยเฉพาะจีนที่เป็นคู่แข่งของสหรัฐอเมริกาอย่างเต็มตัวแล้ว ทั้งนี้ก็จำเป็นต้องหาความร่วมมือของประเทศเพื่อนบ้านหรือที่เรียกว่า กลยุทธ์ C L M V + T หรือ ความร่วมมือกันของ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม และ ไทย โดยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางและ เชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่ยังมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจได้ไม่เท่ากับประเทศไทย แต่ทั้งนี้นักธุรกิจในไทยเองก็จะต้องเพิ่มความสามารถ และศักยภาพของตัวเองด้วย

“ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ไม่ใช่ยุคปลาใหญ่กินปลาเล็กอีกแล้ว แต่ปลาเร็วกว่ากำลังกินปลาช้า เราต้องก้าวให้ทัน และนอกจากความเร็วแล้ว ไทยจะผลิตอะไรต้องคิดถึงเรื่องคุณภาพเป็นหลัก และต้องมองการตลาดที่ใหญ่กว่าระดับท้องถิ่นขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นระดับอาเซียน เอเชีย หรือระดับโลก ซึ่งตรงนี้ต้องมีการจัดการนวัตกรรม (Innovation Management) ที่ดี โดยการปรับระบบธุรกิจให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และต้องทำให้การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นโอกาสที่จะก้าวหน้าไปได้เรื่อยๆ แทนที่จะเป็นอุปสรรคด้วย โดยต้องมีวิสัยทัศน์ในการมองความก้าวหน้าทางธุรกิจให้รอบด้าน อีกทั้งยังต้องพัฒนาปัจจัยพื้นฐานหลายๆ ด้าน อาทิ ระบบขนส่ง ระบบการเงิน ระบบทรัพยากรมนุษย์และเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ อีกด้วย”

ด้านนายอารยะ มาอินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า งาน “OKMD Fast Forward Talk 2014 คิดให้ไกล ไปให้เร็ว” มีจุดมุ่งหมายที่จะให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เสริมทักษะและความคิดสร้างสรรค์ การฉีกกรอบความคิดธุรกิจสร้างสรรค์ด้วยการคิดวิเคราะห์ให้เกิดคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคม โดยผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมสัมมนา สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ www.okmd.or.th และ www.facebook.com/OKMDInspire